TWC_ Newsletter
ภาวะผู้นำในยุคของความไม่แน่นอน
ผู้นำล้วนมีวิถีทางการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน รูปแบบเฉพาะตัวนี้เรียกว่า “การลงนามความเปลี่ยนแปลง
ผู้นำมีความสามารถส่วนตัวและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ชาวโรมันมีความสงสัยว่า การบังคับหรือสร้างแรงบันดาลใจจะเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพในการสร้างแรงจูงใจมากกว่ากัน?
ในอดีตผู้นำสร้างความแตกต่างจากคุณสมบัติและความสามารถในการทำงาน แต่งานวิจัยในปัจจุบันพบว่า ผู้นำผู้เป็นที่รักจะเป็นคนที่ซื่อตรง สร้างแรงบันดาลใจ มีความมั่นใจในตนเองและปรับตัวเก่ง งานวิจัยยุคใหม่จึงให้ความสนใจด้านพฤติกรรมหรือสไตล์ของผู้นำ
งานวิจัยชิ้นนี้จัดทำขึ้นเพื่อ สรุปกรอบความคิดที่บูรณาการทฤษฏีภาวะผู้นำรุ่นก่อนร่วมกับสิ่งที่ผู้นำกระทำเป็นรายบุคคลและกระบวนการกลุ่ม ดังนี้
ภาวะผู้นำ คือ การแบ่งปันและกระจายอำนาจ
ภาวะผู้นำ คือ กระบวนการสร้างความเปลี่ยนแปลง
กรอบการทำงานของผู้นำมี 4 ประการ ได้แก่
เคล็ดลับในการสร้างความเป็นไปได้
> ค้นหาแหล่งที่มาและข้อมูลหลายประเภท
>สนับสนุนให้ผู้อื่นมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างความเป็นไปได้
> ไม่ควรลดขั้นตอนการทำงาน
> ก้าวข้ามความรู้สึกแบ่งแยก
> เรียนรู้จากประสบการณ์เล็กๆ
> ใช้ภาพ การอุปมา หรือเล่าเรื่องราว เพื่อสื่อสารถึงเรื่องที่สำคัญ
2) ความสัมพันธ์ พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีทั้งภายในและระหว่างองค์กร
ความสามารถหลักของผู้นำคือการเชื่อมโยงและสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นภายในเครือข่าย โดยการมีส่วนร่วมในสืบค้น สนับสนุน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
การสืบค้นที่ผู้นำมี คือความสามารถในการฟังและเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นคิดและรู้สึก รวมถึงการประเมินผล โดยเข้าใจถึงแนวคิดเบื้องหลังการกระทำของพนักงาน
ผู้นำควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นและยืดหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ตัดสินพนักงานล่วงหน้าและไม่ยึดติดกับมุมมองของตนเองเป็นหลัก ผู้นำควรมีความสามารถในการเชื่อมโยง สร้างความร่วมมือและรวมใจของพนักงานทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เคล็ดลับในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ
> เข้าใจมุมมองของผู้ที่อยู่ในองค์กรและขณะฟังผู้อื่น ไม่ควรตัดสินล่วงหน้า
> สนับสนุนให้ผู้อื่นเสนอความคิดเห็น
> มีจุดยืนชัดเจนและวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
> คำนึงถึงปฏิกิริยาที่ผู้อื่นจะแสดงออกต่อความคิดของคุณและวิธีการที่ดีที่สุดในการอธิบายให้ทีมงานฟัง
> คำนึงถึงผู้ที่อยู่ในเครือข่ายความสัมพันธ์ของคุณ
3) วิสัยทัศน์ วิสัยทัศน์ก่อให้เกิดแรงจูงใจ เกิดมุมมองและวิธีการทำงานใหม่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ทำให้คนเข้าใจความหมายในการทำงานของตนเอง สามารถตอบคำถามได้ว่า "ทำไมฉันจะต้องทำงานชิ้นนี้?" ผู้นำที่ดีสามารถกำหนดกรอบวิสัยทัศน์ที่สำคัญพร้อมกับสร้างคุณค่าหลักขององค์กร
เคล็ดลับสำหรับวิสัยทัศน์ที่มีประสิทธิภาพ
> พัฒนาวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณชื่นชอบหรือสิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญ
> กรอบวิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมาย
> ใช้เรื่องเล่า คำอุปมา อุปมาน เพื่อวาดภาพวิสัยทัศน์ชัดเจนถึงความสำเร็จที่ต้องการ
> ฝึกการสร้างวิสัยทัศน์ในหลายส่วน
> สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยการระบุทักษะ ความสามารถที่ต้องการของผู้อื่น เพื่อตระหนักถึงวิสัยทัศน์
> รวบรวมคุณค่าและความคิดที่อยู่ในวิสัยทัศน์
4) การค้นพบ สร้างวิธีการทำงานแบบใหม่ร่วมกันการค้นพบกระบวนการและโครงสร้างที่จำเป็นสำหรับทำให้วิสัยทัศน์เป็นจริง ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการประยุกต์สู่การปฏิบัติเพื่อให้วิสัยทัศน์ในอนาคตประสบความสำเร็จด้วย
เคล็ดลับในการค้นพบที่มีประสิทธิภาพ
> มุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาวิธีการที่ส่งเสริมให้คนทำงานภายในทีมและองค์กรร่วมกันได้อย่างดี
> เมื่อมีงานใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จะจัดการให้สำเร็จได้อย่างไร ใครคือผู้รับผิดชอบ ลงมือทำเมื่อไหร่ และโครงร่างคืออะไร
> ใช้วิธีการใหม่หรือแตกต่างในการจัดการงาน ตรวจสอบทางเลือกอื่น สร้างความสัมพันธ์ภายในและเชื่อมโยงกับทีมอื่น
> ผสานการสร้างความเป็นไปได้และการค้นพบเข้าด้วยกัน
การพัฒนารูปแบบผู้นำเฉพาะตัว
กรอบการทำงานทั้ง 4 ประการนี้เป็นเพียงเครื่องมือ จึงอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่า จำเป็นต้องใช้เครื่องมือใดและใช้อย่างไร
ภาวะผู้นำมีพื้นฐานที่ประสบการณ์และทักษะ การนำคุณค่า ทักษะ ประสบการณ์เทคนิคและบุคลิกเฉพาะตัวมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน ทำให้บทบาทผู้นำของแต่ละคนมีความเฉพาะตัวในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ เอกลักษณ์การเปลี่ยนแปลงคือวิธีการที่แต่ละคนรวบรวมกรอบการทำงานทั้ง 4 ประเภทและประยุกต์ใช้ในแบบฉบับของแต่ละคน เมื่อผู้นำใคร่ครวญเพื่อสะท้อนประสบการณ์ของตนเอง ผู้นำจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเขาและเขาสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง? บ่อยครั้งที่คนมักจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดมากกว่าความสำเร็จแต่ไม่ว่าอย่างไรทุกประสบการณ์ก็สามารถช่วยฉายแสงได้ว่าคุณเป็นผู้นำประเภทไหน?
ผู้นำในที่นี้คือ การผสมผสานกรอบการทำงานทั้ง 4 ประการเข้ากับเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อก่อให้เกิดประสบการณ์ที่หลากหลาย ผู้นำจะพัฒนาความสามารถ วิธีการสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ตลอดจนการสร้างภาวะผู้นำและความเข้าใจคุณค่าและทักษะการเป็นผู้นำที่ดีขึ้น
โดย เดบบอรา แอนโคนา
ศาสตราจารย์วิทยาลัยการจัดการของ MIT Sloan ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้นำของ MIT
www.the3worldscreator.com
LINE ID : the3worldscreator
Facebook :www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150 Fax. 02-530915
ผู้นำมีความสามารถส่วนตัวและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ชาวโรมันมีความสงสัยว่า การบังคับหรือสร้างแรงบันดาลใจจะเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพในการสร้างแรงจูงใจมากกว่ากัน?
ในอดีตผู้นำสร้างความแตกต่างจากคุณสมบัติและความสามารถในการทำงาน แต่งานวิจัยในปัจจุบันพบว่า ผู้นำผู้เป็นที่รักจะเป็นคนที่ซื่อตรง สร้างแรงบันดาลใจ มีความมั่นใจในตนเองและปรับตัวเก่ง งานวิจัยยุคใหม่จึงให้ความสนใจด้านพฤติกรรมหรือสไตล์ของผู้นำ
งานวิจัยชิ้นนี้จัดทำขึ้นเพื่อ สรุปกรอบความคิดที่บูรณาการทฤษฏีภาวะผู้นำรุ่นก่อนร่วมกับสิ่งที่ผู้นำกระทำเป็นรายบุคคลและกระบวนการกลุ่ม ดังนี้
ภาวะผู้นำ คือ การแบ่งปันและกระจายอำนาจ
ภาวะผู้นำ คือ กระบวนการสร้างความเปลี่ยนแปลง
กรอบการทำงานของผู้นำมี 4 ประการ ได้แก่
- การสร้างความเป็นไปได้
เคล็ดลับในการสร้างความเป็นไปได้
> ค้นหาแหล่งที่มาและข้อมูลหลายประเภท
>สนับสนุนให้ผู้อื่นมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างความเป็นไปได้
> ไม่ควรลดขั้นตอนการทำงาน
> ก้าวข้ามความรู้สึกแบ่งแยก
> เรียนรู้จากประสบการณ์เล็กๆ
> ใช้ภาพ การอุปมา หรือเล่าเรื่องราว เพื่อสื่อสารถึงเรื่องที่สำคัญ
2) ความสัมพันธ์ พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีทั้งภายในและระหว่างองค์กร
ความสามารถหลักของผู้นำคือการเชื่อมโยงและสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นภายในเครือข่าย โดยการมีส่วนร่วมในสืบค้น สนับสนุน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
การสืบค้นที่ผู้นำมี คือความสามารถในการฟังและเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นคิดและรู้สึก รวมถึงการประเมินผล โดยเข้าใจถึงแนวคิดเบื้องหลังการกระทำของพนักงาน
ผู้นำควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นและยืดหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ตัดสินพนักงานล่วงหน้าและไม่ยึดติดกับมุมมองของตนเองเป็นหลัก ผู้นำควรมีความสามารถในการเชื่อมโยง สร้างความร่วมมือและรวมใจของพนักงานทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เคล็ดลับในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ
> เข้าใจมุมมองของผู้ที่อยู่ในองค์กรและขณะฟังผู้อื่น ไม่ควรตัดสินล่วงหน้า
> สนับสนุนให้ผู้อื่นเสนอความคิดเห็น
> มีจุดยืนชัดเจนและวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
> คำนึงถึงปฏิกิริยาที่ผู้อื่นจะแสดงออกต่อความคิดของคุณและวิธีการที่ดีที่สุดในการอธิบายให้ทีมงานฟัง
> คำนึงถึงผู้ที่อยู่ในเครือข่ายความสัมพันธ์ของคุณ
3) วิสัยทัศน์ วิสัยทัศน์ก่อให้เกิดแรงจูงใจ เกิดมุมมองและวิธีการทำงานใหม่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ทำให้คนเข้าใจความหมายในการทำงานของตนเอง สามารถตอบคำถามได้ว่า "ทำไมฉันจะต้องทำงานชิ้นนี้?" ผู้นำที่ดีสามารถกำหนดกรอบวิสัยทัศน์ที่สำคัญพร้อมกับสร้างคุณค่าหลักขององค์กร
เคล็ดลับสำหรับวิสัยทัศน์ที่มีประสิทธิภาพ
> พัฒนาวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณชื่นชอบหรือสิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญ
> กรอบวิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมาย
> ใช้เรื่องเล่า คำอุปมา อุปมาน เพื่อวาดภาพวิสัยทัศน์ชัดเจนถึงความสำเร็จที่ต้องการ
> ฝึกการสร้างวิสัยทัศน์ในหลายส่วน
> สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยการระบุทักษะ ความสามารถที่ต้องการของผู้อื่น เพื่อตระหนักถึงวิสัยทัศน์
> รวบรวมคุณค่าและความคิดที่อยู่ในวิสัยทัศน์
4) การค้นพบ สร้างวิธีการทำงานแบบใหม่ร่วมกันการค้นพบกระบวนการและโครงสร้างที่จำเป็นสำหรับทำให้วิสัยทัศน์เป็นจริง ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการประยุกต์สู่การปฏิบัติเพื่อให้วิสัยทัศน์ในอนาคตประสบความสำเร็จด้วย
เคล็ดลับในการค้นพบที่มีประสิทธิภาพ
> มุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาวิธีการที่ส่งเสริมให้คนทำงานภายในทีมและองค์กรร่วมกันได้อย่างดี
> เมื่อมีงานใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จะจัดการให้สำเร็จได้อย่างไร ใครคือผู้รับผิดชอบ ลงมือทำเมื่อไหร่ และโครงร่างคืออะไร
> ใช้วิธีการใหม่หรือแตกต่างในการจัดการงาน ตรวจสอบทางเลือกอื่น สร้างความสัมพันธ์ภายในและเชื่อมโยงกับทีมอื่น
> ผสานการสร้างความเป็นไปได้และการค้นพบเข้าด้วยกัน
การพัฒนารูปแบบผู้นำเฉพาะตัว
กรอบการทำงานทั้ง 4 ประการนี้เป็นเพียงเครื่องมือ จึงอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่า จำเป็นต้องใช้เครื่องมือใดและใช้อย่างไร
ภาวะผู้นำมีพื้นฐานที่ประสบการณ์และทักษะ การนำคุณค่า ทักษะ ประสบการณ์เทคนิคและบุคลิกเฉพาะตัวมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน ทำให้บทบาทผู้นำของแต่ละคนมีความเฉพาะตัวในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ เอกลักษณ์การเปลี่ยนแปลงคือวิธีการที่แต่ละคนรวบรวมกรอบการทำงานทั้ง 4 ประเภทและประยุกต์ใช้ในแบบฉบับของแต่ละคน เมื่อผู้นำใคร่ครวญเพื่อสะท้อนประสบการณ์ของตนเอง ผู้นำจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเขาและเขาสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง? บ่อยครั้งที่คนมักจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดมากกว่าความสำเร็จแต่ไม่ว่าอย่างไรทุกประสบการณ์ก็สามารถช่วยฉายแสงได้ว่าคุณเป็นผู้นำประเภทไหน?
ผู้นำในที่นี้คือ การผสมผสานกรอบการทำงานทั้ง 4 ประการเข้ากับเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อก่อให้เกิดประสบการณ์ที่หลากหลาย ผู้นำจะพัฒนาความสามารถ วิธีการสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ตลอดจนการสร้างภาวะผู้นำและความเข้าใจคุณค่าและทักษะการเป็นผู้นำที่ดีขึ้น
โดย เดบบอรา แอนโคนา
ศาสตราจารย์วิทยาลัยการจัดการของ MIT Sloan ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้นำของ MIT
www.the3worldscreator.com
LINE ID : the3worldscreator
Facebook :www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150 Fax. 02-530915