Tel. 02 - 120 - 6651
หลักสูตรอบรม HR.. by the3worldscreator
  • เกี่ยวกับ TWC
    • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
    • ทีมผู้บริหาร
    • พันธมิตรทางธุรกิจ
    • ติดต่อเรา
  • รู้จักธุรกิจ TWC
    • หลักสูตรอบรม HR > >
      • Public Training
      • In-House Training
    • Assessment > >
      • MBTI
      • VIA Strength
      • EBW
      • Wellness Inventory
    • E-Iearning >
      • Well-Being >
        • Career Well-Being
        • Social Well-Being
        • Financial Well-Being
        • Physical Well-Being
        • Community Well-Being
    • ROI
    • Memberships
  • ศิลปะในแนวมนุษยปรัชญา
    • ปั้นดิน
    • ร้องเพลง
    • ระบายสีน้ำ
    • EURHYTM
  • ข่าวและกิจกรรม
    • กิจกรรม Training >
      • 2559
      • 2560
      • 2561
      • 2562
      • 2563
      • 2564 >
        • กิจกรรมบรรยายพิเศษ
        • HR TALK #01
        • The Three Worlds Creator Special Event with Hiranya Aroma Consulting Intensive Course : Essential of Aromatherapy
        • Individual Consulting: Design your destiny with Hiranya Aroma Consulting
    • News Letter >
      • 2559
      • 2560
      • 2561
      • 2562
    • Idea WoW
    • We are one >
      • 2560
      • 2561
      • 2562
      • 2563
      • 2564
    • บางช่วงบางตอน
    • Inner Journey >
      • I 2560/01
      • I 2560/02
    • Gallery
    • กิจกรรมอื่นๆ
    • Special events >
      • Facebook Live
    • The3WorldsCreator Knowledge Sharing >
      • Resilience
      • The Hero's Journey
  • Testimonials
  • ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
    • การศึกษา >
      • Biography >
        • ข่าวประชาสัมพันธ์ Biography
        • บทความ Biography
      • Oasis
      • โรงเรียน
    • ข่าวสาร CSR
    • สังคม
  • นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
    • น้ำสมุนไพรชาเบญจรส
    • เมี่ยงคำ Online
  • Knowledge Hub
    • E-book
    • บทความ >
      • บทความ 63 / 011
    • งานวิจัย
    • HR Hub
  • BLOG
    • Blogger
    • OK Nation
  • ร่วมงานกับเรา
  • Products
    • องค์พระพิฆเนศแกะจากหินควอตซ์ใสบนหินแ
    • หนังสือ
  • The Hero's Journey
  • เกี่ยวกับ TWC
    • วิสัยทัศน์และพันธกิจ
    • ทีมผู้บริหาร
    • พันธมิตรทางธุรกิจ
    • ติดต่อเรา
  • รู้จักธุรกิจ TWC
    • หลักสูตรอบรม HR > >
      • Public Training
      • In-House Training
    • Assessment > >
      • MBTI
      • VIA Strength
      • EBW
      • Wellness Inventory
    • E-Iearning >
      • Well-Being >
        • Career Well-Being
        • Social Well-Being
        • Financial Well-Being
        • Physical Well-Being
        • Community Well-Being
    • ROI
    • Memberships
  • ศิลปะในแนวมนุษยปรัชญา
    • ปั้นดิน
    • ร้องเพลง
    • ระบายสีน้ำ
    • EURHYTM
  • ข่าวและกิจกรรม
    • กิจกรรม Training >
      • 2559
      • 2560
      • 2561
      • 2562
      • 2563
      • 2564 >
        • กิจกรรมบรรยายพิเศษ
        • HR TALK #01
        • The Three Worlds Creator Special Event with Hiranya Aroma Consulting Intensive Course : Essential of Aromatherapy
        • Individual Consulting: Design your destiny with Hiranya Aroma Consulting
    • News Letter >
      • 2559
      • 2560
      • 2561
      • 2562
    • Idea WoW
    • We are one >
      • 2560
      • 2561
      • 2562
      • 2563
      • 2564
    • บางช่วงบางตอน
    • Inner Journey >
      • I 2560/01
      • I 2560/02
    • Gallery
    • กิจกรรมอื่นๆ
    • Special events >
      • Facebook Live
    • The3WorldsCreator Knowledge Sharing >
      • Resilience
      • The Hero's Journey
  • Testimonials
  • ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
    • การศึกษา >
      • Biography >
        • ข่าวประชาสัมพันธ์ Biography
        • บทความ Biography
      • Oasis
      • โรงเรียน
    • ข่าวสาร CSR
    • สังคม
  • นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
    • น้ำสมุนไพรชาเบญจรส
    • เมี่ยงคำ Online
  • Knowledge Hub
    • E-book
    • บทความ >
      • บทความ 63 / 011
    • งานวิจัย
    • HR Hub
  • BLOG
    • Blogger
    • OK Nation
  • ร่วมงานกับเรา
  • Products
    • องค์พระพิฆเนศแกะจากหินควอตซ์ใสบนหินแ
    • หนังสือ
  • The Hero's Journey

Picture

​TWC_ Newsletter
Light : แสง

ตัวข้านี้เองคือผู้ที่ลืมตา และแล้วจึงมีแสงสว่าง
เมื่อดวงเนตรของข้าปิดลง ความมืดก็เข้ามาปกคลุม
-คำกล่าวของสุริยเทพรา-
จากจารึกบนแผ่นกระดาษปาปิรุส แห่งตูริน ๑,๓๐๐ ปีก่อนคริสตกาล
ดวงตาสองดวงที่ทอดมองลงมายังอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำไนล์ คือ “เนตรทั้งสองของเทพฮอรัส” อันได้แก่  ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ในดินแดนอียิปต์โบราณไม่มีสัญลักษณ์ใดจะมีความสำคัญมากไปกว่าดวงเนตรแห่ง สุริยเทพ “รา” พระเนตรของพระองค์ (ซึ่งก็คือดวงอาทิตย์) มีพลังสร้างสรรค์การมองเห็นของพระองค์ก็คือชีวิตนั่นเอง กล่าวกันว่ามนุษยชาติถือกำเนิดขึ้นจากน้ำพระเนตรของพระองค์ ในภาษาอียิปต์ คำว่า น้ำตา และคำว่า มนุษย์ ออกเสียงเหมือนกัน
 
คนอียิปต์เข้าใจธรรมชาติของแสงเป็นอย่างดี ดังจารึกข้างต้นที่พระเขียนไว้เมื่อสามพันสามร้อยปีมาแล้ว เมื่อสุริยเทพรา “ลืมตา...จึงมีแสงสว่าง เมื่อดวงเนตรของข้าปิดลง ความมืดก็เข้ามาปกคลุม” สายตาที่จ้องมองออกมาของสุริยเทพคือแสงแห่งกลางวัน สำหรับผู้คนในอารยธรรมนั้น การได้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดคือการได้อยู่ในสายตาแห่งสุริยเทพ พลังแห่งการมองเห็นที่ส่องโลกทั้งโลกให้สว่างไสวเป็นพลังสากลที่แผ่ออกไปอย่างไพศาล และเป็นความสว่างไสวแห่งเวลากลางวัน สายตาที่จ้องมองของเทพคือแสงสว่าง แสงคือเทพที่กำลังจ้องมองอยู่
 
เรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงคนกรีก พวกเขารู้ดีถึงพลังในการมองเห็นของพวกเขา และรู้ถึง “แสง” แห่งดวงตาที่มีอยู่ในตน ชาวกรีกค้นคิดทฤษฏีการมองเห็น (บางส่วน) ขึ้นมาจากประสบการณ์นั้น ปกรณัมของอียิปต์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับดวงตาของเทพฮอรัสหรือเทพราทำให้เราตระหนักว่า ก่อนหน้าที่คนกรีกจะคิดค้นทฤษฎีการมองเห็นที่มีแนวคิดเรื่องแสงภายในของปัจเจกบุคคล มีแนวคิดของอียิปต์นำมาก่อน ว่าแสงอาทิตย์คือรัศมีแห่งดวงตาซึ่งก็คือดวงเนตรแห่งสุริยเทพรา แต่ทั้งอียิปต์และกรีกต่างก็มิได้คิดว่าแสงเป็นสสารหรือเป็นวัตถุบางอย่าง พวกเขามองว่าแสงเป็นพลังแห่งการมองเห็น การมองเห็นก็คือการส่องให้สว่างไสว
สำหรับ เอ็มเพโดคลีส ดวงตาของมนุษย์คือดวงประทีปที่จุดขึ้นจากเพลิงที่ใช้สร้างโลก เวลาที่ลืมตา ดวงตาจะเปล่งรัศมีออกไปสู่โลกภายนอก แล้วมนุษย์ก็จะมองเห็น สำหรับนักบวชอียิปต์ ดวงอาทิตย์นั่นเองคือดวงตา ซึ่งเมื่อเบิกตาขึ้นก็จะเป็นเวลากลางวัน และเมื่อดวงตาปิดลงก็จะเป็นเวลากลางคืน สายสัมพันธ์ระหว่างดวงตาและดวงอาทิตย์เป็นสิ่งที่มนุษย์รับรู้ได้อย่างลึกซึ้งมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณไปจนถึงยุคกลางอันลึกลับ พวกเขาลื่อว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นเนตรแห่งเทพที่ประทับอยู่บนสรวงสวรรค์
 
คำตอบที่เก่าแก่ที่สุดของคำถามที่ว่าธรรมชาติของแสงเป็นเช่นไร? ก็คือมันคือสายของเทพ มนุษยชาติซึ่งถูกเสกสรรขึ้นมาจากน้ำตาของเทพรา (หรือเกิดจากสายตาของเทพ) ยังมีธรรมชาติของเทพเจืออยู่บ้าง เหมือนเทพกำมะลอทำนองนั้น ครั้นถึงยุคสมัยของนักปรัชญากรีก มนุษย์เราก็เป็นดั่งเทพที่ส่องโลกให้สว่างไสวด้วยสายตาของเราเอง สายตาแห่งสุริยเทพราจุดจักรวาลให้สว่างไสว ส่วนสายตาของมนุษย์ก็จุดโลกส่วนตัวให้เจิดจ้า
 
ในตำนานอียิปต์เรื่อง ดวงตาที่หายไป ของเทพฮอรัสหรือเทพรา มีเรื่องเล่าที่พรรณนาไว้อย่างน่าฟังถึงความเป็นมาของการที่ดวงเนตรของเทพซึ่งเคยส่องแสงให้จักรวางสว่างไสวได้แปรเปลี่ยนไปเป็น (ดวงตาของ) มนุษย์ ตำนานนี้มีอยู่ด้วยกันหลายสำนวนในปกรณัมอียิปต์
 
ใช้แสงในตนเองให้เป็นประโยชน์
การมองทะลุเข้าไปในความมืดคือความกระจ่างชัด
การรู้จักที่จะอ่อนข้อคือความแข็งแกร่ง
จงใช้แสงในตัวเธอให้เป็นประโยชน์
และกลับคืนสู่ต้นกำเนิดแห่งแสง
เช่นนี้จึงเรียกว่าเธอปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความเป็นนิรันดร์
-เล่าจื่อ-
 
อาหารคือผลึกแห่งความรักของธรรมชาติ
 
ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งในการผลิตนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่ขึ้นอยู่กับเกษตรกรเป็นผู้ผลิตอย่างเดียว นอกเหนือกว่านั้นก็คือ “ธรรมชาติ” เราเคยคิดไหมว่าแสงแดดหรือ ดวงอาทิตย์ ให้ความปรานีต่อมนุษย์ลองพิจารณาดูว่าถ้าปราศจากแสงอาทิตย์โลกก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง ดังนั้น ดวงอาทิตย์จึงให้คุณประโยชน์ต่อโลกเรามากมายมหาศาล ความยอดเยี่ยมของดวงอาทิตย์จะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง หมายความว่า ไม่ว่าจะมีคนชั่ว คนไม่ดีอยู่ในโลกดวงอาทิตย์ก็ยังให้แสงสว่าง ให้ความร้อนกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ตาม จะเป็นคนผิวดำ หรือคนที่เกิดมายากจน ดวงอาทิตย์ก็จะให้แสงสว่างความอบอุ่นกับทุกคน ดวงอาทิตย์ไม่ได้เรียกร้องอะไรกับมนุษย์ มีแต่ให้อย่างเดียว
 
จักรวาลให้ความรักต่อมนุษย์อย่างไม่มีเงื่อนไข คือให้โดยปราศจากเงื่อนไขและปราศจากการเรียกร้องใด ๆ แถมยังไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์มนุษย์อีกด้วย เมื่อเรารับประทานพืชผักที่เจริญเติบโตด้วยแสงอาทิตย์         ก็จะได้คุณลักษณะเช่นเดียวกับแสงอาทิตย์ คือให้ความรักผู้อื่นโดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ
 
นอกจากดวงอาทิตย์แล้ว คุณค่าของแผ่นดินที่เราอยู่ ลองสังเกตดินบนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์อะไรที่ปลิวตกลงมา ดินก็พยายามหล่อเลี้ยงทำให้เมล็ดพันธุ์นั้นเจริญเติบโตขึ้นมา พื้นดินหรือโลกที่เราอาศัยอยู่ให้สิ่งดี ๆ กับมนุษย์โดยปราศจากเงื่อนไข ถึงแม้ว่ามนุษย์จะทำลายสิ่งแวดล้อมทิ้งขยะหรือสร้างโรงงานที่ปล่อยควันพิษออกมาต่างๆ โลกที่เราอยู่ก็ยังรับการกระทำของเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ แม่ ถึงแม้ว่าลูกที่ให้กำเนิดมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม แม่ก็พยายามปกป้องเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ ถึงแม้ว่าลูกจะเกิดมาตาชั้นเดียว จมูกไม่โด่งหรือตัวไม่สูงใหญ่ แต่แม่ก็เลี้ยงลูกด้วยความรัก ดังนั้นถ้าเราดูแล้วผืนดินบนโลกก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกับแม่ ธรรมชาติให้สิ่งที่งดงามแก่มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ โลก หรือสายฝน สิ่งเหล่านี้เพื่อให้มนุษย์ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตหรือดำเนินชีวิต รวมไปถึงสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปก็เกิดจากธรรมชาติ ได้มาจากความพยายามความยากลำบากของเกษตรกรปลูกพืชผัก เมื่อได้พืชผักมาแล้ว แม่บ้านก็นำไปปรุงเป็นอาหารซึ่งต้องใช้เวลาในการปรุงเช่นกัน อาหารที่เรารับประทานเข้าไปจึงเป็นสิ่งที่เราได้รับจากธรรมชาติและผู้คนต่าง ๆ ที่เรามองไม่เห็นอีกมากมาย
 
อาหารต่าง ๆ ที่เรารับประทาน ก็คือผลึกแห่งความรักจากธรรมชาตินั่นเอง มนุษย์เราไม่ได้อยู่ด้วยพลังงานที่มาจากอาหารอย่างเดียว แต่อยู่ได้ด้วยพลังชีวิตที่ได้จากอาหารซึ่งถือว่าเป็นอาหารทางจิตวิญญาณ จึงอยากให้เราเลือกสรรอาหารที่มีองค์ประกอบดังกล่าวนี้ ไม่ใช่ดูเฉพาะว่าอาหารนี้ได้พลังงานเท่าไหร่ แต่ดูว่าอาหารนี้เป็นอาหารที่จะหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเราได้หรือเปล่าด้วย
 
ข้าว สุดยอดอาหารนำพลังชีวิต
แสงแดดเป็นสื่อที่นำเอาข้อมูลต่าง ๆ มาให้เราทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ ซึ่งแสงดังกล่าวนี้ก็มาจากดวงอาทิตย์  ที่มีขึ้นเพื่อธรรมชาติและเพื่อมนุษย์ ผลผลิตที่ปลูกโดยได้รับแสงแดด แสงอาทิตย์อย่างเต็มที่จะมีพลังที่จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีได้ และมีสุขภาพที่ดีทั้งจิตและกาย
 
อาหารที่ได้พลังจากแสงแดดอย่างเต็มที่คือ “ข้าว” ข้าวจะรับแสงแดดจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ และนำพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาผ่านทางแสงเปลี่ยนเป็นสารอาหารต่าง ๆ อยู่ในเมล็ดข้าวในรูปของแป้ง หากเราทานข้าวก็จะทำให้เราได้รับพลังงานดังกล่าวนั้นด้วย
 
ได้มีการสำรวจข้อมูลว่าผู้ป่วยทางจิตส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่ไม่ค่อยกินข้าว ซึ่งถ้าเปรียบเทียบ ข้าวก็เหมือน Memory card ที่เป็นสุดยอดในบรรดา Memory card ที่มีอยู่ทั้งหมด เพราะมีหน่วยความจำมากมายมหาศาล ซึ่งข้าวแต่ละประเภทมีพลังชีวจิตมากน้อยแตกต่างกัน อาทิ
 
“ข้าวกล้อง” เป็นข้าวที่ขึ้นชื่อว่ามีพลังชีวิตมาก ถ้านำไปแช่น้ำไว้ 3-7 วัน ก็จะมีการงอก เป็นต้นใหม่ ข้าว 1 ต้นจากเมล็ดข้าวเพียงเมล็ดเดียวสามารถออกรวงให้เมล็ดข้าวถึง 2,000 เมล็ด
 
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็น “ข้าวขาว” แช่น้ำไว้ 1 อาทิตย์ก็จะเน่า นั่นก็แสดงว่าไม่มีพลังชีวิต ข้าวกล้องจึงเป็นข้าวที่มีพลังชีวิตมาก สามารถที่จะเจริญเติบโตได้ด้วยพลังชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะถ้าปลูกด้วยวิธีเกษตรธรรมชาติ ข้าวกล้องก็จะยิ่งมีพลังชีวิตมากยิ่งขึ้น
ส่วนข้าวโบราณ ข้าวพื้นบ้าน เช่น “ข้าวก่ำ” ก็จะมีพลังชีวิตมากเช่นเดียวกัน ถ้าคนป่วยได้รับประทานข้าวที่มีพลังชีวิตมากหรือผักที่มีพลังชีวิตมา จะช่วยให้คนป่วยฟื้นตัวได้เร็ว จนกระทั่งหายเป็นปกติ
 
ภูมิปัญญาพื้นบ้าน เพิ่มพลังชีวิตให้กับอาหาร
 
ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีภูมิปัญญาพื้นบ้านที่จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้กับอาหารหรือเพิ่มความจำให้มากขึ้น โดยการนำอาหารนั้นไปตากแดด รับพลังงานจากแสงแดด อาหารอย่างหนึ่งที่ทุกคนรู้จักดีคือ “เห็ดหอม” เห็ดหอมสดกับเห็ดหอมแห้ง จะมีพลังชีวิตที่แตกต่างกัน หรือหัวไชเท้าญี่ปุ่นในช่วงหน้าหนาว  เขาจะหั่นทั้งหมดเป็นฝอย ๆ แล้วก็นำไปตากแดด พอตากแดดแล้วมันก็จะแห้งซึ่งจะนำมาเก็บไว้แล้วนำไปปรุงอาหารได้ หรือแม้กระทั่งเต้าหู้ ก็เช่นเดียวกัน เขามีวิธีการทำให้เต้าหู้แข็งตัวก่อน คือทำให้เต้าหู้เย็นและแข็งตัวก่อนแล้วนำไปตากแห้งซึ่งจะได้รับพลังงานจากแสงแดดมาก ทำให้มีพลังงานมาก กรรมวิธีต่าง ๆ ในการถนอมอาหารโดยใช้แสงแดด จึงเป็นการเพิ่มพลังงานให้กับอาหารนั่นเอง
 
เราจึงควรเห็นถึงคุณประโยชน์ของแสงแดด ซึ่งให้พลังงานมากมายมหาศาล และตัวของเราก็ควรที่จะรับแสงแดดตามความเหมาะสมด้วยเช่นกัน
 
ที่มา
หนังสือ ไล่คว้าแสง : ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับแสงตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ถึงยุคไอสไตน์
ผู้แต่ง: อาเธอร์ ซายองค์ ผู้แปล: นัยนา นาควัชระ
หนังสือ แมคโครไบโอติกส์ วิถีเพื่อสุขภาและความเบิกบาน อาจารย์เคนจิ โอกาเบะ หน้า 39-45
 
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
LINE ID : the3worldscreator
Tel. 02-530-9150,093-245-9985


เกี่ยวกับ TWC
รู้จักธุรกิจ TWC
ศิลปะในแนวมนุษยปรัชญา
ข่าวและกิจกรรม
Testimonials
ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
KNOWLEDGE  HUB
BLOG
ร่วมงานกับเรา

 powered by Triple Systems