The Strategist – คิดอย่างนักวางกลยุทธ์
คุณลักษณะของสุดยอดกลยุทธ์
ตั้งอยู่บนฐานของจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนและทรงพลัง
มีคำกล่าวว่า “หากคุณไม่รู้จุดหมายของตัวเอง คุณก็จะไม่มีวันพบเส้นทางไปสู่ที่แห่งนั้น” บริษัทควรดำรงอยู่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เหตุผลของบริษัทคุณคืออะไร
เพิ่มคุณค่าอย่างแท้จริง
บริษัทที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงจะต้องเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการ หากพวกเขาหายไป ผู้คนจะรู้สึกคิดถึง บริษัทของคุณเป็นเช่นนั้นหรือไม่
การตัดสินใจที่ชัดเจน
ความเป็นเลิศเกิดจากการกระทำที่ผ่านการขบคิดมาอยางดี การพยายามทำหลายสิ่งมากเกินไปย่อมทำได้ไม่ดีเลยสักอย่าง บริษัทของคุณตัดสินใจว่าจะทำอะไรและไม่ทำอะไรบ้าง
ระบบสร้างคุณค่าที่ออกแบบมาเป็นการเฉพาะ
ขั้นตอนแรกสุดของการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติคือการแปลงแนวคิดให้เป็นระบบสำหรับการดำเนินงาน เพื่อให้กิจกรรมและทรัพยากรต่าง ๆ มีความสอดคล้องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน บริษัทของคุณเป็นเช่นนั้นหรือไม่ น่าเสียดายที่คำตอบของบริษัทส่วนใหญ่คือไม่ใช่
ตัวชี้วิดผลลัพธ์ที่เหมาะสม
เกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างผลตอบแทนจากการลงทุนสามารถบ่งบอกว่ากลยุทธ์ใช้ได้ผลหรือไม่ แต่ถ้าให้ดี คุณควรระบุตัวขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของคุณออกมาด้วย เพราะมันจะแบ่งภารกิจยิ่งใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อย ๆ ที่เฉพาะเจาะจงและตรวจวัดได้ อีกทั้งเป็นเครื่องนำทางให้ผู้คนในองค์กรทำสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง
ใจรัก
แม้นี่จะเป็นแนวคิดที่จับต้องไม่ได้ แต่มันคือหัวใจสำคัญของทุกกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม กระทั่งในอุตสาหกรรมที่ธรรมดาสุด ๆ บริษัทที่โดดเด่นก็ยังเป็นบริษทัที่ใส่ใจกับสิ่งที่ตัวเองทำมากกว่าใคร
ความผิดพลาดที่นักวางกลยุทธ์มักทำในการถ่ายทอดกลยุทธ์ของตัวเอง
กลยุทธ์ที่ผ่านการขบคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและข้อความที่ถ่ายทอดมันออกมานั้น จะกำหนดทิศทาง ลำดับความสำคัญ และเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินงานของบริษัท ทั้งยังช่วยสื่อสารเรื่องราวของคุณกับบุคคลภายนอกอีกด้วย กลยุทธ์และข้อความกลยุทธ์ที่ไม่ดีจะส่งผลทางตรงกันข้าม จงหลีกเลี่ยงหลุมพรางต่อไปนี้
1. การพูดกว้าง ๆ การพูดแค่ว่าคุณทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ ผลิตเหล็ก หรือการตลาดแทบไม่มีประโยชน์เลย เพราะมันไมได้บอกว่าสิ่งใดทำให้คุณโดดเด่นในสนามนั้น ๆ ลองถามตัวเองว่า ถ้าลูกค้าได้อ่านข้อความกลยุทธ์ของคุณ พวกเขาจะนึกออกไหมว่าเป็นคุณ แล้วพนักงานในบริษัทล่ะรู้หรือเปล่า พิกซาร์ไม่ได้บอกว่าตัวเป็นเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ แต่พวกเขาสร้าง “ภาพยนตร์การ์ตูนด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีตัวละครอันน่าจดจำและเรื่องราวอันซาบซึ้งกินใจซึ่งดึงดูดผู้ชมทุกเพศทุกวัย”
2. เอาทุกอย่าง
คุณไม่สามารถเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคนได้ ถึงแม้กลยุทธ์และข้อความกลยุทธ์ที่ไม่ดีจำนวนมากจะพยายามสื่อว่าอย่างนั้นก็ตาม แนวทางนั้นไม่เข้าท่าหรอก
3. คำว่างเปล่าที่ใช้กันจนเฝือ กลยุทธ์ที่พูดเรื่องใหญ่โต แต่ไม่มีรายละเอียดที่น่าเชื่อถือก็คือความว่างเปล่าดี ๆ นี่เอง ถ้อยคำอย่าง “เป็นเลิศ” “ชั้นนำ” และ “โดดเด่น” ไม่ได้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจอะไรมากขึ้นเลย ข้อความกลยุทธ์จะน่าเชื่อถือก็ต่อเมื่อมันระบุเจาะจงว่าบริษัททำสิ่งใดได้ดีเป็นพิเศษ
4. ไม่บอกวิธีการ ช้อความกลยุทธ์มากมายบอกว่าบริษัททำอะไร แต่ลืมบอกว่าทำ อย่างไร ซึ่งหมายถึงกิจกรรมและทรัพยากรหลักที่บริษัทใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้อ่านจะเกิดความมั่นใจในสิ่งที่คุณทำก็ต่อเมื่อได้รู้ว่าคุณทำ อย่างไร ลองดูข้อความใดน่าเชื่อถือมากกว่ากัน ระหว่าง “เราคือผู้ผลิตต้นทุนต่ำ” กับ “เราคือผู้ผลิตต้นทุนต่ำที่ดำเนินงานด้วยโรงงานไทเทเนียไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้เทคโนโลยีของบริษัทดูปองท์”
5. ไม่เอ่ยถึงลูกค้า ผู้ที่คุณตอบสนองความต้องการคือชิ้นส่วนที่ขาดไม่ได้เลยในการบอกเล่าเรื่องราวของคุณ มันไม่เพียงกำหนดสนามที่คุณเล่น แต่ยังบอกด้วยว่า ท้ายที่สุดแล้วใครคือผู้ตัดสินว่าสิ่งที่คุณทำมีความหมายหรือไม่
6. จืดชืด นี่เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ ข้อความกลยุทธ์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์มักพูดเรื่อยเปื่อย ขาดความหนักแน่น และไม่กระตุ้นแรงบันดาลใจ ลองถามตัวเองว่าคุณอยากทำงานให้บริษัทนี้หรือไม่ คุณอยากซื้อสินค้าจากบริษัทนี้ไหม
ที่มา// หนังสือ The Strategist – คิดอย่างนักวางกลยุทธ์
ผู้เขียน Cynthia A. Montgomery
ผู้แปล วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
ตั้งอยู่บนฐานของจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนและทรงพลัง
มีคำกล่าวว่า “หากคุณไม่รู้จุดหมายของตัวเอง คุณก็จะไม่มีวันพบเส้นทางไปสู่ที่แห่งนั้น” บริษัทควรดำรงอยู่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เหตุผลของบริษัทคุณคืออะไร
เพิ่มคุณค่าอย่างแท้จริง
บริษัทที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงจะต้องเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการ หากพวกเขาหายไป ผู้คนจะรู้สึกคิดถึง บริษัทของคุณเป็นเช่นนั้นหรือไม่
การตัดสินใจที่ชัดเจน
ความเป็นเลิศเกิดจากการกระทำที่ผ่านการขบคิดมาอยางดี การพยายามทำหลายสิ่งมากเกินไปย่อมทำได้ไม่ดีเลยสักอย่าง บริษัทของคุณตัดสินใจว่าจะทำอะไรและไม่ทำอะไรบ้าง
ระบบสร้างคุณค่าที่ออกแบบมาเป็นการเฉพาะ
ขั้นตอนแรกสุดของการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติคือการแปลงแนวคิดให้เป็นระบบสำหรับการดำเนินงาน เพื่อให้กิจกรรมและทรัพยากรต่าง ๆ มีความสอดคล้องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน บริษัทของคุณเป็นเช่นนั้นหรือไม่ น่าเสียดายที่คำตอบของบริษัทส่วนใหญ่คือไม่ใช่
ตัวชี้วิดผลลัพธ์ที่เหมาะสม
เกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างผลตอบแทนจากการลงทุนสามารถบ่งบอกว่ากลยุทธ์ใช้ได้ผลหรือไม่ แต่ถ้าให้ดี คุณควรระบุตัวขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของคุณออกมาด้วย เพราะมันจะแบ่งภารกิจยิ่งใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อย ๆ ที่เฉพาะเจาะจงและตรวจวัดได้ อีกทั้งเป็นเครื่องนำทางให้ผู้คนในองค์กรทำสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง
ใจรัก
แม้นี่จะเป็นแนวคิดที่จับต้องไม่ได้ แต่มันคือหัวใจสำคัญของทุกกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม กระทั่งในอุตสาหกรรมที่ธรรมดาสุด ๆ บริษัทที่โดดเด่นก็ยังเป็นบริษทัที่ใส่ใจกับสิ่งที่ตัวเองทำมากกว่าใคร
ความผิดพลาดที่นักวางกลยุทธ์มักทำในการถ่ายทอดกลยุทธ์ของตัวเอง
กลยุทธ์ที่ผ่านการขบคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและข้อความที่ถ่ายทอดมันออกมานั้น จะกำหนดทิศทาง ลำดับความสำคัญ และเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินงานของบริษัท ทั้งยังช่วยสื่อสารเรื่องราวของคุณกับบุคคลภายนอกอีกด้วย กลยุทธ์และข้อความกลยุทธ์ที่ไม่ดีจะส่งผลทางตรงกันข้าม จงหลีกเลี่ยงหลุมพรางต่อไปนี้
1. การพูดกว้าง ๆ การพูดแค่ว่าคุณทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ ผลิตเหล็ก หรือการตลาดแทบไม่มีประโยชน์เลย เพราะมันไมได้บอกว่าสิ่งใดทำให้คุณโดดเด่นในสนามนั้น ๆ ลองถามตัวเองว่า ถ้าลูกค้าได้อ่านข้อความกลยุทธ์ของคุณ พวกเขาจะนึกออกไหมว่าเป็นคุณ แล้วพนักงานในบริษัทล่ะรู้หรือเปล่า พิกซาร์ไม่ได้บอกว่าตัวเป็นเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ แต่พวกเขาสร้าง “ภาพยนตร์การ์ตูนด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีตัวละครอันน่าจดจำและเรื่องราวอันซาบซึ้งกินใจซึ่งดึงดูดผู้ชมทุกเพศทุกวัย”
2. เอาทุกอย่าง
คุณไม่สามารถเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคนได้ ถึงแม้กลยุทธ์และข้อความกลยุทธ์ที่ไม่ดีจำนวนมากจะพยายามสื่อว่าอย่างนั้นก็ตาม แนวทางนั้นไม่เข้าท่าหรอก
3. คำว่างเปล่าที่ใช้กันจนเฝือ กลยุทธ์ที่พูดเรื่องใหญ่โต แต่ไม่มีรายละเอียดที่น่าเชื่อถือก็คือความว่างเปล่าดี ๆ นี่เอง ถ้อยคำอย่าง “เป็นเลิศ” “ชั้นนำ” และ “โดดเด่น” ไม่ได้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจอะไรมากขึ้นเลย ข้อความกลยุทธ์จะน่าเชื่อถือก็ต่อเมื่อมันระบุเจาะจงว่าบริษัททำสิ่งใดได้ดีเป็นพิเศษ
4. ไม่บอกวิธีการ ช้อความกลยุทธ์มากมายบอกว่าบริษัททำอะไร แต่ลืมบอกว่าทำ อย่างไร ซึ่งหมายถึงกิจกรรมและทรัพยากรหลักที่บริษัทใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้อ่านจะเกิดความมั่นใจในสิ่งที่คุณทำก็ต่อเมื่อได้รู้ว่าคุณทำ อย่างไร ลองดูข้อความใดน่าเชื่อถือมากกว่ากัน ระหว่าง “เราคือผู้ผลิตต้นทุนต่ำ” กับ “เราคือผู้ผลิตต้นทุนต่ำที่ดำเนินงานด้วยโรงงานไทเทเนียไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้เทคโนโลยีของบริษัทดูปองท์”
5. ไม่เอ่ยถึงลูกค้า ผู้ที่คุณตอบสนองความต้องการคือชิ้นส่วนที่ขาดไม่ได้เลยในการบอกเล่าเรื่องราวของคุณ มันไม่เพียงกำหนดสนามที่คุณเล่น แต่ยังบอกด้วยว่า ท้ายที่สุดแล้วใครคือผู้ตัดสินว่าสิ่งที่คุณทำมีความหมายหรือไม่
6. จืดชืด นี่เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ ข้อความกลยุทธ์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์มักพูดเรื่อยเปื่อย ขาดความหนักแน่น และไม่กระตุ้นแรงบันดาลใจ ลองถามตัวเองว่าคุณอยากทำงานให้บริษัทนี้หรือไม่ คุณอยากซื้อสินค้าจากบริษัทนี้ไหม
ที่มา// หนังสือ The Strategist – คิดอย่างนักวางกลยุทธ์
ผู้เขียน Cynthia A. Montgomery
ผู้แปล วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา