Inner Journey
Once upon a time ... กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (ภาคจบ)
พี่เก็บหนังสือ 2 เล่มไว้หลายปีจนกลับมาเปิดอ่านอีกครั้งหลังเลื่อนตำแหน่งจากเลขาไปสู่ตำแหน่งบริหารที่มีความรับผิดชอบสูงขึ้นจนต้องมีเลขาเป็นของตัวเอง เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบากในช่วงแรก นายให้ข้อคิดหลังพี่หาที่ทางบนโลกของตัวเองอยู่พักใหญ่ว่า “เบื้องหลังความสำเร็จของผู้นำทุกคนคือการบริหารคน”
หลังจากนั้นชีวิตพี่ก็เปลี่ยนไปเพราะการบริหารคนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องทำความเข้าใจสิ่งสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วยตา ช่วงนั้นพี่สนุกกับวิธีสร้างแรงบันดาลใจและจัดหลักสูตรใหม่ๆ ให้กลุ่มเลขานุการ พี่กลับมาอ่านหนังสือ ”อย่าหยุดแค่ตำแหน่งเลขา” ที่กลายเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมในตอนนั้น
เจเน็ต ไดด์ ผู้เขียนหนังสือเคยเป็นเลขามาก่อน ภายหลังเธอเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็น CEO ขององค์กร เพราะวิสัยทัศน์ที่คมชัด มุ่งมั่นในจุดยืนและเธอรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พี่เอาเรื่องนี้มาแบ่งปันให้น้องเลขาฟังทุกครั้งว่า ทุกคนมีโอกาสที่จะเติบโตในสายวิชาชีพตัวเองหรือสายอาชีพอื่น ถ้าเราทุ่มเททำงานด้วยความรักและเคารพในวิชาชีพของตัวเอง
หลังจากนั้นชีวิตพี่ก็เปลี่ยนไปเพราะการบริหารคนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องทำความเข้าใจสิ่งสำคัญที่ไม่อาจเห็นด้วยตา ช่วงนั้นพี่สนุกกับวิธีสร้างแรงบันดาลใจและจัดหลักสูตรใหม่ๆ ให้กลุ่มเลขานุการ พี่กลับมาอ่านหนังสือ ”อย่าหยุดแค่ตำแหน่งเลขา” ที่กลายเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมในตอนนั้น
เจเน็ต ไดด์ ผู้เขียนหนังสือเคยเป็นเลขามาก่อน ภายหลังเธอเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็น CEO ขององค์กร เพราะวิสัยทัศน์ที่คมชัด มุ่งมั่นในจุดยืนและเธอรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พี่เอาเรื่องนี้มาแบ่งปันให้น้องเลขาฟังทุกครั้งว่า ทุกคนมีโอกาสที่จะเติบโตในสายวิชาชีพตัวเองหรือสายอาชีพอื่น ถ้าเราทุ่มเททำงานด้วยความรักและเคารพในวิชาชีพของตัวเอง
ช่วงตอนเป็นเลขาใหม่ๆ จำได้ว่านายส่งให้ไปเรียนหลักสูตร Executive Secretary ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งราคาแพงมากกก (ลากเสียงยาว) ทั้งในสมัยก่อนและยังคงแพงมากในสมัยนี้ กลับมานายถามว่าได้อะไรจากการไปเรียนหลักสูตรนี้ พี่บอกนายว่าวิชาอื่นเรียนในโรงเรียนมาหมดแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยได้อะไร แต่ชอบอาจารย์ท่านหนึ่งที่บอกว่า “เลขาเหมือน Caddy ที่คอยวางไลน์ให้นายตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุม”
ต้องบอกว่าสมัยเมื่อ 20 กว่าปีก่อน กีฬากอล์ฟเพิ่งเข้ามาเมืองไทยได้ไม่นาน ดังนั้นพี่เลยไม่มีภาพในใจว่าการวางไลน์คืออะไร รับรู้เพียงว่า Caddy คือผู้ช่วยถือกระเป๋ากอล์ฟเดินตามนาย และเป็นคนช่วยมองไลน์ในสนามกอล์ฟ หลังจากนั้นพี่สรุปเองว่า Caddy น่าจะเป็นคนที่เห็นและบอกเส้นทางที่จะช่วยให้นายพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ |
แต่ถ้าถามพี่ตอนนี้ในวันที่มาแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะวิทยากร พี่บอกน้องๆ ทุกคนว่าวิชาเลขานุการคือวิชาพื้นฐานที่สอนให้คิดอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นจบกระบวนการ วิเคราะห์หาแก่นของเรื่องให้เจอว่านายต้องการอะไร เพราะยิ่งอยู่ในวิชาชีพนานขึ้นงานที่ได้รับมอบหมายไม่ใช่การทำงานตามคำสั่ง แต่เป็นวิธีคิดและออกแบบกระบวนการทำงานด้วยตัวเอง สื่อสารสิ่งที่คิด ประสานความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง สังเคราะห์ข้อมูลทั้งระบบและกลั่นออกมาเป็นชิ้นงานเพื่อแบ่งเบาภารกิจทั้งหมดของนาย
นายบอกเพียงทิศทางคร่าวๆ ว่าจะไปทางไหน ถ้าเลขาคือ Caddy เราต้องเตรียมรายละเอียดระหว่างทาง ดูทิศทางลม เช็คสภาพอากาศ ทำการบ้านล่วงหน้าว่าถ้าตีลูกไปทางนี้จะเจออุปสรรคอะไรบ้างเพื่อให้นายตัดสินใจเอง แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร เลขาต้องพร้อมสนับสนุนและเปลี่ยนวิธีเพื่อให้งานสำเร็จ
นายบอกเพียงทิศทางคร่าวๆ ว่าจะไปทางไหน ถ้าเลขาคือ Caddy เราต้องเตรียมรายละเอียดระหว่างทาง ดูทิศทางลม เช็คสภาพอากาศ ทำการบ้านล่วงหน้าว่าถ้าตีลูกไปทางนี้จะเจออุปสรรคอะไรบ้างเพื่อให้นายตัดสินใจเอง แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร เลขาต้องพร้อมสนับสนุนและเปลี่ยนวิธีเพื่อให้งานสำเร็จ
จริงหรือไม่ที่มีคนชอบพูดบอกว่า “เลขาโตตามนาย” พี่ชอบชวนน้องๆ คิดเรื่องนี้เพราะการเติบโตตามสายงานของเลขาส่วนมากจะหยุดอยู่แค่ตำแหน่งเลขานุการบริหาร (Executive Secretary) หรือผู้ช่วยส่วนตัว (Personal Assistant) ในความเป็นจริงแล้ว การเติบโตของเลขาคือการเติบโตจากภายใน ทุกสิ่งที่เราคิด พูด ทำ ส่งผลกระทบต่อองค์กร
ยิ่งนายอยู่ในตำแหน่งสูงเท่าไร เรายิ่งต้องตัวเล็กลงมากขึ้นเท่านั้น เพราะเราจะไม่ได้มีนายคนเดียวอีกต่อไป เราต้อง service คนทั้งองค์กร วันนี้พี่เพิ่งเข้าใจพันธกิจของวิชาชีพที่บอกว่า “นายถูกเสมอ” เพราะเราต้องอ่านความต้องการของคนที่เดินมาขอความช่วยเหลือให้ขาด มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ต้องทำงานและประสานร่วมมือกับผู้คนทุกตำแหน่งตั้งแต่แม่บ้านถึงผู้บริหารสูงสุด ทุกคนคือนายของเรา ไม่มีคำว่า “ทำไม่ได้” ในพจนานุกรม คำว่า “ไม่” คำเดียวที่อนุญาตให้ใช้ได้คือ“ไม่ถอดใจ” มีความหวังในวันที่ทุกคนหมดหวัง ยืนหยัดในเรื่องที่ถูกต้องแต่อาจไม่ถูกใจทุกคน เพราะหลายครั้งเราจะถูกผลักเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจแทนนายท่ามกลางความไม่แน่นอน สับสนอลหม่าน ถ้าแก่นของเราไม่ชัด ยืนยันและแยกแยะไม่ได้ วิชาชีพทั้งหมดที่ร่ำเรียนมาก็ไร้ค่า |
ในหนังสือ “ที่ทางของคุณบนโลกนี้” กล่าวว่าความรักในงานจะช่วยให้เราเห็นคุณค่าของงานที่ทำอย่างลึกซึ้ง ความรักเป็นแรงกระตุ้นที่ผลักกันเราไปสู่ “การงานแห่งชีวิต” ซึ่งเป็นการทำงานจากภายใน มันคือที่สุดของความท้าทายที่ต้องออกจากมุมสบาย ก้าวสู่ชีวิตอย่างผู้มีวิจารณญาณและมีเหตุผล
การแสวงหาการงานแห่งชีวิตให้ทั้งความลึกและการก้าวข้าม ทั้งความทรงจำและความหวัง ความใกล้ชิดและความเป็นสากล ทำให้คนๆ นั้นมีส่วนร่วมเต็มตัวในกระบวนการสร้างการงานแห่งชีวิตซึ่งให้ทั้งความพึงพอใจและความหมาย
เชื่อเหลือเกินว่าจิตวิญญาณแห่งวิชาชีพยังคงดำรงอยู่ เพราะพี่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ให้เลขานุการทุกคนก้าวออกมาเป็นคู่คิดและคนวางไลน์ให้นายในวันที่โลกเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง การยืนหยัดเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยพันธกิจที่มุ่งมั่น โลกในวันนี้ต้องการคนที่เชื่อว่าวิชาชีพของตัวเองจะช่วยเปลี่ยนโลกนี้ได้
รัก
พี่ณี
11/2/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
การแสวงหาการงานแห่งชีวิตให้ทั้งความลึกและการก้าวข้าม ทั้งความทรงจำและความหวัง ความใกล้ชิดและความเป็นสากล ทำให้คนๆ นั้นมีส่วนร่วมเต็มตัวในกระบวนการสร้างการงานแห่งชีวิตซึ่งให้ทั้งความพึงพอใจและความหมาย
เชื่อเหลือเกินว่าจิตวิญญาณแห่งวิชาชีพยังคงดำรงอยู่ เพราะพี่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ให้เลขานุการทุกคนก้าวออกมาเป็นคู่คิดและคนวางไลน์ให้นายในวันที่โลกเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง การยืนหยัดเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยพันธกิจที่มุ่งมั่น โลกในวันนี้ต้องการคนที่เชื่อว่าวิชาชีพของตัวเองจะช่วยเปลี่ยนโลกนี้ได้
รัก
พี่ณี
11/2/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150