Inner Journey
อิตาลี...อาณาจักรโรมันอันรุ่งเรือง (ตอนที่ 4)
Napoli เป็นเมืองทางใต้ติดชายฝั่งทะเล มีคนขายอาหารทะเลสดๆ อยู่ข้างทางเหมือนเมืองไทย ระหว่างทางมีคนตั้งแผงขายเปลือกหอยที่เราสองคนชอบสะสมอยู่ พี่สมบูรณ์เวียนรถกลับมาดูอีกรอบและได้หอยสังข์ตัวใหญ่ติดมือกลับเมืองไทย 2 ตัว
วันนี้ช่วงเช้าเรามีแผนล่องลงใต้เพื่อไปดูโบสถ์ใหญ่ที่สวยงามชื่อ Cathedral of Saint Andrew the Apostle และแวะเที่ยวเมืองปอมเปอีตามแผนที่ลูกๆ วางไว้ในช่วงบ่าย ทัศนียภาพสองข้างทางสวยงามมาก แต่เวลาขับรถค่อนข้างหวาดเสียวเพราะข้างหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชัน อีกด้านเป็นหุบเขาที่มีโค้งหักศอกถนนกว้างเท่าที่รถยนต์สองคันสวนกันได้ บางช่วงต้องมีไฟแดงให้รถสวนที่ละด้านเพราะถนนแคบมาก
ยิ่งใกล้เมืองยิ่งได้เห็นคนปลูกมะนาวลูกสีเหลืองสดอยู่บนไหล่เขาเกือบทุกบ้าน พี่สมบูรณ์ค่อยๆ ขับรถขึ้นเขามาอย่างระมัดระวังและมาถึงเมือง Amalfi โดยสวัสดิภาพ ทะเลสีฟ้าสดตัดกับขอบฟ้างดงาม พวกเราเพลิดเพลินกับการเก็บภาพสวยๆ ในบริเวณนั้นกันหลายสิบรูป
ทางเข้าโบสถ์อยู่เลยฝั่งทะเลมาไม่ไกล พี่ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาเจอโบสถ์เก่าที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจงและด้านในเต็มไปด้วยภาพวาดบนปูนเปลือยแต่ครั้งอดีตที่นี่ เราสองคนพ่อแม่ไม่รู้จักว่าเทคนิคการวาดภาพแบบนี้เรียกว่าอะไร
ปรางปัญญ์เล่าให้เราฟังว่าเป็นการวาดภาพบนตอนปูนยังเปียกอยู่โดยผสมไข่เพื่อทำให้สีติดผนังกลายเป็นเนื้อเดียวกับปูนโดยสีจะยังคงสวยสดแม้เวลาผ่านไปหลายร้อยปี เด็กๆ วอลดอร์ฟจะได้เรียนในวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ตอน ม. 3 เรียกว่าการวาดภาพแบบ Fresco ซึ่งเป็นภาษาอิตาลี แปลว่า “สด”
สิ่งที่พี่รู้สึกประทับใจคือบรรยากาศของโบสถ์ที่เงียบสงบและภาพวาดที่งดงาม ทุกคนที่มาเที่ยวจะมายืนชื่นชมภาพบนกำแพงโบสถ์ นั่งบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ หยุดอ่านคำบรรยายใต้ภาพกันอย่างเงียบๆ แล้วเดินออกไป โบสถ์ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนอยู่เสมอ
เราเดินลงบันไดที่ทอดยาวมาหาอาหารกลางวันกินก่อนเดินทางไปเมืองปอมเปอี มีร้านขายน้ำมะนาวคั้นเป็นขวดที่สืบทอดกิจการมาเป็นรุ่นที่ 3 อยู่ตรงบันไดทางขึ้นโบสถ์ นอกจากของที่ระลึกและน้ำมะนาวยังมีร้านไอศกรีมโฮมเมด Gelato หรือ “เจลาโต้” ไอศกรีมไขมันต่ำ เนื้อเหนียวนุ่ม ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติเจ้าดังตั้งอยู่ด้วย
เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองชายทะเลเราเลือกร้านเล็กๆ ที่ขายอาหารอิตาเลียนพื้นเมืองเป็นอาหารทะเลสดชุบแป้งทอดใส่ห่อกระดาษสีน้ำตาลคล้ายห่อโรตียักษ์ที่บ้านเรา พี่ลองสั่งแป้งทอดที่เหมือนข้าวทอดมากินดู ข้างในมีหลายรสชาติมากไม่ว่าจะเป็นข้าวอบชีส หรือสปาเกตตีอบชีส พวกเราเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้าโดยเฉพาะเนื้อปลาที่สดหวาน
พี่บ่นกับลูกว่าแปลกดีว่าร้านอาหารไม่ทำน้ำมะนาวโซดาขายเหมือนบ้านเรา ทุกร้านที่แวะเข้าไปจะขายแบบคั้นใส่ขวดให้ซื้อกลับบ้าน เพิ่งมาเห็นที่ร้านไอศกรีมเจลาโตว่ามีน้ำมะนาวโซดาขายแบบแก้วด้วย แต่ตอนนั้นพี่ก็อิ่มเกินที่จะลองชิมแล้ว แน่นอนที่ลูกๆ จะไม่พลาดชิมไอศกรีมเจลาโตของที่นี่
เราออกจากเมือง Amalfi ตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองปอมเปอีที่อยู่ห่างออกไปอีกชั่วโมงครึ่ง ดูเหมือนการขับรถลงเขาจะง่ายกว่าการขับรถขึ้นเขาเพราะเรามาถึงปลายเขาเร็วกว่าที่คาด
เส้นทางไปเมืองปอมเปอีค่อนข้างเงียบมาก นานๆ จะมีรถผ่านมา 1 คัน ร้านรวงข้างทางปิดหมดเพราะเป็นช่วงคริสมาสต์อีฟ ขณะที่เรากำลังคุยกันว่าเย็นนี้จะกินอะไรกันดีหรือจะซื้ออะไรกลับไปกินที่ Apartment เพราะที่เมืองปอมเปอีน่าจะไม่มีของขาย
ทันใดนั้นเองเสียงเหมือนรถด้านขวาตกหล่มหรือหลุมกระแทกพื้นถนนดัง “ปัง” ทุกคนในรถตกใจมากเพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รถทั้งคันสะเทือนอย่างแรงโดยเฉพาะช่วงล้อหลังด้านขวา
ขับรถต่อมาได้ไม่นานพี่สมบูรณ์ขับหลบข้างทางหน้าร้านยางรถที่ปิดอยู่เพื่อลงไปดูความเสียหาย เสียงบอกผ่านกระจกมาว่า “รถยางแบน” แปลกมากที่ยางแตกตรงล้อด้านขวาที่พี่นั่ง ทั้งๆ ที่รถกระแทกด้านหลัง
เรามองไปโดยรอบไม่เห็นรถสักคันขับผ่าน ถนนที่เราขับอยู่เหมือนเป็นทางลัดตัดเขาที่มีแต่วิวเมืองอยู่ด้านล่าง พี่สมบูรณ์กลับขึ้นมาที่รถ สิ่งที่เราทุกคนทำได้ตอนนั้นคือสวดมนต์และภาวนาขอให้เจอปั้มน้ำมันหรือร้านปะยาง
รูปพระที่วางไว้หน้ารถคือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่เราทั้ง 5 คนร่วมกันอธิษฐานเพื่อให้ผ่านช่วงวิกฤตนี้ไป แม้เราจะไม่เห็นหนทางข้างหน้าแต่เรายังคงอุ่นใจที่มีท่านอยู่กับเรา ณ วินาทีที่เราทั้งหมดหาทางออกไม่เจอ
เสียงล้อบดถนนดังเข้าหูตลอดทาง ตอนนั้นพี่นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะไปหาร้านปะยางหรือปั้มน้ำมันที่ไหน เพราะตลอดเส้นทางที่ขับมาไม่เห็นปั้มน้ำมัน ยิ่งเมืองเล็กยิ่งหายากมาก พี่ภาวนาออกมาดังๆ ว่า “ขอให้ลูกเจอปั้มน้ำมันพร้อมอู่ปะยางด้วยเถิด”
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเราทั้ง 5 คนไว้อย่างไร ติดตามต่อได้ในตอนที่ 5 ค่ะ
รัก
พี่ณี
3/1/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
วันนี้ช่วงเช้าเรามีแผนล่องลงใต้เพื่อไปดูโบสถ์ใหญ่ที่สวยงามชื่อ Cathedral of Saint Andrew the Apostle และแวะเที่ยวเมืองปอมเปอีตามแผนที่ลูกๆ วางไว้ในช่วงบ่าย ทัศนียภาพสองข้างทางสวยงามมาก แต่เวลาขับรถค่อนข้างหวาดเสียวเพราะข้างหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชัน อีกด้านเป็นหุบเขาที่มีโค้งหักศอกถนนกว้างเท่าที่รถยนต์สองคันสวนกันได้ บางช่วงต้องมีไฟแดงให้รถสวนที่ละด้านเพราะถนนแคบมาก
ยิ่งใกล้เมืองยิ่งได้เห็นคนปลูกมะนาวลูกสีเหลืองสดอยู่บนไหล่เขาเกือบทุกบ้าน พี่สมบูรณ์ค่อยๆ ขับรถขึ้นเขามาอย่างระมัดระวังและมาถึงเมือง Amalfi โดยสวัสดิภาพ ทะเลสีฟ้าสดตัดกับขอบฟ้างดงาม พวกเราเพลิดเพลินกับการเก็บภาพสวยๆ ในบริเวณนั้นกันหลายสิบรูป
ทางเข้าโบสถ์อยู่เลยฝั่งทะเลมาไม่ไกล พี่ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาเจอโบสถ์เก่าที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจงและด้านในเต็มไปด้วยภาพวาดบนปูนเปลือยแต่ครั้งอดีตที่นี่ เราสองคนพ่อแม่ไม่รู้จักว่าเทคนิคการวาดภาพแบบนี้เรียกว่าอะไร
ปรางปัญญ์เล่าให้เราฟังว่าเป็นการวาดภาพบนตอนปูนยังเปียกอยู่โดยผสมไข่เพื่อทำให้สีติดผนังกลายเป็นเนื้อเดียวกับปูนโดยสีจะยังคงสวยสดแม้เวลาผ่านไปหลายร้อยปี เด็กๆ วอลดอร์ฟจะได้เรียนในวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ตอน ม. 3 เรียกว่าการวาดภาพแบบ Fresco ซึ่งเป็นภาษาอิตาลี แปลว่า “สด”
สิ่งที่พี่รู้สึกประทับใจคือบรรยากาศของโบสถ์ที่เงียบสงบและภาพวาดที่งดงาม ทุกคนที่มาเที่ยวจะมายืนชื่นชมภาพบนกำแพงโบสถ์ นั่งบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ หยุดอ่านคำบรรยายใต้ภาพกันอย่างเงียบๆ แล้วเดินออกไป โบสถ์ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนอยู่เสมอ
เราเดินลงบันไดที่ทอดยาวมาหาอาหารกลางวันกินก่อนเดินทางไปเมืองปอมเปอี มีร้านขายน้ำมะนาวคั้นเป็นขวดที่สืบทอดกิจการมาเป็นรุ่นที่ 3 อยู่ตรงบันไดทางขึ้นโบสถ์ นอกจากของที่ระลึกและน้ำมะนาวยังมีร้านไอศกรีมโฮมเมด Gelato หรือ “เจลาโต้” ไอศกรีมไขมันต่ำ เนื้อเหนียวนุ่ม ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติเจ้าดังตั้งอยู่ด้วย
เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองชายทะเลเราเลือกร้านเล็กๆ ที่ขายอาหารอิตาเลียนพื้นเมืองเป็นอาหารทะเลสดชุบแป้งทอดใส่ห่อกระดาษสีน้ำตาลคล้ายห่อโรตียักษ์ที่บ้านเรา พี่ลองสั่งแป้งทอดที่เหมือนข้าวทอดมากินดู ข้างในมีหลายรสชาติมากไม่ว่าจะเป็นข้าวอบชีส หรือสปาเกตตีอบชีส พวกเราเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้าโดยเฉพาะเนื้อปลาที่สดหวาน
พี่บ่นกับลูกว่าแปลกดีว่าร้านอาหารไม่ทำน้ำมะนาวโซดาขายเหมือนบ้านเรา ทุกร้านที่แวะเข้าไปจะขายแบบคั้นใส่ขวดให้ซื้อกลับบ้าน เพิ่งมาเห็นที่ร้านไอศกรีมเจลาโตว่ามีน้ำมะนาวโซดาขายแบบแก้วด้วย แต่ตอนนั้นพี่ก็อิ่มเกินที่จะลองชิมแล้ว แน่นอนที่ลูกๆ จะไม่พลาดชิมไอศกรีมเจลาโตของที่นี่
เราออกจากเมือง Amalfi ตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองปอมเปอีที่อยู่ห่างออกไปอีกชั่วโมงครึ่ง ดูเหมือนการขับรถลงเขาจะง่ายกว่าการขับรถขึ้นเขาเพราะเรามาถึงปลายเขาเร็วกว่าที่คาด
เส้นทางไปเมืองปอมเปอีค่อนข้างเงียบมาก นานๆ จะมีรถผ่านมา 1 คัน ร้านรวงข้างทางปิดหมดเพราะเป็นช่วงคริสมาสต์อีฟ ขณะที่เรากำลังคุยกันว่าเย็นนี้จะกินอะไรกันดีหรือจะซื้ออะไรกลับไปกินที่ Apartment เพราะที่เมืองปอมเปอีน่าจะไม่มีของขาย
ทันใดนั้นเองเสียงเหมือนรถด้านขวาตกหล่มหรือหลุมกระแทกพื้นถนนดัง “ปัง” ทุกคนในรถตกใจมากเพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รถทั้งคันสะเทือนอย่างแรงโดยเฉพาะช่วงล้อหลังด้านขวา
ขับรถต่อมาได้ไม่นานพี่สมบูรณ์ขับหลบข้างทางหน้าร้านยางรถที่ปิดอยู่เพื่อลงไปดูความเสียหาย เสียงบอกผ่านกระจกมาว่า “รถยางแบน” แปลกมากที่ยางแตกตรงล้อด้านขวาที่พี่นั่ง ทั้งๆ ที่รถกระแทกด้านหลัง
เรามองไปโดยรอบไม่เห็นรถสักคันขับผ่าน ถนนที่เราขับอยู่เหมือนเป็นทางลัดตัดเขาที่มีแต่วิวเมืองอยู่ด้านล่าง พี่สมบูรณ์กลับขึ้นมาที่รถ สิ่งที่เราทุกคนทำได้ตอนนั้นคือสวดมนต์และภาวนาขอให้เจอปั้มน้ำมันหรือร้านปะยาง
รูปพระที่วางไว้หน้ารถคือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่เราทั้ง 5 คนร่วมกันอธิษฐานเพื่อให้ผ่านช่วงวิกฤตนี้ไป แม้เราจะไม่เห็นหนทางข้างหน้าแต่เรายังคงอุ่นใจที่มีท่านอยู่กับเรา ณ วินาทีที่เราทั้งหมดหาทางออกไม่เจอ
เสียงล้อบดถนนดังเข้าหูตลอดทาง ตอนนั้นพี่นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะไปหาร้านปะยางหรือปั้มน้ำมันที่ไหน เพราะตลอดเส้นทางที่ขับมาไม่เห็นปั้มน้ำมัน ยิ่งเมืองเล็กยิ่งหายากมาก พี่ภาวนาออกมาดังๆ ว่า “ขอให้ลูกเจอปั้มน้ำมันพร้อมอู่ปะยางด้วยเถิด”
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเราทั้ง 5 คนไว้อย่างไร ติดตามต่อได้ในตอนที่ 5 ค่ะ
รัก
พี่ณี
3/1/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150