Inner Journey
อิตาลี...อาณาจักรโรมันอันรุ่งเรือง (ตอนที่ 2)
หลังเที่ยวในกรุงโรมเพียง 2 ที่ เรารีบเดินทางออกจากโรมมุ่งสู่เมือง Napoli เมืองเล็กๆ ที่ถูกลืมเพราะเป็นเมืองรอง สมัยก่อนคนเรียกว่าเป็นเมืองใต้ดินเพราะมีการขุดแร่และอัญมณีล้ำค่า Napoli เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก ปรางเลือกเมืองนี้เพื่อเป็นที่พักระหว่างทางก่อนเดินทางไปเมือง Amalfi ที่อยู่ทางใต้ในวันรุ่งขึ้น
ฟ้ามืดตั้งแต่สี่โมงเย็น เราขับรถลงทางด่วนถึงตัวเมืองที่ตั้งเลียบชายทะเลแบบหวาดเสียวกับถนนหนทางมาก ความที่ถนนทั้งเมืองปูด้วยกระเบื้องหนาสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กทั้งถนนและทางเท้า ทำให้เส้นทางรถของเราโดดเด้งไปตลอดทาง (พี่เพิ่งรู้จากบี เพื่อนรุ่นน้องว่าเขตโบราณสถานจะปูด้วยก้อนอิฐโบราณตลอดแนว ที่น่าทึ่งคือเมืองนี้ปูอิฐโบราณทั้งเมือง)
พี่สมบูรณ์เลือกที่พักเป็น Service Apartment ที่พักได้ทั้งครอบครัวไว้ 2 คืน เนื่องจากเราไปถึงที่พักค่ำมาก Google บอกว่าถึงจุดหมายแล้วแต่เราหาที่พักไม่เจอเพราะบ้านทุกหลังเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่มีประตูบานใหญ่ปิดสนิทอยู่หน้าบ้านคนจะเดินออกทางประตูเล็ก บ้านทุกหลังติดถนน ไม่มีวี่แววของ Service Apartment แต่อย่างใด
เราขับวนหาที่พักในถนนซอยที่เดินรถทางเดียว ทางลาดชันมากเหมือนเล่นสไลเดอร์ พี่นั่งลุ้นตลอดทางเวลาพี่สมบูรณ์เปลี่ยนเกียร์แต่ละครั้งเพราะถนนเป็นโค้งหักศอก ขึ้นและลงแบบไม่มีช่วงให้แตะเบรค พี่ต้องคอยเตือนพี่สมบูรณ์ไม่ให้ขับชิดขาวมาก เพราะรถเหมือนจะขับเกยฟุตบาทตลอดเวลา
เป็นข้อสังเกตว่าคนอิตาเลียนปรับตัวให้อยู่กับความวุ่นวายของโลกภายนอกได้อย่างสงบ ผู้คนชอบมานั่งอยู่หน้าบ้านเฝ้ามองนักท่องเที่ยวที่เดินไปมาอย่างขวักไขว่ เขามองพวกเราด้วยความสนอกสนใจ ไม่ค่อยมีใครใช้โทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่ชอบคุยกันแบบซึ่งๆ หน้า ก่อนเดินทางมาทุกคนเตือนเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สิน เรื่องโจรกรรมฉกชิงวิ่งราว แต่ประสบการณ์ที่พบเจอสะท้อนมุมมองอีกด้าน
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่พี่เห็นคือพ่อแม่ฝึกลูกให้อยู่กับความโกลาหลอย่างสงบ ลูกเล็กเดินเตาะแตะไปไกลพ่อแม่มาก พี่ยังเห็นพ่อแม่ยืนคุยกันแค่เหลือบตามองและกลับมาอุ้มลูกไปอย่างเงียบๆ ตอนเห็นคุณแม่จูงลูกสาวตัวเล็กๆ 2 คนเดินข้ามตัดหน้ารถที่แล่นมาด้วยความรวดเร็วแบบสบายๆ พี่ตกใจมากแต่คุณแม่ดูนิ่งมาก ถือคุณสมบัติที่พี่ทึ่งมากเพราะทุกคนไว้วางใจว่ารถจะหยุดให้ทุกครั้งที่มีคนเดินข้ามถนน ทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังอีกเป็น 2 เท่าตอนคนข้ามถนน
การค้นหาที่พักของเรายังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น เราขับรถวนกลับมาที่ร้านขายชีสที่เปิดอยู่ร้านเดียวในละแวกนั้นหลายรอบ โชคดีมีรถเพิ่งขับออกไป ทำให้เราได้ที่จอดรถ พี่สมบูรณ์และลูกทั้ง 3 คนบอกให้แม่เฝ้ารถเพื่อทุกคนจะแยกย้ายกันเดินหาที่พัก ตอนนั้นพี่อยากจะเดินลงไปถามร้านชีสมากว่ารู้จักที่พักของเราไหม แต่ทิ้งรถไปไม่ได้เพราะรถไม่มี Central lock
ทุกคนกลับมาพร้อมใบหน้าที่ผิดหวังหลังหายไปพักใหญ่ พี่ได้ยินลูกปลอบใจกันเองว่าอย่าคาดหวังว่าที่พักจะดีมาก เราจะได้ไม่เสียใจ เช้าวันรุ่งขึ้นตอนขับรถออกจากซอย Apartment ที่เราพัก พี่เพิ่งเห็นว่าร้านชีสอยู่ใกล้ที่พักมาก แต่เราพลาดไป ถ้าพี่ยืนยันว่าจะลงไปถามร้านชีสตอนทุกคนกลับมาที่รถ เราน่าจะถึงที่พักเร็วกว่านี้
ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานความอดทนของเราจะลดต่ำลงเรื่อยๆ พลังชีวิตถูกเปลี่ยนเป็นสติและความสามารถในการควบคุมอารมณ์ตัวเองขึ้นอยู่กับพลังชีวิตที่สะสมไว้ โชคดีที่เรามาเที่ยวตอนลูกโตหมดแล้ว นึกภาพไม่ออกเลยค่ะว่าเด็กๆ จะเหนื่อยและโยเยเพียงใดถ้าเราพาลูกมาท่องโลกตอนเขาเล็กๆ เพราะพลังชีวิตพวกเขายังใช้สำหรับการก่อร่างสร้างอวัยวะภายใน คงไม่มีเหลือพอสำหรับการควบคุมอารมณ์ตัวเอง
อันที่จริงเราคุยกันว่าจะมากินข้าวเย็นที่เมืองนี้ แต่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแผนใหม่หมด การหาที่พักให้เจอถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชั่วโมงนี้ เรื่องข้าวเย็นกลายเป็นเรื่องรองไป โชคดีที่เรามีขนมปังขาไก่และน้ำดื่มติดรถไว้ แม้ทุกคนปฏิเสธที่จะกินอะไรรองท้องก่อนเดินหาที่พัก พี่ยังคงคะยั้นคะยอและยืนยันให้ทุกคนดื่มน้ำเพื่อไม่ให้สมองเครียดและล้าจนเกินไป
หลังวนรถอีก 2 รอบ พี่สมบูรณ์หลบรถเข้าไปในหลืบใกล้ๆ โบสถ์หลังหนึ่งโดยไม่ทันสังเกตว่านี่คือถนนสาธารณะหรือถนนส่วนบุคคล ครั้งนี้พี่สมบูรณ์เดินออกไปตามหาที่พักคนเดียว ไม่ถึง 5 นาทีมีรถเลี้ยวเข้ามาต่อท้าย ประตูใหญ่ที่เราไม่ได้สังเกตปิดลงทันที เรา 4 คนถูกล็อกไว้ด้านใน รถเจ้าของบ้านบีบแตรให้เราขยับรถ ความที่พี่ขับรถไม่เป็นเลยรีบเดินไปบอกว่า “เราหลงทาง ขอหลบรถรอสักพัก”
เจ้าของบ้านบอกว่า นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคลเราต้องเอารถไปจอดที่อื่น พี่หันไปมองประตูใหญ่ที่ถูกล็อกแบบอัตโนมัติแล้วภาวนาในใจขอให้พี่สมบูรณ์รีบกลับมา เพราะรู้ว่าคงถ่วงเวลาให้เจ้าบ้านรอพี่สมบูรณ์นานกว่านี้ไม่ได้ คิดต่อไปว่าถ้าเจ้าของบ้านกลับเข้าบ้านไป เราจะไปเรียกเธอมาเปิดประตูได้อย่างไร เธอจะมาเปิดให้รถเราออกตอนไหน รู้ว่าเธอคงอยากให้เรารีบออกไป แต่ในสถานการณ์แบบนี้เอาแน่ เอานอนไม่ได้จริงๆ
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราทั้งหมดได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้ เราเจอที่พักปริศนานี้ได้อย่างไร ติดตามตอนต่อไปค่ะ
รัก
พี่ณี
28/12/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
ฟ้ามืดตั้งแต่สี่โมงเย็น เราขับรถลงทางด่วนถึงตัวเมืองที่ตั้งเลียบชายทะเลแบบหวาดเสียวกับถนนหนทางมาก ความที่ถนนทั้งเมืองปูด้วยกระเบื้องหนาสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กทั้งถนนและทางเท้า ทำให้เส้นทางรถของเราโดดเด้งไปตลอดทาง (พี่เพิ่งรู้จากบี เพื่อนรุ่นน้องว่าเขตโบราณสถานจะปูด้วยก้อนอิฐโบราณตลอดแนว ที่น่าทึ่งคือเมืองนี้ปูอิฐโบราณทั้งเมือง)
พี่สมบูรณ์เลือกที่พักเป็น Service Apartment ที่พักได้ทั้งครอบครัวไว้ 2 คืน เนื่องจากเราไปถึงที่พักค่ำมาก Google บอกว่าถึงจุดหมายแล้วแต่เราหาที่พักไม่เจอเพราะบ้านทุกหลังเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่มีประตูบานใหญ่ปิดสนิทอยู่หน้าบ้านคนจะเดินออกทางประตูเล็ก บ้านทุกหลังติดถนน ไม่มีวี่แววของ Service Apartment แต่อย่างใด
เราขับวนหาที่พักในถนนซอยที่เดินรถทางเดียว ทางลาดชันมากเหมือนเล่นสไลเดอร์ พี่นั่งลุ้นตลอดทางเวลาพี่สมบูรณ์เปลี่ยนเกียร์แต่ละครั้งเพราะถนนเป็นโค้งหักศอก ขึ้นและลงแบบไม่มีช่วงให้แตะเบรค พี่ต้องคอยเตือนพี่สมบูรณ์ไม่ให้ขับชิดขาวมาก เพราะรถเหมือนจะขับเกยฟุตบาทตลอดเวลา
เป็นข้อสังเกตว่าคนอิตาเลียนปรับตัวให้อยู่กับความวุ่นวายของโลกภายนอกได้อย่างสงบ ผู้คนชอบมานั่งอยู่หน้าบ้านเฝ้ามองนักท่องเที่ยวที่เดินไปมาอย่างขวักไขว่ เขามองพวกเราด้วยความสนอกสนใจ ไม่ค่อยมีใครใช้โทรศัพท์มือถือ ส่วนใหญ่ชอบคุยกันแบบซึ่งๆ หน้า ก่อนเดินทางมาทุกคนเตือนเรื่องความปลอดภัยของทรัพย์สิน เรื่องโจรกรรมฉกชิงวิ่งราว แต่ประสบการณ์ที่พบเจอสะท้อนมุมมองอีกด้าน
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่พี่เห็นคือพ่อแม่ฝึกลูกให้อยู่กับความโกลาหลอย่างสงบ ลูกเล็กเดินเตาะแตะไปไกลพ่อแม่มาก พี่ยังเห็นพ่อแม่ยืนคุยกันแค่เหลือบตามองและกลับมาอุ้มลูกไปอย่างเงียบๆ ตอนเห็นคุณแม่จูงลูกสาวตัวเล็กๆ 2 คนเดินข้ามตัดหน้ารถที่แล่นมาด้วยความรวดเร็วแบบสบายๆ พี่ตกใจมากแต่คุณแม่ดูนิ่งมาก ถือคุณสมบัติที่พี่ทึ่งมากเพราะทุกคนไว้วางใจว่ารถจะหยุดให้ทุกครั้งที่มีคนเดินข้ามถนน ทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังอีกเป็น 2 เท่าตอนคนข้ามถนน
การค้นหาที่พักของเรายังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น เราขับรถวนกลับมาที่ร้านขายชีสที่เปิดอยู่ร้านเดียวในละแวกนั้นหลายรอบ โชคดีมีรถเพิ่งขับออกไป ทำให้เราได้ที่จอดรถ พี่สมบูรณ์และลูกทั้ง 3 คนบอกให้แม่เฝ้ารถเพื่อทุกคนจะแยกย้ายกันเดินหาที่พัก ตอนนั้นพี่อยากจะเดินลงไปถามร้านชีสมากว่ารู้จักที่พักของเราไหม แต่ทิ้งรถไปไม่ได้เพราะรถไม่มี Central lock
ทุกคนกลับมาพร้อมใบหน้าที่ผิดหวังหลังหายไปพักใหญ่ พี่ได้ยินลูกปลอบใจกันเองว่าอย่าคาดหวังว่าที่พักจะดีมาก เราจะได้ไม่เสียใจ เช้าวันรุ่งขึ้นตอนขับรถออกจากซอย Apartment ที่เราพัก พี่เพิ่งเห็นว่าร้านชีสอยู่ใกล้ที่พักมาก แต่เราพลาดไป ถ้าพี่ยืนยันว่าจะลงไปถามร้านชีสตอนทุกคนกลับมาที่รถ เราน่าจะถึงที่พักเร็วกว่านี้
ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานความอดทนของเราจะลดต่ำลงเรื่อยๆ พลังชีวิตถูกเปลี่ยนเป็นสติและความสามารถในการควบคุมอารมณ์ตัวเองขึ้นอยู่กับพลังชีวิตที่สะสมไว้ โชคดีที่เรามาเที่ยวตอนลูกโตหมดแล้ว นึกภาพไม่ออกเลยค่ะว่าเด็กๆ จะเหนื่อยและโยเยเพียงใดถ้าเราพาลูกมาท่องโลกตอนเขาเล็กๆ เพราะพลังชีวิตพวกเขายังใช้สำหรับการก่อร่างสร้างอวัยวะภายใน คงไม่มีเหลือพอสำหรับการควบคุมอารมณ์ตัวเอง
อันที่จริงเราคุยกันว่าจะมากินข้าวเย็นที่เมืองนี้ แต่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแผนใหม่หมด การหาที่พักให้เจอถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชั่วโมงนี้ เรื่องข้าวเย็นกลายเป็นเรื่องรองไป โชคดีที่เรามีขนมปังขาไก่และน้ำดื่มติดรถไว้ แม้ทุกคนปฏิเสธที่จะกินอะไรรองท้องก่อนเดินหาที่พัก พี่ยังคงคะยั้นคะยอและยืนยันให้ทุกคนดื่มน้ำเพื่อไม่ให้สมองเครียดและล้าจนเกินไป
หลังวนรถอีก 2 รอบ พี่สมบูรณ์หลบรถเข้าไปในหลืบใกล้ๆ โบสถ์หลังหนึ่งโดยไม่ทันสังเกตว่านี่คือถนนสาธารณะหรือถนนส่วนบุคคล ครั้งนี้พี่สมบูรณ์เดินออกไปตามหาที่พักคนเดียว ไม่ถึง 5 นาทีมีรถเลี้ยวเข้ามาต่อท้าย ประตูใหญ่ที่เราไม่ได้สังเกตปิดลงทันที เรา 4 คนถูกล็อกไว้ด้านใน รถเจ้าของบ้านบีบแตรให้เราขยับรถ ความที่พี่ขับรถไม่เป็นเลยรีบเดินไปบอกว่า “เราหลงทาง ขอหลบรถรอสักพัก”
เจ้าของบ้านบอกว่า นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคลเราต้องเอารถไปจอดที่อื่น พี่หันไปมองประตูใหญ่ที่ถูกล็อกแบบอัตโนมัติแล้วภาวนาในใจขอให้พี่สมบูรณ์รีบกลับมา เพราะรู้ว่าคงถ่วงเวลาให้เจ้าบ้านรอพี่สมบูรณ์นานกว่านี้ไม่ได้ คิดต่อไปว่าถ้าเจ้าของบ้านกลับเข้าบ้านไป เราจะไปเรียกเธอมาเปิดประตูได้อย่างไร เธอจะมาเปิดให้รถเราออกตอนไหน รู้ว่าเธอคงอยากให้เรารีบออกไป แต่ในสถานการณ์แบบนี้เอาแน่ เอานอนไม่ได้จริงๆ
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราทั้งหมดได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้ เราเจอที่พักปริศนานี้ได้อย่างไร ติดตามตอนต่อไปค่ะ
รัก
พี่ณี
28/12/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150