Inner Journey
เราจะหากันจนเจอ
พี่ทิ้งเวลาให้ใจตัวเองตกผลึกและได้ย้อนมองเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาอย่างใคร่ครวญ ถามใจตัวเองอยู่หลายวันจนตัดสินใจแบ่งปันปรากฎการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต
เมื่ออาทิตย์ก่อนสตางค์ในกระเป๋าหายแบบไร้ร่องรอย พี่รู้สึกแปลกใจว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดกับตัวเองมานานมาก พี่พยายามลำดับเหตุการณ์ว่าเราพลั้งเผลอทำสตางค์ตกหล่นที่ไหนอยู่หลายรอบ แต่นึกไม่ออกจริงๆ จนพี่สมบูรณ์บอกว่า “ฟาดเคราะห์ไป” เหมือนทุกครั้งที่ลูกลืมของ ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายบนรถเมล์
ถ้าเพื่อนๆ สังเกตุพักหลังพี่เริ่มเวียนนำสร้อยคอ กำไลข้อมือที่สะสมไว้มาใส่เพราะอยากเติมสีสันให้ชีวิตตัวเอง พี่รู้สึกสนุกกับการ Mix & Match หินสีแต่ละชนิดให้ไปในโทนเดียวกับเสื้อผ้า พอเวียนมาเปิดกล่องดูก็เห็นว่าตัวเองเก็บรักษาไว้ไม่ดี บางเส้นแตก บิ่น เพราะกระทบกัน รู้สึกสงสารและเสียดายว่าตัวเองมีเวลาดูแลพวกเขาน้อยมาก ทิ้งร้างไว้หลายปีจนลืม
เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาตารางนัดหมายของพี่ถูกเลื่อนออกไป พี่บอกน้องๆ ที่ออฟฟิศหลังประชุมจบว่าพี่เจอร้านซ่อมเครื่องประดับที่ช่วยออกแบบ ทำความสะอาด และซ่อมอุปกรณ์แบบครบวงจรได้แล้ว ห้างอยู่ไกลถึงรังสิต วันนี้บ่ายพี่จะรีบไปเพราะรู้ว่าตารางตัวเองจะติดยาวหลังจากนี้
พี่ไปถึงห้างตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ กลับออกจากห้างตอน 1 ทุ่ม ฟ้าเริ่มมืด รถติดยาวเหยียด พี่ขนอาหารและขนมที่ซื้อไว้ให้เด็กๆ กินขึ้นรถ และรู้สึกปลื้มใจที่ได้ดูแลสร้อยคอทุกเส้นด้วยตัวเอง พี่โชคดีที่เจอร้านร้อยสร้อยที่ออกแบบสร้อยให้ใหม่ ได้เจอร้านทำความสะอาดเครื่องเงิน ได้นั่งคุยกับเจ้าของร้านที่เป็นคุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดเรื่องสุขภาพและวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนไปหลังเธอคลอดระหว่างเธอและสามีรื้อสร้อยหลายเส้นของพี่มาร้อยใหม่
หนึ่งในบทสนทนาที่ยาวนานของเราคือความมหัศจรรย์หรือเสน่ห์ของหินแต่ละชนิด พี่ถามว่าที่คุณพ่อเรื่องความเชื่อที่มีต่อหินและเครื่องประดับที่ใส่เต็มข้อมือ คุณพ่อบอกว่า “ผมว่าข่วยได้นิดหน่อยครับ ที่ใส่เพราะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่าเราก็ใส่เหมือนกัน” พี่ขอบคุณสองสามีภรรยาที่ช่วยดูแลออกแบบใหม่ได้ถูกใจพี่มาก พี่รีบหอบสร้อยทั้งหมดใส่กระเป๋าหวายใบโตที่วางไว้ในรถเข็นของซุปเปอร์มาร์เก็ต
พี่เอนหลังเหยียดยาวบนรถเพราะเมื่อยกับการเดินขึ้นลงดูแต่ละร้านซ่อมสร้อย พี่คุยกับสาน คนขับรถเรื่องสัพเพเหระเพื่อฆ่าเวลาที่รถติดยาว ก่อนรถเลี้ยวออกถนนใหญ่มีเสียงปริศนาดังขึ้นแทรกบทสนทนาที่กำลังดำเนินอยู่ว่า “อำพันอยู่ไหน” พี่งงไปพักใหญ่เพราะเป็นคำถามแทรกที่พี่ไม่ได้คิด พี่หยุดคุยและนึกในใจว่า “อืมใช่! อำพันอยู่ไหนลองหยิบมาดูดีกว่า”
พี่ใจหายวาบเมื่อคิดได้ว่าอำพันอยู่ในตะกร้าหวายใบใหญ่บนรถเข็น พี่หันไปมองรอบรถเห็นแต่ถุงใส่อาหารและตะกร้าใส่กระเป๋าสตางค์ พี่รีบถามสานว่าหยิบตะกร้าหวายใบใหญ่ขึ้นรถมาด้วยหรือเปล่า สานบอกว่า “ผมหยิบมาแต่ตะกร้าหวายใบเล็กของพี่มาใบเดียวครับ ผมไม่เห็นมีตะกร้าบนรถเข็นนะครับ”
พี่นั่งนิ่งอยู่พักเพื่อลำดับเหตุการณ์ว่าเอาตะกร้าหวายใบใหญ่ไปลืมทิ้งไว้ที่ไหน ตอนนั้นรถเราหลุดจากแถวรถติดมาอยู่บนถนนใหญ่แล้ว ถ้ารถเลยออกไปไกลกว่านี้ โอกาสในการย้อนกลับมาที่เดิมคงยากมาก พี่รีบยืนยันกับสานว่า “เราลืมหยิบตะกร้าใส่เครื่องประดับที่พี่ซ่อมขึ้นรถมาด้วยแน่ๆ”
โชคดีที่รถเราเพิ่งออกถนนใหญ่ได้ไม่ถึง 5 นาที สานหักเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาลเปาโลได้ทัน เป็นชั่ววินาทีเดียวที่พี่บอกสานว่าเราลืมกระเป๋าหวายไว้ที่ลานจอดรถ พี่เหลือบตาเห็นมอเตอร์ไซค์วินจอดหน้าโรงพยาบาล บอกสานว่าจอดรถทิ้งไว้ตรงนี้เดี๋ยวพี่นั่งวินย้อนกลับไปเอาตะกร้าเองเพราะไม่มีถนนให้เราขับรถย้อนกลับไป สานบอกว่าเดี๋ยวผมวิ่งไปเร็วกว่า
ตอนนั้นพี่นึกไม่ออกว่าสานจะวิ่งกลับไปอย่างไร แต่ก็ตอบตกลง โชคดีที่มีที่จอดว่าง 1 คันทั้งลานจอด จอดรถได้สานวิ่งตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถ สานเล่าตอนหลังว่าตอนผมวิ่งกลับไป รถทุกคันหันมามองผมกันหมดเพราะผมกลัวของพี่หาย
พี่รู้สึกเหมือนเวลายาวนานมาก สิ่งเดียวที่ทำได้คือขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย พี่ยกมืออธิษฐานขอพรท่านว่า “ขอให้ลูกเจอของทั้งหมดด้วยค่ะ” เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นดังและเต้นแรงมาก ความหวังริบหรี่เหลือเกิน รถออกจากลานจอดมาเกือบ 20 นาที ได้แต่ภาวนาว่าให้สานหาตะกร้าของทั้งหมดเจอ
ระหว่างนั้นมีสายเรียกเข้าจากคุณแม่ที่โรงเรียน พี่ตัดสินใจรับสายแม้หัวใจตัวเองเต้นรัว อยากเล่าให้ปลายสายฟังเหลือเกินว่าพี่กำลังตกใจกับเรื่องใหญ่มากๆ ในชีวิตอยู่ น่าแปลกที่หัวใจที่เต้นแรงค่อยๆ ลดจังหวะลงเป็นปกติเมื่อคุยเรื่องที่สำคัญมากกว่า เป็นชั่วขณะที่พี่ได้เรียนรู้ที่จะวางใจในสิ่งที่ขอพระไว้และเปลี่ยนโฟกัสมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
เพราะพี่ติดสายเลยไม่ได้รับสายจากสาน พี่เดาน้ำเสียงสานไม่ถูกว่าเจอหรือไม่เจอกระเป๋าหวายตอนโทร. กลับ เพราะสานบอกด้วยเสียงที่ราบเรียบว่าให้พี่คุยกับหัวหน้ารปภ. คุณรปภ. บอกว่า “โชคดีมากครับของอยู่ครบ ผมมาตรวจงานพอดี ผมกำลังบอกลูกน้องให้เอาของไปฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์เพราะผมดูแล้วว่าของแพงทุกชิ้นครับ” พี่ดีใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ยกมือขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเมตตา
พี่ขอชื่อทุกคนและให้สานช่วยถ่ายรูปคุณ รปภ. 3 คนกลับมาด้วยเพื่อเขียนขอบคุณในน้ำใจของทุกคน สานเดินกลับมาที่รถและยื่นกระเป๋าหวายให้พี่พร้อมบอกว่า “ผมไม่เห็นกระเป๋าใบนี้จริงๆ ครับ เหมือนมีอะไรมาบังตา ปกติผมไม่เคยลืมหยิบของจากรถเข็นให้พี่ ผมต้องตรวจดูทุกครั้ง”
สานเล่าเรื่องที่เขาต้องไปต่อรองกับคุณหัวหน้ารปภ. ชื่นชมในความเป็นมืออาชีพตอนถูกขอหลักฐานเพื่อยืนยันสถานะว่าเป็นเจ้าของตัวจริง สานบอกต่อว่า “อะไรที่เป็นของเรา มันก็เป็นของเราจริงๆ นะครับ แต่ถ้ามันหายทั้งตะกร้า ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาทุกอย่างมาคืนพี่ได้อย่างไร ดีนะครับที่พี่ไม่ว่าผมสักคำ”
พี่บอกสานกลับไปว่า “ของบางอย่างเราจะเห็นคุณค่าเมื่อมันหายไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตามาบอกเราว่าให้ดูแลทุกสิ่งที่เราให้คุณค่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พี่คงไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่พี่มี นึกไม่ออกเหมือนกันว่าพี่จะเป็นอย่างไรถ้าของทั้งหมดที่สะสมไว้หายหมด”
กลับถึงบ้านพี่เล่าให้ลูกๆ ฟังอย่างตื่นเต้นที่แม่ได้ของทุกอย่างกลับมาครบ ทุกคนรับฟังอย่างเงียบสงบไม่แสดงอาการตื่นเต้น เหมือนพี่สมบูรณ์ที่ยืนฟังอย่างเงียบๆ ก่อนบอกว่า “ได้คืนกลับมาก็ดีแล้ว ถ้าหายก็ฟาดเคราะห์ไป”
ผ่านมาจนถึงวันนี้พี่ได้เรียนรู้ว่าสร้อยและเครื่องประดับทุกชิ้นที่พี่สะสมไว้คือตัวแทนของสิ่งที่พี่ตามหามานาน มันคือความผูกพัน ความห่วงใย ความเอื้ออาทรต่อคนที่เรารักและคนที่รักเรา นับจากนี้ไปพี่คงไม่ปล่อยปละละเลยและจะยอมทำทุกสิ่ง..เพื่อให้เราทั้งหมดตามหากันจนเจอทุกครั้งไปค่ะ
รัก
พี่ณี
21/11/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
เมื่ออาทิตย์ก่อนสตางค์ในกระเป๋าหายแบบไร้ร่องรอย พี่รู้สึกแปลกใจว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดกับตัวเองมานานมาก พี่พยายามลำดับเหตุการณ์ว่าเราพลั้งเผลอทำสตางค์ตกหล่นที่ไหนอยู่หลายรอบ แต่นึกไม่ออกจริงๆ จนพี่สมบูรณ์บอกว่า “ฟาดเคราะห์ไป” เหมือนทุกครั้งที่ลูกลืมของ ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายบนรถเมล์
ถ้าเพื่อนๆ สังเกตุพักหลังพี่เริ่มเวียนนำสร้อยคอ กำไลข้อมือที่สะสมไว้มาใส่เพราะอยากเติมสีสันให้ชีวิตตัวเอง พี่รู้สึกสนุกกับการ Mix & Match หินสีแต่ละชนิดให้ไปในโทนเดียวกับเสื้อผ้า พอเวียนมาเปิดกล่องดูก็เห็นว่าตัวเองเก็บรักษาไว้ไม่ดี บางเส้นแตก บิ่น เพราะกระทบกัน รู้สึกสงสารและเสียดายว่าตัวเองมีเวลาดูแลพวกเขาน้อยมาก ทิ้งร้างไว้หลายปีจนลืม
เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาตารางนัดหมายของพี่ถูกเลื่อนออกไป พี่บอกน้องๆ ที่ออฟฟิศหลังประชุมจบว่าพี่เจอร้านซ่อมเครื่องประดับที่ช่วยออกแบบ ทำความสะอาด และซ่อมอุปกรณ์แบบครบวงจรได้แล้ว ห้างอยู่ไกลถึงรังสิต วันนี้บ่ายพี่จะรีบไปเพราะรู้ว่าตารางตัวเองจะติดยาวหลังจากนี้
พี่ไปถึงห้างตอนบ่ายสองโมงกว่าๆ กลับออกจากห้างตอน 1 ทุ่ม ฟ้าเริ่มมืด รถติดยาวเหยียด พี่ขนอาหารและขนมที่ซื้อไว้ให้เด็กๆ กินขึ้นรถ และรู้สึกปลื้มใจที่ได้ดูแลสร้อยคอทุกเส้นด้วยตัวเอง พี่โชคดีที่เจอร้านร้อยสร้อยที่ออกแบบสร้อยให้ใหม่ ได้เจอร้านทำความสะอาดเครื่องเงิน ได้นั่งคุยกับเจ้าของร้านที่เป็นคุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดเรื่องสุขภาพและวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนไปหลังเธอคลอดระหว่างเธอและสามีรื้อสร้อยหลายเส้นของพี่มาร้อยใหม่
หนึ่งในบทสนทนาที่ยาวนานของเราคือความมหัศจรรย์หรือเสน่ห์ของหินแต่ละชนิด พี่ถามว่าที่คุณพ่อเรื่องความเชื่อที่มีต่อหินและเครื่องประดับที่ใส่เต็มข้อมือ คุณพ่อบอกว่า “ผมว่าข่วยได้นิดหน่อยครับ ที่ใส่เพราะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่าเราก็ใส่เหมือนกัน” พี่ขอบคุณสองสามีภรรยาที่ช่วยดูแลออกแบบใหม่ได้ถูกใจพี่มาก พี่รีบหอบสร้อยทั้งหมดใส่กระเป๋าหวายใบโตที่วางไว้ในรถเข็นของซุปเปอร์มาร์เก็ต
พี่เอนหลังเหยียดยาวบนรถเพราะเมื่อยกับการเดินขึ้นลงดูแต่ละร้านซ่อมสร้อย พี่คุยกับสาน คนขับรถเรื่องสัพเพเหระเพื่อฆ่าเวลาที่รถติดยาว ก่อนรถเลี้ยวออกถนนใหญ่มีเสียงปริศนาดังขึ้นแทรกบทสนทนาที่กำลังดำเนินอยู่ว่า “อำพันอยู่ไหน” พี่งงไปพักใหญ่เพราะเป็นคำถามแทรกที่พี่ไม่ได้คิด พี่หยุดคุยและนึกในใจว่า “อืมใช่! อำพันอยู่ไหนลองหยิบมาดูดีกว่า”
พี่ใจหายวาบเมื่อคิดได้ว่าอำพันอยู่ในตะกร้าหวายใบใหญ่บนรถเข็น พี่หันไปมองรอบรถเห็นแต่ถุงใส่อาหารและตะกร้าใส่กระเป๋าสตางค์ พี่รีบถามสานว่าหยิบตะกร้าหวายใบใหญ่ขึ้นรถมาด้วยหรือเปล่า สานบอกว่า “ผมหยิบมาแต่ตะกร้าหวายใบเล็กของพี่มาใบเดียวครับ ผมไม่เห็นมีตะกร้าบนรถเข็นนะครับ”
พี่นั่งนิ่งอยู่พักเพื่อลำดับเหตุการณ์ว่าเอาตะกร้าหวายใบใหญ่ไปลืมทิ้งไว้ที่ไหน ตอนนั้นรถเราหลุดจากแถวรถติดมาอยู่บนถนนใหญ่แล้ว ถ้ารถเลยออกไปไกลกว่านี้ โอกาสในการย้อนกลับมาที่เดิมคงยากมาก พี่รีบยืนยันกับสานว่า “เราลืมหยิบตะกร้าใส่เครื่องประดับที่พี่ซ่อมขึ้นรถมาด้วยแน่ๆ”
โชคดีที่รถเราเพิ่งออกถนนใหญ่ได้ไม่ถึง 5 นาที สานหักเลี้ยวรถเข้าโรงพยาบาลเปาโลได้ทัน เป็นชั่ววินาทีเดียวที่พี่บอกสานว่าเราลืมกระเป๋าหวายไว้ที่ลานจอดรถ พี่เหลือบตาเห็นมอเตอร์ไซค์วินจอดหน้าโรงพยาบาล บอกสานว่าจอดรถทิ้งไว้ตรงนี้เดี๋ยวพี่นั่งวินย้อนกลับไปเอาตะกร้าเองเพราะไม่มีถนนให้เราขับรถย้อนกลับไป สานบอกว่าเดี๋ยวผมวิ่งไปเร็วกว่า
ตอนนั้นพี่นึกไม่ออกว่าสานจะวิ่งกลับไปอย่างไร แต่ก็ตอบตกลง โชคดีที่มีที่จอดว่าง 1 คันทั้งลานจอด จอดรถได้สานวิ่งตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถ สานเล่าตอนหลังว่าตอนผมวิ่งกลับไป รถทุกคันหันมามองผมกันหมดเพราะผมกลัวของพี่หาย
พี่รู้สึกเหมือนเวลายาวนานมาก สิ่งเดียวที่ทำได้คือขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย พี่ยกมืออธิษฐานขอพรท่านว่า “ขอให้ลูกเจอของทั้งหมดด้วยค่ะ” เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นดังและเต้นแรงมาก ความหวังริบหรี่เหลือเกิน รถออกจากลานจอดมาเกือบ 20 นาที ได้แต่ภาวนาว่าให้สานหาตะกร้าของทั้งหมดเจอ
ระหว่างนั้นมีสายเรียกเข้าจากคุณแม่ที่โรงเรียน พี่ตัดสินใจรับสายแม้หัวใจตัวเองเต้นรัว อยากเล่าให้ปลายสายฟังเหลือเกินว่าพี่กำลังตกใจกับเรื่องใหญ่มากๆ ในชีวิตอยู่ น่าแปลกที่หัวใจที่เต้นแรงค่อยๆ ลดจังหวะลงเป็นปกติเมื่อคุยเรื่องที่สำคัญมากกว่า เป็นชั่วขณะที่พี่ได้เรียนรู้ที่จะวางใจในสิ่งที่ขอพระไว้และเปลี่ยนโฟกัสมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
เพราะพี่ติดสายเลยไม่ได้รับสายจากสาน พี่เดาน้ำเสียงสานไม่ถูกว่าเจอหรือไม่เจอกระเป๋าหวายตอนโทร. กลับ เพราะสานบอกด้วยเสียงที่ราบเรียบว่าให้พี่คุยกับหัวหน้ารปภ. คุณรปภ. บอกว่า “โชคดีมากครับของอยู่ครบ ผมมาตรวจงานพอดี ผมกำลังบอกลูกน้องให้เอาของไปฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์เพราะผมดูแล้วว่าของแพงทุกชิ้นครับ” พี่ดีใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ยกมือขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเมตตา
พี่ขอชื่อทุกคนและให้สานช่วยถ่ายรูปคุณ รปภ. 3 คนกลับมาด้วยเพื่อเขียนขอบคุณในน้ำใจของทุกคน สานเดินกลับมาที่รถและยื่นกระเป๋าหวายให้พี่พร้อมบอกว่า “ผมไม่เห็นกระเป๋าใบนี้จริงๆ ครับ เหมือนมีอะไรมาบังตา ปกติผมไม่เคยลืมหยิบของจากรถเข็นให้พี่ ผมต้องตรวจดูทุกครั้ง”
สานเล่าเรื่องที่เขาต้องไปต่อรองกับคุณหัวหน้ารปภ. ชื่นชมในความเป็นมืออาชีพตอนถูกขอหลักฐานเพื่อยืนยันสถานะว่าเป็นเจ้าของตัวจริง สานบอกต่อว่า “อะไรที่เป็นของเรา มันก็เป็นของเราจริงๆ นะครับ แต่ถ้ามันหายทั้งตะกร้า ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาทุกอย่างมาคืนพี่ได้อย่างไร ดีนะครับที่พี่ไม่ว่าผมสักคำ”
พี่บอกสานกลับไปว่า “ของบางอย่างเราจะเห็นคุณค่าเมื่อมันหายไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตามาบอกเราว่าให้ดูแลทุกสิ่งที่เราให้คุณค่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พี่คงไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่พี่มี นึกไม่ออกเหมือนกันว่าพี่จะเป็นอย่างไรถ้าของทั้งหมดที่สะสมไว้หายหมด”
กลับถึงบ้านพี่เล่าให้ลูกๆ ฟังอย่างตื่นเต้นที่แม่ได้ของทุกอย่างกลับมาครบ ทุกคนรับฟังอย่างเงียบสงบไม่แสดงอาการตื่นเต้น เหมือนพี่สมบูรณ์ที่ยืนฟังอย่างเงียบๆ ก่อนบอกว่า “ได้คืนกลับมาก็ดีแล้ว ถ้าหายก็ฟาดเคราะห์ไป”
ผ่านมาจนถึงวันนี้พี่ได้เรียนรู้ว่าสร้อยและเครื่องประดับทุกชิ้นที่พี่สะสมไว้คือตัวแทนของสิ่งที่พี่ตามหามานาน มันคือความผูกพัน ความห่วงใย ความเอื้ออาทรต่อคนที่เรารักและคนที่รักเรา นับจากนี้ไปพี่คงไม่ปล่อยปละละเลยและจะยอมทำทุกสิ่ง..เพื่อให้เราทั้งหมดตามหากันจนเจอทุกครั้งไปค่ะ
รัก
พี่ณี
21/11/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150