Inner Journey
คุณคือหมอคนแรกของลูก (ตอนที่ 1)
นั่งคิดทบทวนอยู่นานว่าจะเขียนอะไรในวันแม่ดี เพราะมีเรื่องราวดีๆ อีกหลายเรื่องที่อยากแบ่งปัน ทั้งเรื่องการบริหารความขัดแย้ง เรื่องสังคมสามมิติ รวมถึง Biography กับลำดับที่ของพี่น้องตอนลูกวัยรุ่น เชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ รวมถึงคุณแม่ทุกคน
พี่ตัดสินใจกลับมาเขียนเรื่อง “คุณคือหมอคนแรกของลูก” ตอนธาตุทั้ง 4 และ 4 Temperament เพราะอยากมอบเป็นของขวัญให้ทุกคนในช่วงวันพิเศษนี้
พี่เคยถามตัวเองว่าการเป็นแม่ของลูกกับการเป็นหมอของลูกต่างกันอย่างไร พี่ค้นพบคำตอบตอนแก่ตัวมากขึ้นว่าแม่คือทุกสิ่งในชีวิตลูก แม่เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเพื่อเตรียมลูกให้เป็นคนดีในอนาคต แต่แม่จะพัฒนาขีดความสามารถให้เลยเขตแดนแห่งความสบายใจของตัวเอง (Comfort Zone) เมื่อเรากลายเป็นหมอของลูก
พี่ตัดสินใจกลับมาเขียนเรื่อง “คุณคือหมอคนแรกของลูก” ตอนธาตุทั้ง 4 และ 4 Temperament เพราะอยากมอบเป็นของขวัญให้ทุกคนในช่วงวันพิเศษนี้
พี่เคยถามตัวเองว่าการเป็นแม่ของลูกกับการเป็นหมอของลูกต่างกันอย่างไร พี่ค้นพบคำตอบตอนแก่ตัวมากขึ้นว่าแม่คือทุกสิ่งในชีวิตลูก แม่เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเพื่อเตรียมลูกให้เป็นคนดีในอนาคต แต่แม่จะพัฒนาขีดความสามารถให้เลยเขตแดนแห่งความสบายใจของตัวเอง (Comfort Zone) เมื่อเรากลายเป็นหมอของลูก
พี่รู้ว่าแม่ทุกคนรู้สึกทรมานใจมากเมื่อเห็นลูกป่วย เราอาจรู้สึกโล่งใจและสบายใจเมื่อลูกอยู่ในมือคุณหมอ แต่เมื่อต้องลงมือรักษาลูกตัวเอง เราได้กลายเป็นผู้ลิขิตชีวิตลูก เราต้องเสียสละเวลาที่น้อยนิดของตัวเอง มาศึกษา ฝึกฝน ค้นคว้า ติดตามอาการของลูกด้วยความมีสติ รอบคอบและระมัดระวัง พี่เชื่อว่าคุณแม่หลายคนนอนหลับไม่เต็มตาเมื่อตัดสินใจเป็นหมอคนแรกของลูก
ตอนพี่ตัดสินใจไปเรียนหมอต่อเพราะพี่เองก็เกิดคำถามในใจว่าถ้าลูกเป็นอะไรไป เราจะรับผิดชอบอย่างไร ความรู้ที่เรามีอยู่เพียงพอแล้วหรือไม่ เราต้องพัฒนาตัวเองไปถึงขั้นไหนที่เราจะผันตัวเป็นหมอของลูกเองได้ |
พี่รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่ต้องแลกและท้าทายศักยภาพของตัวเองแบบสุดๆ ถ้าพี่ไม่เคยรู้เรื่องพัฒนาการของลูก ของขวัญของการป่วยไข้ ความมั่นคงทางใจที่ลูกจะได้รับผ่านการเติบโตภายในของแม่ พี่คงไม่เลือกทางเดินที่ยากเย็นแสนเข็ญนี้
ตลอด 15 ปีตั้งแต่คลอดน้องโอม เราสองคนไม่เคยพาลูกไปหาหมออีกเลยเพราะลูกป่วยตามพัฒนาการของช่วงวัย สิ่งที่พี่ค้นพบจากการเป็นหมอของลูก 3 คนคือการหาหลักการให้เจอ เมื่อเรารู้ว่าหลักการคืออะไร เราจะสามารถประยุกต์ใช้วิธีรักษาให้เหมาะกับอาการได้ ความเจ็บป่วยของลูกส่วนใหญ่มาจากพัฒนาการตามช่วงวัยและจุดอ่อนสุขภาพตามธาตุเจ้าเรือนเกิด |
เราต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนค่ะว่า ถ้าไม่แน่ใจขอให้พาลูกไปพบแพทย์ก่อนเสมอ จากนั้นให้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนถ้าเรายืนยันจะเดินหน้ารักษาลูกด้วยตัวเองต่อ หลักการแรกที่ช่วยให้พวกเรากลายเป็นหมอของลูกคือ การที่รู้ว่าลูกเกิดธาตุอะไร มีจุดอ่อนสุขภาพตรงไหนและลูกจะเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร ในฤดูไหน ช่วงเวลาใด ตอนอายุเท่าไหร่ และอาหารประจำธาตุเจ้าเรือนคืออะไร
ด้วยความที่หลักการและองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยเป็นเรื่องใหม่สำหรับทุกคน พี่ยังขำตัวเองว่าตอนพูดเรื่องนี้เมื่อวันพุธที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา คุณพ่อคุณแม่ยกมือกันจ้าละหวั่น ทุกคน feedback พี่ทันทีว่า “พี่ณีคะ วันนี้พี่พูดเรื่องอะไรคะ พวกเราฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”
ด้วยความที่หลักการและองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยเป็นเรื่องใหม่สำหรับทุกคน พี่ยังขำตัวเองว่าตอนพูดเรื่องนี้เมื่อวันพุธที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา คุณพ่อคุณแม่ยกมือกันจ้าละหวั่น ทุกคน feedback พี่ทันทีว่า “พี่ณีคะ วันนี้พี่พูดเรื่องอะไรคะ พวกเราฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”
พี่ต้องขอโทษทุกคนและเริ่มอธิบายใหม่ว่าหลักการของการคำนวณธาตุเจ้าเรือนแบบง่ายๆ ก่อนเช่นลูกคลอดเดือนนี้ ลูกเป็นคนธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จากนั้นให้ดูรสยาที่ใช้แก้อาการโรค รวมถึงการทำอาหารให้เหมาะกับธาตุเจ้าเรือนตัวเองและการหาสมุนไพรประจำธาตุติดบ้านไว้ (ดูได้จากภาพประกอบนะคะ)
คราวนี้คำถามตามมาอีกว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโรคไหนเกิดจากจุดอ่อนสุขภาพ โรคไหนเกิดจากพัฒนาการตามช่วงวัย เพราะพี่พูดว่าช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิตลูกเช่นช่วงนั่ง คลาน ยืน เดิน ลูกจะป่วยอีก
ความแตกต่างของการป่วยตามพัฒนาการและจุดอ่อนสุขภาพคือ ถ้าลูกป่วยตามพัฒนาการตามช่วงวัยซึ่งถือเป็นปัจจัยภายในเช่นพลิกตัว ฟันขึ้น นั่ง คลาน ยืน เดิน ลูกจะมีไข้ ท้องเสีย
แต่ถ้าลูกป่วยตามจุดอ่อนสุขภาพ อาการไข้หรือโรคจะเปลี่ยนไปตามปัจจัยแวดล้อมภายนอก เช่นฤดูกาลหน้าร้อนลูกที่เกิดธาตุไฟจะป่วยเป็นไข้ตัวร้อน ถ้าช่วงเวลาสิบโมงเช้าถึงบ่ายสองและช่วงสี่ทุ่มถึงตีสองลูกจะเป็นไข้ ลูกธาตุลมจะป่วยตอนหน้าฝนเป็นต้น
เล่าแค่นี้คุณแม่หลายคนคงเริ่มปวดหัว ว่านี่คือของขวัญจริงหรือไม่ ติดตามคำตอบตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้ค่ะ
สุขสันต์วันแม่ค่ะ
พี่ณี
12/8/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
คราวนี้คำถามตามมาอีกว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโรคไหนเกิดจากจุดอ่อนสุขภาพ โรคไหนเกิดจากพัฒนาการตามช่วงวัย เพราะพี่พูดว่าช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิตลูกเช่นช่วงนั่ง คลาน ยืน เดิน ลูกจะป่วยอีก
ความแตกต่างของการป่วยตามพัฒนาการและจุดอ่อนสุขภาพคือ ถ้าลูกป่วยตามพัฒนาการตามช่วงวัยซึ่งถือเป็นปัจจัยภายในเช่นพลิกตัว ฟันขึ้น นั่ง คลาน ยืน เดิน ลูกจะมีไข้ ท้องเสีย
แต่ถ้าลูกป่วยตามจุดอ่อนสุขภาพ อาการไข้หรือโรคจะเปลี่ยนไปตามปัจจัยแวดล้อมภายนอก เช่นฤดูกาลหน้าร้อนลูกที่เกิดธาตุไฟจะป่วยเป็นไข้ตัวร้อน ถ้าช่วงเวลาสิบโมงเช้าถึงบ่ายสองและช่วงสี่ทุ่มถึงตีสองลูกจะเป็นไข้ ลูกธาตุลมจะป่วยตอนหน้าฝนเป็นต้น
เล่าแค่นี้คุณแม่หลายคนคงเริ่มปวดหัว ว่านี่คือของขวัญจริงหรือไม่ ติดตามคำตอบตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้ค่ะ
สุขสันต์วันแม่ค่ะ
พี่ณี
12/8/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150