Inner Journey
เจตจำนงแห่งชัย ...ลูกชายของอนาคต
การถือกำเนิดของคนหนึ่งคนบนโลกเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่พ่อแม่รอคอย ยิ่งเป็นลูกที่แม่ตั้งจิตอธิษฐานขอพระว่าแม่พร้อมแล้วที่จะเป็นแม่ของผู้ชายดีๆ บนโลก ณ วินาทีที่ลูกลืมตาดูโลกคือวินาทีที่คำมั่นที่แม่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้กลายเป็นพันธกิจในชีวิตแม่
แม่รู้ตั้งแต่วินาทีที่ตั้งท้องว่าลูกคือผู้ชายของอนาคต ลูกไม่ใช่ลูกของแม่เพียงคนเดียว ลูกมีพันธกิจหลายอย่างที่ต้องสร้างโลกใหม่ให้ดีกว่าเดิมตั้งแต่ลูกยังไม่ลงมาเกิด ระหว่างท้องแม่สวดมนต์ทุกวันเพื่อขอความเข้มแข็งและกล้าหาญให้สถิตย์ในหัวใจลูก
หลายคนบอกว่าเด็กๆ ที่ขอพระมาจะเลี้ยงยาก ห้ามตี แม่กลับมองตรงกันข้าม ยิ่งเราขอพระมาเราต้องเตรียมตัวลูกให้รู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าลูกมีหน้าที่บางอย่างบนโลก มีทักษะทางโลกหลายอย่างที่ลูกต้องเรียนรู้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อลูกคือคนของอนาคต ลูกจะถูกเตรียมตัวด้วยวิถีที่แตกต่างเพื่อให้พร้อมรับมือกับความผันผวนและคาดเดาไม่ไดด้วยหัวใจ สมองและสองมือของตัวเอง ลูกต้องฝึกฝนทักษะนี้ด้วยความมีสติ อุทิศตนและเชื่อมต่อกับตัวตนขั้นสูงในอนาคต
ช่วงลูกยังเล็ก แม่เตรียมลูกให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์วัยเด็กให้มากที่สุด ลูกได้ป่วยเต็มที่ ลูกเป็นคนเดียวในบ้านที่ได้นั่ง คลาน ยืน เดิน จนครบ ลูกได้เล่นน้ำฝนและได้เล่นซนอย่างเต็มที่ ลูกเติบโตตามพัฒนาการครบทุกช่วงวัยตามแนวการศึกษาวอลดอร์ฟ ตอนลูกอายุ 15 พวกเราทั้งบ้านต่างกุมขมับกับความเปลี่ยนแปลงจากหนุ่มน้อยของบ้านเป็นวัยรุ่นเสียงห้าว ลูกกลายเป็นกบฏร้ายที่เราหวั่นใจ
ลูกได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า “เจตชัย แปลว่าผู้มีเจตจำนงแห่งชัย” ชื่ออันเป็นมงคลยิ่งนี้ได้ฉายแสงผ่านการกระทำของลูกตั้งแต่ยังเล็ก ตอนลูกเป็นซางที่แขนซ้าย แม่ได้เห็นความอดทนอย่างถึงที่สุดที่จะให้แม่ทำความสะอาดแผลสดที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำเหลืองด้วยกระเทียมและชาใบเหงือกปลาหมอทุกวัน โดยเฉพาะตอนดึงผ้าก็อตที่ติดแผลแห้งกรัง น้ำตาอุ่นๆ ของลูกหยดลงบนอ้อมแขนของแม่ทุกวัน
แม่รู้ว่ามันยากเพียงใดที่ลูกต้องลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองเพื่อมีที่ทางของตัวเองในบ้านหลังใหญ่ในฐานะน้องชายคนเล็ก แม่เห็นความกล้าหาญที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากเด็กน้อยที่วิ่งร้องไห้มาหาแม่เมื่อโดนเจ้ 2 คนแกล้งเป็นเด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นมาพูดเสียงดังฟังชัดว่า “ขอให้แม่กับเจ้ 2 หยุดพูดเรื่องของโอมลับหลังได้แล้ว โอมไม่ชอบ มีอะไรมาพูดกันต่อหน้าเลย” ที่จริงเราเพียงบ่น ปรับทุกข์กันเมื่อน้องเปลี่ยนไป แต่แม่รู้สึกดีที่ลูกเปิดพื้นที่ให้หญิงสาว 3 คนในบ้านได้เรียนรู้และปรับตัวที่จะอยู่ด้วยกันตามวันเวลาที่โอมเติบโตขึ้น
แล้วการเตรียมตัวแบบผู้ชายของโลกก็มาถึง แม่ตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบต่อโลกและภาวะผู้นำในตัวลูกตอนลูกอายุ 15 ลูกหงุดหงิดและรู้สึกว่าลูกยังเด็ก ลูกอยากเป็นวัยรุ่นธรรมดาที่มีชีวิตที่สนุกสนาน แม่คาดหวังมากเกินไป แม่ยืนยันชัดเจนว่าวันนี้ลูกโตพอที่จะคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ลูกบอกลูกเบื่อที่จะพูดเรื่องความเป็นผู้ใหญ่ ความเป็นผู้นำ ที่ลูกคิดว่าตัวเองไม่ใช่
เราแทบจะเถียงกันมากกว่าคุยกัน ลูกหงุดหงิดเมื่อแม่บอกลูกว่า “ลูกมีความพิเศษในตัวที่จะนำพาคนไปในทางดีหรือทางร้ายก็ได้ แต่หน้าที่ของลูกบนโลกคือนำพาผู้คนไปในทางที่ดี แม่คือผู้หญิงคนเดียวบนโลกใบนี้ที่จะพูดเรื่องที่ลูกไม่อยากได้ยิน แม่ไม่เคยเชื่อว่าผู้นำที่ดีเกิดเองตามธรรมชาติ แต่มันคือการฝึกฝนและเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังร้ายในตัวเองให้อยู่ในที่ทางที่ถูกต้อง นี่คือความหวังของโลกในอนาคต ลูกจะได้ใช้ทักษะเหล่านี้ในวันข้างหน้า เมื่อวันนั้นมาถึงอาจเป็นวันที่แม่ไม่ได้อยู่กับลูกแล้ว”
แน่นอนที่เส้นทางของเรา 2 แม่ลูกไม่ได้ราบรื่นเหมือนที่แม่ตั้งใจไว้ หลายครั้งที่แม่สติหลุดไถลออกนอกเส้นทาง แม่จะได้รับคำเตือนจากลูกว่า “โอมเข้าใจสิ่งที่คนเคยพูดว่า เวลาคนหิวและเหนื่อยเราจะหงุดหงิดและหัวร้อน ตอนนี้แม่คงกำลังหิวหรือเหนื่อยอยู่แน่เลย ไปพักก่อนดีกว่าแม่ เพราะเดี๋ยวแม่จะเสียงดังแล้วเราก็จะทะเลาะกันอีก”
แม่เริ่มเห็นความกล้าหาญในตัวลูกมากขึ้น ลูกตั้งคำถามที่ยากมากขึ้นว่า “การทะเลาะ การเอาชนะ การฉีกหน้าคือหนทางเดียวที่เราจะอยู่ร่วมกันในวันนี้จริงหรือเปล่า เราไม่มีทางอื่นที่กว่านี้อีกหรือ ถ้าเราเลือกได้ ทำไมเราไม่ทำสิ่งที่แตกต่างกว่าเดิม”
ลูกถามแม่เรื่องความหมายที่แท้จริงของการจัดงานสัมมนาวอลดอร์ฟ 100 ปี ลูกบอกว่าเสียดายที่อนาคตหลานของแม่คงไม่มีโอกาสได้ร่วมงานนี้เพราะถ้ามีงานวอลดอร์ฟ 200 ปี พวกเราทุกคนคงไม่อยู่แล้ว แม่บอกว่าลูกว่า “เล่าให้หลานของแม่ฟังสิคะว่าพ่อเคยร่วมงานนี้และพ่อรู้สึกว่ามันสำคัญเพียงใด”
แม่ถามลูกว่าลูกชอบอะไรในงานสัมมนาเยาวชน 100 ปีวอลดอร์ฟ ลูกบอกว่าลูกชอบความไม่ perfect ที่ทำให้เราได้ฝึกฝนการเข้าสังคม ลูกมองว่าความไม่สมบูรณ์แบบทำให้เราได้ฝึกฝนหลายเรื่อง วันจบสัมมนาแม่เห็นลูกเดินกอดกับเพื่อนใหม่หลายคน ตอนกลับลูกเดินตามหาเพื่อนชาวฟิลิปปินส์อยู่นานมาก เธอเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่ลูกบอกแม่ว่าเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยังไม่ได้บอกลา
คำถามของลูกทำให้แม่ต้องกลับไปค้นคว้าหาคำตอบว่าทำไมคุณตา Rudolf Stiener จึงเลือกปี 1919 เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาวอลดอร์ฟ เพราะปีนั้นเป็นปีที่โลกเต็มไปด้วยความแตกแยก ความบาดหมาง ความไม่ลงรอยกัน โรงเรียนวอลดอร์ฟแห่งแรกจึงถือกำเนิดขึ้นในโรงงานยาสูบชื่อ Waldorf เพื่อเตรียมหนุ่มสาวของอนาคตให้มีความกล้าหาญและดำรงชีวิตอย่างมีความหวัง พวกเขาคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่นำความเบิกบานและความสร้างสรรค์มาสู่โลก
เมื่อวานเป็นวันที่ลูกอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ และเป็นวันที่แม่เข้าใจพันธกิจของตัวเองอย่างถ่องแท้ว่าการเตรียมความพร้อมผู้ชายคนหนึ่งให้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ในฐานะพลเมืองของโลกสำคัญเพียงใด แม้แม่จะไม่ใช่ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ แต่แม่เชื่อเสมอว่าทุกครั้งที่เราทำผิดพลาดเราจะหาหนทางที่จะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม
แม่ดีใจที่ได้เห็นลูกออกเดินทางไกลและเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าลูกจะอยู่บนหนทางและอยู่ในความคุ้มครองของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ลูกสนุกกับการผจญภัยและค้นพบความหมายที่แท้จริงของการเกิดเป็นมนุษย์ด้วยเจตจำนงแห่งชัย...เจตจำนงที่หลอมรวมความแตกแยกให้กลับกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอมา
รักลูกที่สุด
แม่
23/10/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
แม่รู้ตั้งแต่วินาทีที่ตั้งท้องว่าลูกคือผู้ชายของอนาคต ลูกไม่ใช่ลูกของแม่เพียงคนเดียว ลูกมีพันธกิจหลายอย่างที่ต้องสร้างโลกใหม่ให้ดีกว่าเดิมตั้งแต่ลูกยังไม่ลงมาเกิด ระหว่างท้องแม่สวดมนต์ทุกวันเพื่อขอความเข้มแข็งและกล้าหาญให้สถิตย์ในหัวใจลูก
หลายคนบอกว่าเด็กๆ ที่ขอพระมาจะเลี้ยงยาก ห้ามตี แม่กลับมองตรงกันข้าม ยิ่งเราขอพระมาเราต้องเตรียมตัวลูกให้รู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าลูกมีหน้าที่บางอย่างบนโลก มีทักษะทางโลกหลายอย่างที่ลูกต้องเรียนรู้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อลูกคือคนของอนาคต ลูกจะถูกเตรียมตัวด้วยวิถีที่แตกต่างเพื่อให้พร้อมรับมือกับความผันผวนและคาดเดาไม่ไดด้วยหัวใจ สมองและสองมือของตัวเอง ลูกต้องฝึกฝนทักษะนี้ด้วยความมีสติ อุทิศตนและเชื่อมต่อกับตัวตนขั้นสูงในอนาคต
ช่วงลูกยังเล็ก แม่เตรียมลูกให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์วัยเด็กให้มากที่สุด ลูกได้ป่วยเต็มที่ ลูกเป็นคนเดียวในบ้านที่ได้นั่ง คลาน ยืน เดิน จนครบ ลูกได้เล่นน้ำฝนและได้เล่นซนอย่างเต็มที่ ลูกเติบโตตามพัฒนาการครบทุกช่วงวัยตามแนวการศึกษาวอลดอร์ฟ ตอนลูกอายุ 15 พวกเราทั้งบ้านต่างกุมขมับกับความเปลี่ยนแปลงจากหนุ่มน้อยของบ้านเป็นวัยรุ่นเสียงห้าว ลูกกลายเป็นกบฏร้ายที่เราหวั่นใจ
ลูกได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า “เจตชัย แปลว่าผู้มีเจตจำนงแห่งชัย” ชื่ออันเป็นมงคลยิ่งนี้ได้ฉายแสงผ่านการกระทำของลูกตั้งแต่ยังเล็ก ตอนลูกเป็นซางที่แขนซ้าย แม่ได้เห็นความอดทนอย่างถึงที่สุดที่จะให้แม่ทำความสะอาดแผลสดที่เต็มไปด้วยเลือดและน้ำเหลืองด้วยกระเทียมและชาใบเหงือกปลาหมอทุกวัน โดยเฉพาะตอนดึงผ้าก็อตที่ติดแผลแห้งกรัง น้ำตาอุ่นๆ ของลูกหยดลงบนอ้อมแขนของแม่ทุกวัน
แม่รู้ว่ามันยากเพียงใดที่ลูกต้องลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองเพื่อมีที่ทางของตัวเองในบ้านหลังใหญ่ในฐานะน้องชายคนเล็ก แม่เห็นความกล้าหาญที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากเด็กน้อยที่วิ่งร้องไห้มาหาแม่เมื่อโดนเจ้ 2 คนแกล้งเป็นเด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นมาพูดเสียงดังฟังชัดว่า “ขอให้แม่กับเจ้ 2 หยุดพูดเรื่องของโอมลับหลังได้แล้ว โอมไม่ชอบ มีอะไรมาพูดกันต่อหน้าเลย” ที่จริงเราเพียงบ่น ปรับทุกข์กันเมื่อน้องเปลี่ยนไป แต่แม่รู้สึกดีที่ลูกเปิดพื้นที่ให้หญิงสาว 3 คนในบ้านได้เรียนรู้และปรับตัวที่จะอยู่ด้วยกันตามวันเวลาที่โอมเติบโตขึ้น
แล้วการเตรียมตัวแบบผู้ชายของโลกก็มาถึง แม่ตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบต่อโลกและภาวะผู้นำในตัวลูกตอนลูกอายุ 15 ลูกหงุดหงิดและรู้สึกว่าลูกยังเด็ก ลูกอยากเป็นวัยรุ่นธรรมดาที่มีชีวิตที่สนุกสนาน แม่คาดหวังมากเกินไป แม่ยืนยันชัดเจนว่าวันนี้ลูกโตพอที่จะคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ลูกบอกลูกเบื่อที่จะพูดเรื่องความเป็นผู้ใหญ่ ความเป็นผู้นำ ที่ลูกคิดว่าตัวเองไม่ใช่
เราแทบจะเถียงกันมากกว่าคุยกัน ลูกหงุดหงิดเมื่อแม่บอกลูกว่า “ลูกมีความพิเศษในตัวที่จะนำพาคนไปในทางดีหรือทางร้ายก็ได้ แต่หน้าที่ของลูกบนโลกคือนำพาผู้คนไปในทางที่ดี แม่คือผู้หญิงคนเดียวบนโลกใบนี้ที่จะพูดเรื่องที่ลูกไม่อยากได้ยิน แม่ไม่เคยเชื่อว่าผู้นำที่ดีเกิดเองตามธรรมชาติ แต่มันคือการฝึกฝนและเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังร้ายในตัวเองให้อยู่ในที่ทางที่ถูกต้อง นี่คือความหวังของโลกในอนาคต ลูกจะได้ใช้ทักษะเหล่านี้ในวันข้างหน้า เมื่อวันนั้นมาถึงอาจเป็นวันที่แม่ไม่ได้อยู่กับลูกแล้ว”
แน่นอนที่เส้นทางของเรา 2 แม่ลูกไม่ได้ราบรื่นเหมือนที่แม่ตั้งใจไว้ หลายครั้งที่แม่สติหลุดไถลออกนอกเส้นทาง แม่จะได้รับคำเตือนจากลูกว่า “โอมเข้าใจสิ่งที่คนเคยพูดว่า เวลาคนหิวและเหนื่อยเราจะหงุดหงิดและหัวร้อน ตอนนี้แม่คงกำลังหิวหรือเหนื่อยอยู่แน่เลย ไปพักก่อนดีกว่าแม่ เพราะเดี๋ยวแม่จะเสียงดังแล้วเราก็จะทะเลาะกันอีก”
แม่เริ่มเห็นความกล้าหาญในตัวลูกมากขึ้น ลูกตั้งคำถามที่ยากมากขึ้นว่า “การทะเลาะ การเอาชนะ การฉีกหน้าคือหนทางเดียวที่เราจะอยู่ร่วมกันในวันนี้จริงหรือเปล่า เราไม่มีทางอื่นที่กว่านี้อีกหรือ ถ้าเราเลือกได้ ทำไมเราไม่ทำสิ่งที่แตกต่างกว่าเดิม”
ลูกถามแม่เรื่องความหมายที่แท้จริงของการจัดงานสัมมนาวอลดอร์ฟ 100 ปี ลูกบอกว่าเสียดายที่อนาคตหลานของแม่คงไม่มีโอกาสได้ร่วมงานนี้เพราะถ้ามีงานวอลดอร์ฟ 200 ปี พวกเราทุกคนคงไม่อยู่แล้ว แม่บอกว่าลูกว่า “เล่าให้หลานของแม่ฟังสิคะว่าพ่อเคยร่วมงานนี้และพ่อรู้สึกว่ามันสำคัญเพียงใด”
แม่ถามลูกว่าลูกชอบอะไรในงานสัมมนาเยาวชน 100 ปีวอลดอร์ฟ ลูกบอกว่าลูกชอบความไม่ perfect ที่ทำให้เราได้ฝึกฝนการเข้าสังคม ลูกมองว่าความไม่สมบูรณ์แบบทำให้เราได้ฝึกฝนหลายเรื่อง วันจบสัมมนาแม่เห็นลูกเดินกอดกับเพื่อนใหม่หลายคน ตอนกลับลูกเดินตามหาเพื่อนชาวฟิลิปปินส์อยู่นานมาก เธอเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่ลูกบอกแม่ว่าเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยังไม่ได้บอกลา
คำถามของลูกทำให้แม่ต้องกลับไปค้นคว้าหาคำตอบว่าทำไมคุณตา Rudolf Stiener จึงเลือกปี 1919 เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาวอลดอร์ฟ เพราะปีนั้นเป็นปีที่โลกเต็มไปด้วยความแตกแยก ความบาดหมาง ความไม่ลงรอยกัน โรงเรียนวอลดอร์ฟแห่งแรกจึงถือกำเนิดขึ้นในโรงงานยาสูบชื่อ Waldorf เพื่อเตรียมหนุ่มสาวของอนาคตให้มีความกล้าหาญและดำรงชีวิตอย่างมีความหวัง พวกเขาคือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่นำความเบิกบานและความสร้างสรรค์มาสู่โลก
เมื่อวานเป็นวันที่ลูกอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ และเป็นวันที่แม่เข้าใจพันธกิจของตัวเองอย่างถ่องแท้ว่าการเตรียมความพร้อมผู้ชายคนหนึ่งให้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ในฐานะพลเมืองของโลกสำคัญเพียงใด แม้แม่จะไม่ใช่ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ แต่แม่เชื่อเสมอว่าทุกครั้งที่เราทำผิดพลาดเราจะหาหนทางที่จะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม
แม่ดีใจที่ได้เห็นลูกออกเดินทางไกลและเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าลูกจะอยู่บนหนทางและอยู่ในความคุ้มครองของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ลูกสนุกกับการผจญภัยและค้นพบความหมายที่แท้จริงของการเกิดเป็นมนุษย์ด้วยเจตจำนงแห่งชัย...เจตจำนงที่หลอมรวมความแตกแยกให้กลับกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอมา
รักลูกที่สุด
แม่
23/10/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150