Inner Journey
ไม่มีช่วงเวลาใดพิเศษเท่า..ยามป่วย (ตอนจบ)
เช้าตื่นมาอาการทรุดลงกว่าที่คิด พี่ต้องโทรศัพท์แจ้งยกเลิกเพื่อนๆ สหจะโยคะที่จะไปนั่งสมาธิประจำปีที่หัวหิน พี่บอกพี่สมบูรณ์ให้ซื้อยาขมน้ำเต้าทองและให้รีบไปรับยาจากคลินิกคุณหมอซ้งให้พี่ด้วย พี่สมบูรณ์แวะไปซื้อยาขมน้ำเต้าทองมาให้ก่อน พี่รีบคว้ายาขมใส่ปากกินหวังว่าจะดีขึ้น เพราะรู้ว่าพี่สมบูรณ์ต้องไปหาหมอฟันก่อนไปรับยาให้พี่
ช่วงเวลาครึ่งเช้าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากเพราะยังปวดหัวไม่หาย พี่กลับมาแช่เท้าด้วยน้ำมะนาว ใส่ถุงเท้าหนา ปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง ประตูทุกบาน ห่อตัวด้วยผ้านวมหนาผืนใหญ่เหมือนเด็กแรกคลอดตามที่หมวยเคยห่อตัวให้พี่ช่วงพี่ขับพิษ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กลุ่มห่านใจดีได้ไปสาธิตให้กลุ่มพ่อแม่ที่ไตรพัฒน์ พี่ได้ซื้อผ้าลินินออร์แกนิคและผ้าสักหลาดมาประคบตับตัวเองตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา
ตอนห่อผ้าแบบแรกคลอด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีขึ้นหน้าร้อนผ่าว ปวดหัวน้อยลง อาการปวดหลังเริ่มน้อยลงตอนแช่เท้าด้วยมะนาวเหมือนภูเขาน้ำแข็งละลายในหัว คล้ายๆ กับกระแสน้ำอุ่นกับกระแสน้ำเย็นมาเจอกัน มีการเคลื่อนไหวสลับไปมาระหว่างหัวกับเท้า ยิ่งช่วงกดมะนาวไว้ตรงฝ่าเท้าเหมือนมีแรงดูดจากหัวลงมาที่เท้า รู้สึกหัวเบาขึ้นเยอะ พี่เช็ดเท้าใส่ถุงเท้าหนาๆ นอนห่อตัวต่อ คราวนี้หลับยาวจนพี่สมบูรณ์กลับมา
ใบสั่งยาบอกให้ทานเหล็กทุกชั่วโมงครั้งละ 4 เม็ดในวันแรก พี่กินไม่ครบทุกชั่วโมงเพราะกินไปครั้งแรกตอนบ่าย 2 โมงตื่นขึ้นมาตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง ยาเริ่มออกฤทธิ์หลังทานคู่กับยาโฮมีโอพาธี พี่ตื่นมาพร้อมเหงื่อที่แตกพลั่กเหมือนอาบน้ำใหม่ๆ พี่ลุกขึ้นไปล้างหน้ากินยาต่ออีก 4 เม็ด กินยาขมน้ำเต้าทองต่ออีก 4 เม็ดหลับต่อจนถึง 5 โมงครึ่ง คราวนี้เหงื่อออกหนักกว่าเดิม
ช่วงป่วยพี่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเป็น Flight mode จะเปิดเมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะช่วงนี้พี่ต้องเตรียมจัดงาน Oasis ตั้งแต่ 14-20 ตุลาคม รู้เลยค่ะว่าคลื่นสัญญาณมือถือรบกวนพลังชีวิตมาก แต่บางครั้งต้องเปิดไว้ตอนทุกคนไปทานข้าวนอกบ้าน เพราะลูกๆ จะไลน์กลับมาถามว่าแม่อยากกินอะไร
ตอนปัญญ์ถามแม่ว่าเย็นนี้จะกินอะไร ตอนนั้นพี่ไม่มีความรู้สึกหิวอยากกินแต่ผลไม้ บอกให้ลูกซื้อผลไม้ทุกอย่างที่เป็นออร์แกนิคกลับมา ลูกซื้อได้แต่กล้วยหอมและส้มปลอดสารพิษ พี่กินยาต่ออีก 4 เม็ดก่อนลงไปกินส้มได้ 3 ลูก เหมือนจะดีขึ้นเพราะเหงื่อออกเยอะมาก กลับขึ้นมาอ่านฉลากยาใหม่ว่าต้องพยายามกินยาให้ได้ทุก 1 ชั่วโมงในวันแรก วันต่อไปจะเหลือเพียง 4 มื้อ พี่กลับมากินยาต่ออีก 1 ชุดก่อนนอน
ก่อนนอนถามพี่สมบูรณ์ว่าเปิดแอร์กี่องศา พี่สมบูรณ์บอกว่าเปิดไว้ 25 องศา ปกติอุณหภูมิเท่านี้เป็นเรื่องปกติห่มผ้านวมบางๆ ก็หลับได้ พี่มาสำรวจตัวเองว่าทำไมคืนนี้หนาวจัง นึกได้ว่ายังไม่ได้พันผ้า 3 ชั้นประคบตับ ไต ม้าม และยังไม่ได้ทาครีมที่หัวใจ
ตอนเรียนเรื่องหัวใจกับคุณหมอ Daphne พี่ได้รู้ว่าหัวใจจะบีบตัวเร็วขึ้นถึง 100 ครั้งต่อนาทีถ้าอุณหภูมิเราสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ทำให้บางคนเกิดอาการหัวใจล้มเหลวได้พี่เริ่มสำรวจหัวใจตัวเองว่าเต้นประมาณไหนเพราะรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วและเต้นถี่มากขึ้นตอนหนาวมากๆ หลังทาครีมที่หัวใจจังหวะการเต้นค่อยสงบลง
หลับไปถึงกี่โมงไม่รู้ ตื่นมาพี่หนาวสั่นแบบฟันกระทบกึกกัก พี่พยายามพยุงตัวเองลุกจากเตียง เดินผ่าความมืดไปคลำหาผ้าพันคอผืนหนากับถุงมือหนังที่ทำจากหนังจามรีมาใส่ ดูเหมือนถุงมือจะช่วยได้เพราะซื้อตอนไปขึ้นเขาสูงที่จีน กลับมานอนพันตัวในผ้าห่ม ห่อตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนเด็กแรกคลอดอีกครั้ง
คราวนี้เริ่มจับจังหวะได้ว่าอาการจะเริ่มจากปวดหัวตรงกลางและขมับด้านซ้าย ปวดกระบอกตา ปวดหลัง หนาวสั่น เหงื่อออก เมื่อการดำเนินของโรคมาถึงจุดสิ้นสุดคือเหงื่ออก อาการทุกอย่างที่ว่ามาก็หายไป คราวนี้พี่เตรียมทุกอย่างไว้ข้างตัวทั้งสำลี น้ำยาสุมตา นมสาว ผ้านวมหนา คิดว่าเอาไงเอากันถ้าไม่หลับก็ไปหลับต่อพรุ่งนี้เช้า
คืนนั้นพี่ฝันประหลาดเหมือนมีคนเอาหนังสือเล่มสีฟ้าสวยมีรูปดวงดาวสีขาวพร่างพรายและมีหน้าปกเป็นองค์เทพที่เราเห็นในเทพปกรณัม ในฝันพี่คลานเอาหนังสือเข้าไปเก็บที่ห้องนอน ได้ยินเสียงม่าม้ามาบอกว่ามีคนฝากมาให้ นึกในใจว่าป่วยอยู่ไม่มีเวลาอ่านเลยค่ะ ที่แปลกคือม่าม้าอยู่คนละบ้านกับเราแต่ทำไมม่าม้ามาหาที่บ้านตอนเราป่วย
ในฝันมีหนังสือแบบเดียวกันหลาย 2-3 เล่มบนตู้ข้างเตียงนอน แต่เล่มที่มีคนฝากมาเล่มใหญ่และหนากว่าใครทั้งหมด น่าจะประมาณ 500 หน้า ปกหนังสือก็แปลกประหลาดมากเคลื่อนไปมาได้เหมือนกับหีบเพลงแอคคอเดียนที่ต้องใช้เวลาตั้งให้ตรงได้อยู่นานมาก นึกในใจว่าท่านคะหนูอยากไปนอนต่อแล้วขยับปกหนังสือไม่ไหว ขำดีในฝันยังรู้สึกว่าตัวเองป่วยไม่มีแรงจะทำอะไร
เช้ามาพี่ยังหนาวไม่หาย คราวนี้หนาวยะเยือกไปในอก เมื่อคืนไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาวเช้านี้สว่างแล้วใส่เสื้อแขนยาวคอเต่า พันคอด้วยผ้าพันคอผืนใหญ่ ใส่ถุงมือหลับห่อตัว หลับต่อไปจนถึงเที่ยงไม่ได้กินข้าวเช้า ตื่นมารีบคว้ายาเข้าปาก หยิบยาขมเตรียมฉีกซองกิน พออ่านสลากยาถึงเห็นว่าต้องกินกับน้ำร้อน ที่ผ่านมาพี่กินน้ำอุณหภูมิห้อง ยาเลยไม่ออกฤทธิ์..ฮ่าฮ่า
เย็นนี้อาการดีขึ้นมากหลังได้กินน้ำร้อนกับยาขม กินยาตามเวลาทุกขนาน ที่สำคัญได้เข้าห้องน้ำระบายท้อง ตอนนี้เริ่มหิวข้าว ตลกดีอยากกินก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ร้านแสนยอด พ่อลูกกำลังออกไปซื้อให้ ไม่รู้ว่าได้ไม่ได้ นึกถึงตอนป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบีช่วงวัยรุ่น ช่วงนั้นกินอาหารซ้ำไม่ได้สักมื้อกินได้หนเดียวก็หมดความอร่อย ดูเหมือนเป็นโรคเบื่ออาหาร ตอนนั้นม่าม้าบอกว่าเป็นโรคออเซาะ เพราะม่าม้าต้องเปลี่ยนกับข้าวใหม่ทุกมื้อ
อาการป่วยครั้งนี้ทำให้พี่มีโอกาสกลับมาทบทวนตัวเองหลายอย่าง ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองจะนอนยาวข้ามวันข้ามคืนได้ขนาดนี้ คิดว่างีบไปแป๊บเดียวที่ไหนได้กับไป 3-4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ถ้าไม่ตื่นมากินยาคงไม่พยายามบังคับตัวเองให้ตื่น
ต้องขอบคุณทุกคนในบ้านที่ดูแลเป็นอย่างดี เป็นช่วงเวลาพิเศษที่แม่ได้เห็นศักยภาพพ่อและลูกที่ลุกขึ้นมาดูแลแม่เหมือนตอนแม่เคยดูแลทุกคนในบ้านตอนป่วย ลูกหุงข้าวต้ม จัดจานอาหารจะมาเสิร์ฟถึงเตียงนอน แม่บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวลงไปกินเองได้ พี่ยังนึกย้อนช่วงเวลาที่เราเหนื่อยสายตัวแทบขาดตอนลูกป่วยช่วงยังเล็ก วันนี้สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ในตัวพวกเขาเสมอ
อยากให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแลลูกด้วยวิถีธรรมชาติค่ะว่าจังหวะและช่วงเวลาพิเศษเหล่านี้จะย้อนกลับมาอีกครั้งตอนเราป่วย ลูกจะดูแลเราครบทุกอย่างตามที่เราเคยดูแลเขา แม้จะไม่ครบและละเอียดอ่อนเท่าที่แม่เคยดูแล แต่ทุกอย่างไม่เคยสูญสลายตามการเวลา เขาพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจำได้ โดยเฉพาะหลักการสำคัญเช่นแม่ควรกินยาอะไร กินอาหารแบบไหน ต้องกินชาสมุนไพร แช่เท้า เช็ดตัว
ขอบคุณกลุ่มพ่อแม่ที่ไตรพัฒน์ที่ส่งภาพแบบเกาะติดสนามตอนโอมไปแข่งบาส โอมมากอดและบอกแม่ว่า “แม่ไม่ต้องไปดูนะ ที่สนามบาสอากาศน้อยเดี๋ยวแม่เป็นลม” เรามีเวลาคุยกันน้อยมากเพราะแม่หลับซะส่วนใหญ่ ลูกกลับจากเล่นบาสวันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานจิตอาสาช่วยทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดที่อุบลต่อ โอมจะกลับถึงบ้านคืนนี้
ขอบคุณครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ทุกท่าน ขอบคุณคำอวยพรจากเพื่อนกลุ่มสหจะโยคะที่พี่พลาดโอกาสไม่ได้ไปร่วมสัมมนาด้วย ขอบคุณฝันที่ยังนึกไม่ออกว่าคืออะไร ขอบคุณท้องฟ้าที่งดงามตอนได้นอนมองออกไปนอกหน้าต่างทุกวันตอนป่วย
สุดท้ายขอขอบคุณวิหารศักดิ์สิทธิ์หลังนี้ที่ทำให้ลูกได้มีเวลาพิเศษอยู่กับตัวเองและได้เรียนรู้ว่าความเจ็บป่วยมีคุณค่าและความหมายเพียงใดกับชีวิต
รัก
พี่ณี
13/10/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
ช่วงเวลาครึ่งเช้าเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมากเพราะยังปวดหัวไม่หาย พี่กลับมาแช่เท้าด้วยน้ำมะนาว ใส่ถุงเท้าหนา ปิดแอร์ เปิดหน้าต่าง ประตูทุกบาน ห่อตัวด้วยผ้านวมหนาผืนใหญ่เหมือนเด็กแรกคลอดตามที่หมวยเคยห่อตัวให้พี่ช่วงพี่ขับพิษ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กลุ่มห่านใจดีได้ไปสาธิตให้กลุ่มพ่อแม่ที่ไตรพัฒน์ พี่ได้ซื้อผ้าลินินออร์แกนิคและผ้าสักหลาดมาประคบตับตัวเองตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา
ตอนห่อผ้าแบบแรกคลอด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกดีขึ้นหน้าร้อนผ่าว ปวดหัวน้อยลง อาการปวดหลังเริ่มน้อยลงตอนแช่เท้าด้วยมะนาวเหมือนภูเขาน้ำแข็งละลายในหัว คล้ายๆ กับกระแสน้ำอุ่นกับกระแสน้ำเย็นมาเจอกัน มีการเคลื่อนไหวสลับไปมาระหว่างหัวกับเท้า ยิ่งช่วงกดมะนาวไว้ตรงฝ่าเท้าเหมือนมีแรงดูดจากหัวลงมาที่เท้า รู้สึกหัวเบาขึ้นเยอะ พี่เช็ดเท้าใส่ถุงเท้าหนาๆ นอนห่อตัวต่อ คราวนี้หลับยาวจนพี่สมบูรณ์กลับมา
ใบสั่งยาบอกให้ทานเหล็กทุกชั่วโมงครั้งละ 4 เม็ดในวันแรก พี่กินไม่ครบทุกชั่วโมงเพราะกินไปครั้งแรกตอนบ่าย 2 โมงตื่นขึ้นมาตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง ยาเริ่มออกฤทธิ์หลังทานคู่กับยาโฮมีโอพาธี พี่ตื่นมาพร้อมเหงื่อที่แตกพลั่กเหมือนอาบน้ำใหม่ๆ พี่ลุกขึ้นไปล้างหน้ากินยาต่ออีก 4 เม็ด กินยาขมน้ำเต้าทองต่ออีก 4 เม็ดหลับต่อจนถึง 5 โมงครึ่ง คราวนี้เหงื่อออกหนักกว่าเดิม
ช่วงป่วยพี่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเป็น Flight mode จะเปิดเมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะช่วงนี้พี่ต้องเตรียมจัดงาน Oasis ตั้งแต่ 14-20 ตุลาคม รู้เลยค่ะว่าคลื่นสัญญาณมือถือรบกวนพลังชีวิตมาก แต่บางครั้งต้องเปิดไว้ตอนทุกคนไปทานข้าวนอกบ้าน เพราะลูกๆ จะไลน์กลับมาถามว่าแม่อยากกินอะไร
ตอนปัญญ์ถามแม่ว่าเย็นนี้จะกินอะไร ตอนนั้นพี่ไม่มีความรู้สึกหิวอยากกินแต่ผลไม้ บอกให้ลูกซื้อผลไม้ทุกอย่างที่เป็นออร์แกนิคกลับมา ลูกซื้อได้แต่กล้วยหอมและส้มปลอดสารพิษ พี่กินยาต่ออีก 4 เม็ดก่อนลงไปกินส้มได้ 3 ลูก เหมือนจะดีขึ้นเพราะเหงื่อออกเยอะมาก กลับขึ้นมาอ่านฉลากยาใหม่ว่าต้องพยายามกินยาให้ได้ทุก 1 ชั่วโมงในวันแรก วันต่อไปจะเหลือเพียง 4 มื้อ พี่กลับมากินยาต่ออีก 1 ชุดก่อนนอน
ก่อนนอนถามพี่สมบูรณ์ว่าเปิดแอร์กี่องศา พี่สมบูรณ์บอกว่าเปิดไว้ 25 องศา ปกติอุณหภูมิเท่านี้เป็นเรื่องปกติห่มผ้านวมบางๆ ก็หลับได้ พี่มาสำรวจตัวเองว่าทำไมคืนนี้หนาวจัง นึกได้ว่ายังไม่ได้พันผ้า 3 ชั้นประคบตับ ไต ม้าม และยังไม่ได้ทาครีมที่หัวใจ
ตอนเรียนเรื่องหัวใจกับคุณหมอ Daphne พี่ได้รู้ว่าหัวใจจะบีบตัวเร็วขึ้นถึง 100 ครั้งต่อนาทีถ้าอุณหภูมิเราสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ทำให้บางคนเกิดอาการหัวใจล้มเหลวได้พี่เริ่มสำรวจหัวใจตัวเองว่าเต้นประมาณไหนเพราะรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วและเต้นถี่มากขึ้นตอนหนาวมากๆ หลังทาครีมที่หัวใจจังหวะการเต้นค่อยสงบลง
หลับไปถึงกี่โมงไม่รู้ ตื่นมาพี่หนาวสั่นแบบฟันกระทบกึกกัก พี่พยายามพยุงตัวเองลุกจากเตียง เดินผ่าความมืดไปคลำหาผ้าพันคอผืนหนากับถุงมือหนังที่ทำจากหนังจามรีมาใส่ ดูเหมือนถุงมือจะช่วยได้เพราะซื้อตอนไปขึ้นเขาสูงที่จีน กลับมานอนพันตัวในผ้าห่ม ห่อตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนเด็กแรกคลอดอีกครั้ง
คราวนี้เริ่มจับจังหวะได้ว่าอาการจะเริ่มจากปวดหัวตรงกลางและขมับด้านซ้าย ปวดกระบอกตา ปวดหลัง หนาวสั่น เหงื่อออก เมื่อการดำเนินของโรคมาถึงจุดสิ้นสุดคือเหงื่ออก อาการทุกอย่างที่ว่ามาก็หายไป คราวนี้พี่เตรียมทุกอย่างไว้ข้างตัวทั้งสำลี น้ำยาสุมตา นมสาว ผ้านวมหนา คิดว่าเอาไงเอากันถ้าไม่หลับก็ไปหลับต่อพรุ่งนี้เช้า
คืนนั้นพี่ฝันประหลาดเหมือนมีคนเอาหนังสือเล่มสีฟ้าสวยมีรูปดวงดาวสีขาวพร่างพรายและมีหน้าปกเป็นองค์เทพที่เราเห็นในเทพปกรณัม ในฝันพี่คลานเอาหนังสือเข้าไปเก็บที่ห้องนอน ได้ยินเสียงม่าม้ามาบอกว่ามีคนฝากมาให้ นึกในใจว่าป่วยอยู่ไม่มีเวลาอ่านเลยค่ะ ที่แปลกคือม่าม้าอยู่คนละบ้านกับเราแต่ทำไมม่าม้ามาหาที่บ้านตอนเราป่วย
ในฝันมีหนังสือแบบเดียวกันหลาย 2-3 เล่มบนตู้ข้างเตียงนอน แต่เล่มที่มีคนฝากมาเล่มใหญ่และหนากว่าใครทั้งหมด น่าจะประมาณ 500 หน้า ปกหนังสือก็แปลกประหลาดมากเคลื่อนไปมาได้เหมือนกับหีบเพลงแอคคอเดียนที่ต้องใช้เวลาตั้งให้ตรงได้อยู่นานมาก นึกในใจว่าท่านคะหนูอยากไปนอนต่อแล้วขยับปกหนังสือไม่ไหว ขำดีในฝันยังรู้สึกว่าตัวเองป่วยไม่มีแรงจะทำอะไร
เช้ามาพี่ยังหนาวไม่หาย คราวนี้หนาวยะเยือกไปในอก เมื่อคืนไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาวเช้านี้สว่างแล้วใส่เสื้อแขนยาวคอเต่า พันคอด้วยผ้าพันคอผืนใหญ่ ใส่ถุงมือหลับห่อตัว หลับต่อไปจนถึงเที่ยงไม่ได้กินข้าวเช้า ตื่นมารีบคว้ายาเข้าปาก หยิบยาขมเตรียมฉีกซองกิน พออ่านสลากยาถึงเห็นว่าต้องกินกับน้ำร้อน ที่ผ่านมาพี่กินน้ำอุณหภูมิห้อง ยาเลยไม่ออกฤทธิ์..ฮ่าฮ่า
เย็นนี้อาการดีขึ้นมากหลังได้กินน้ำร้อนกับยาขม กินยาตามเวลาทุกขนาน ที่สำคัญได้เข้าห้องน้ำระบายท้อง ตอนนี้เริ่มหิวข้าว ตลกดีอยากกินก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ร้านแสนยอด พ่อลูกกำลังออกไปซื้อให้ ไม่รู้ว่าได้ไม่ได้ นึกถึงตอนป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบีช่วงวัยรุ่น ช่วงนั้นกินอาหารซ้ำไม่ได้สักมื้อกินได้หนเดียวก็หมดความอร่อย ดูเหมือนเป็นโรคเบื่ออาหาร ตอนนั้นม่าม้าบอกว่าเป็นโรคออเซาะ เพราะม่าม้าต้องเปลี่ยนกับข้าวใหม่ทุกมื้อ
อาการป่วยครั้งนี้ทำให้พี่มีโอกาสกลับมาทบทวนตัวเองหลายอย่าง ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองจะนอนยาวข้ามวันข้ามคืนได้ขนาดนี้ คิดว่างีบไปแป๊บเดียวที่ไหนได้กับไป 3-4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ถ้าไม่ตื่นมากินยาคงไม่พยายามบังคับตัวเองให้ตื่น
ต้องขอบคุณทุกคนในบ้านที่ดูแลเป็นอย่างดี เป็นช่วงเวลาพิเศษที่แม่ได้เห็นศักยภาพพ่อและลูกที่ลุกขึ้นมาดูแลแม่เหมือนตอนแม่เคยดูแลทุกคนในบ้านตอนป่วย ลูกหุงข้าวต้ม จัดจานอาหารจะมาเสิร์ฟถึงเตียงนอน แม่บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวลงไปกินเองได้ พี่ยังนึกย้อนช่วงเวลาที่เราเหนื่อยสายตัวแทบขาดตอนลูกป่วยช่วงยังเล็ก วันนี้สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ในตัวพวกเขาเสมอ
อยากให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแลลูกด้วยวิถีธรรมชาติค่ะว่าจังหวะและช่วงเวลาพิเศษเหล่านี้จะย้อนกลับมาอีกครั้งตอนเราป่วย ลูกจะดูแลเราครบทุกอย่างตามที่เราเคยดูแลเขา แม้จะไม่ครบและละเอียดอ่อนเท่าที่แม่เคยดูแล แต่ทุกอย่างไม่เคยสูญสลายตามการเวลา เขาพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจำได้ โดยเฉพาะหลักการสำคัญเช่นแม่ควรกินยาอะไร กินอาหารแบบไหน ต้องกินชาสมุนไพร แช่เท้า เช็ดตัว
ขอบคุณกลุ่มพ่อแม่ที่ไตรพัฒน์ที่ส่งภาพแบบเกาะติดสนามตอนโอมไปแข่งบาส โอมมากอดและบอกแม่ว่า “แม่ไม่ต้องไปดูนะ ที่สนามบาสอากาศน้อยเดี๋ยวแม่เป็นลม” เรามีเวลาคุยกันน้อยมากเพราะแม่หลับซะส่วนใหญ่ ลูกกลับจากเล่นบาสวันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานจิตอาสาช่วยทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดที่อุบลต่อ โอมจะกลับถึงบ้านคืนนี้
ขอบคุณครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ทุกท่าน ขอบคุณคำอวยพรจากเพื่อนกลุ่มสหจะโยคะที่พี่พลาดโอกาสไม่ได้ไปร่วมสัมมนาด้วย ขอบคุณฝันที่ยังนึกไม่ออกว่าคืออะไร ขอบคุณท้องฟ้าที่งดงามตอนได้นอนมองออกไปนอกหน้าต่างทุกวันตอนป่วย
สุดท้ายขอขอบคุณวิหารศักดิ์สิทธิ์หลังนี้ที่ทำให้ลูกได้มีเวลาพิเศษอยู่กับตัวเองและได้เรียนรู้ว่าความเจ็บป่วยมีคุณค่าและความหมายเพียงใดกับชีวิต
รัก
พี่ณี
13/10/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150