Inner Journey
เมืองต้องไป....ฮอกไกโด (ตอนที่5)
พี่คาดการณ์เวลาลงเขาผิดไปเพราะทางขรุขระและชันมากเพราะเราไม่ได้ย้อนกลับทางเดิม ปรางบอกว่าถ้าต้องขับรถกลับตอนนี้ (เวลา 15:45 น.) เราจะกลับไปที่ร้านบุฟเฟต์ขาปูยักษ์ได้เร็วที่สุดตอน 1 ทุ่มโดยไม่แวะพัก ที่สำคัญถ้าไปไม่ทันเราจะถูกปรับนาทีละ 50 เยน คูณจำนวนคน และจำนวนเวลาที่เราสาย
ภูเขาไฟในใจของเราทุกคนเริ่มปะทุ เราเริ่มปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียด ฝรั่งบนกระเช้าตื่นเต้นที่ได้เห็นกวางป่านอนอยูด้านล่าง พวกเราชะโงกลงไปดูบ้าง แล้วเรา 5 คนก็หันกลับมาคุยกันใหม่ พวกเราเอามือจุ๊ปากเตือนกันเองว่าอย่าเพิ่งโมโห คุยกันเบาๆ
ข้อมูลที่ได้บีบคั้นทั้งเรื่องเวลาและค่าปรับ เราต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรถ้าเราไปสาย เราควรโทร. ยกเลิกตอนนี้เลยดีไหม เราพร้อมจ่ายค่าปรับนาทีละ 50 เยน คูณจำนวนเวลาที่สายและจำนวนคน 5 คนหรือเปล่า มีเรื่องใหม่เพิ่มมาว่า “ทางร้านรับเงินสดเท่านั้นนะพ่อ” ปรางบอกเพราะเพิ่งเห็นข้อมูล
พี่สมบูรณ์แลกเงินเป็น Debit card มาเพราะสะดวก และปลอดภัยกว่า ดังนั้น ถ้าเรายืนยันว่าจะไปกินร้านนี้เราต้องไปหาที่แลกเงินเยนก่อน จะไปแลกที่ไหนก็ยังนึกไม่ออก ความซับซ้อนคือเราต้องไปหาที่กดเงินไทยแล้วค่อยไปแลกเงินเยน เพราะพี่สมบูรณ์ต้องสำรองเงินสดไว้ใช้ต่ออีกหลายวัน
ปัญญ์ โอมเสนอว่าเรามากินครั้งหน้าดีกว่า เพราะครั้งนี้ทุกอย่างบีบคั้นด้วยเวลาและข้อจำกัดจริงๆ ทุกคนไม่อยากให้พ่อขับรถเร็ว มันอันตรายมาก ปัญญ์ถามพี่ว่า “ทำไมเราต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพราะบุฟเฟต์เพียงมื้อเดียว มันคุ้มกันไหมแม่”
พี่รับฟังแต่ยังไม่ยอมถอดใจ พี่เสนอว่าถ้าเราไปถึงโรงแรมแล้วเจอคนไทยเหมือนทุกวัน แม่จะไปขอแลกเงินเยนให้ พี่สมบูรณ์บอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินให้เราแลกและไม่ใช่ว่ากลับไปแล้วจะโชคดีได้เจอคนไทย เราคุยทิ้งค้างไว้ตรงนี้เพราะกระเช้ามาถึงด้านล่างตอน 15:55 น. พอดี
ทุกคนรีบแวะเข้าห้องน้ำและกลับมาที่รถอย่างรวดเร็ว เวลาทุกนาทีดูมีค่ามาก ความตึงเครียดเริ่มเกิดขึ้นเพราะหน้าปัดเวลาบนรถบอกว่าเราจะถึงโรงแรมตอน 19:04 นาที ยังไม่นับรวมเวลาที่เราเดินไปที่ร้านอีก 10 นาที พี่บอกปรางว่าอย่าเพิ่งโทร. ยกเลิก เราอาจไปทันถ้าเราขับรถตรงไปที่ร้านเลย
ปรางส่งอีเมล์ไปสอบถามเรื่องที่จอดรถแต่ไม่มีคนตอบกลับเพราะร้านเปิดแล้ว เราคิดกันต่อว่าให้พี่สมบูรณ์ไปส่งพี่กับลูกก่อนเพื่อไม่ให้ถูกค่าปรับ ระหว่างนั้นพี่จะถามร้านเรื่องการจ่ายเงิน ปรางเช็คจาก web อื่นที่ให้รายละเอียดว่าสามารถใช้ Credit Card ได้ช่วงอาหารเย็น แต่ทุกคนต้องเข้าไปกินพร้อมกันเท่านั้น
บรรยากาศบนรถกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงว่าเราคงไปไม่ทัน ไม่มีใครสรุปว่าวันนี้เราจะกินข้าวเย็นที่ไหน แผนการที่คุยกันไว้คร่าวๆ เมื่อสักครู่ดูเป็นแค่หนึ่งในทางเลือกถ้าเราถึงที่ร้านทันก่อน 1 ทุ่ม
พี่หันไปมองหน้าปัดนาฬิกาที่เปลี่ยนไปมาจาก 19:04 เป็น 18:57 บ้าง และ 19:00 น. บ้าง ไฟเขียวดูเหมือนเป็นใจให้เราผ่านฉลุยเพราะที่นี่มีไฟเขียวทุกช่วงเสาไฟ พี่ตัดสินใจพูดผ่าขึ้นมากลางวงว่า “เราได้พยายามเต็มที่แล้วหรือยัง”
ปัญญ์พูดขึ้นมาว่า “แม่ เราทุกคนได้พยายามเต็มที่แล้ว อยากให้แม่อยู่กับความเป็นจริงว่าเราไปไม่ทัน”
พี่สมบูรณ์พูดเสริมว่า “ทุกคนพยายามเต็มที่แล้ว พ่อก็พยายามขับให้ถึงเมืองให้เร็วที่สุด แต่แม่ก็เห็นว่าเขาจำกัดความเร็วอยู่ที่ 50 กม. ต่อชั่วโมง ถ้าไปทันเราก็ไป ถ้าไม่ทันเอาไว้กินคราวหน้าดีกว่า”
โอมหันมาสนับสนุนความคิดนี้ โอมบอกว่า “เราไปกินปิ้งย่างใกล้โรงแรมก็ได้แม่” ส่วนปรางเสริมว่า “ปรางกะเวลาผิด ที่จริงปรางควรจองรอบสุดท้ายตอนสองทุ่มครึ่งดีกว่าจองรอบหนึ่งทุ่มตามที่แม่บอก”
“มันไม่เกี่ยวกับบุฟเฟต์คืนนี้ แต่มันเกี่ยวกับความพยายามของพวกเรา แม่เคยเป็นเลขามาก่อน หน้าที่ของเลขาคือทำทุกวิถีทางเพื่อให้เป้าหมายที่นายกำหนดไว้สำเร็จ ไม่ว่าหนทางนั้นจะยุ่งยากหรือลำบากเพียงใด ทุกอย่างมีทางออกเสมอ ถ้าเราพยายามมากพอ” แม่พูด
โอมบอกว่า “ตอนนี้แม่ไม่เหมือนเลขา แม่เหมือนนายที่อยากกินปูมากๆ แม่กำลังกดดันให้ทุกคนพาแม่ไปกินปูให้ได้”
แม้จะขำแต่ต้องยืนยันต่อว่า “มันไม่เกี่ยวกับปูลูก มันเกี่ยวกับเป้าหมายที่เราต้องพิชิตร่วมกัน แม่ไม่กินเลยก็ได้ แต่แม่อยากเห็นทุกคนช่วยกันหาทางออกและมองหาความเป็นไปได้อื่นๆ ก่อน แล้วเราค่อยมา สรุปกันอีกทีว่าเราจะไม่ไป แม่จะไม่เสียใจเลย ถ้าเราพยายามจนสุดความสามารถแล้วจริงๆ”
ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ติดตามตอนต่อไปนะคะ
รัก
พี่ณี
17/7/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150