Inner Journey
ครั้งหนึ่ง ณ กรุงโซล (ตอนที่ 2)
เช้านี้ฝนตกแต่เช้า พี่สมบูรณ์กับเด็กๆ วางแผนกันอย่างดีตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะไปเที่ยว 3 แห่ง มีร้านไอศกรีมโยเกิร์ตเจ้าดัง ทุ่งหญ้าธรรมชาติที่ต้องขึ้นไปบนเขาและต้องนั่งรถไฟออกไปไกล 2 ชั่วโมง ขากลับจะแวะกินข้าวเย็นที่ตลาดกลางคืนแหล่งรวมอาหารเกาหลี
พยากรณ์อากาศคาดว่าฝนจะหยุดตกตอนเที่ยง พี่รีบเตรียมผ้าพันคอผืนหนา หมวกไหมพรม ถุงมือ อาหารว่าง น้ำดื่มใส่ถุงผ้าใบใหญ่ไว้เพราะไม่รู้ว่าอากาศจะเย็นลงกว่าเดิมอีกกี่องศาหลังฝนหยุด ในกรณีเดินขึ้นเขาเหมือนตอนไปญี่ปุ่นถ้าไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยวจะไม่มีคนขายอาหาร พอฝนซาเราเริ่มออกจากที่พักเพื่อไปเที่ยวตามแผนที่วางไว้
แล้ว “ทฤษฎีวันที่สอง” ก็เริ่มทำงาน ...ปรากฏการณ์ของการต้องเดินหน้าห้ามถอยหลังก็เกิดขึ้น เรานั่งรถไฟไปกินไอศกรีมโยเกิร์ตเจ้าดังท่ามกลางสายฝน หลังกินไอศกรีมหมด พี่สมบูรณ์ชวนลูกออกนอกแผน ขอแทรกพระราชวัง 1 แห่งก่อนไปทุ่งหญ้าที่ปัญญ์วางแผนไว้เพราะเส้นทางไปพระราชวังอยู่ไม่ไกลจากร้านไอศกรีมนัก
เราตัดสินใจเดินแทนขึ้นรถไฟเพราะดูจากแผนที่แล้วพระราชวังด็อกชูกุงอยู่ห่างออกไปเพียงสถานีเดียว พี่สมบูรณ์เดินนำหน้าไปก่อนเพราะ Google Map ใช้งานไม่ได้ ต้องเปิดเพียงแผนที่และเดินตามเส้นทางที่ระบุไว้เท่านั้น
ความโกลาหลเริ่มเกิดขึ้นเพราะฝนยังตกอยู่พี่เลยเดินได้ช้าลง ไหนจะหอบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าสัมภาระที่หนักอึ้ง ไหนจะถือร่มชีวิตดูพะรุงพะรังมาก
พ่อลูกเริ่มเดินไกลออกไปเรื่อยๆ ปกติพี่สมบูรณ์จะรั้งท้าย หยุดคอย รอให้พี่เดินตามมาให้ทัน แต่วันนี้คุณพ่อเธอมาแปลกเดินนำลิ่วหายไปตรงหัวถนน ถ้าไม่มีร่มมาบดบังสายตาพี่จะเดินตามทันทุกครั้ง เพราะรู้ว่าตัวเองเดินช้าเลยต้องคอยจ้องหมวกลูกคนไหนไว้สักคน แต่คราวนี้ทั้งฝน ทั้งทางเดินแคบ ถนนลื่น เราเลยคลาดกัน
พี่เดินเลี้ยวมาตามทางไม่เจอใครสักคน มีทางแยกอยู่ตรงหน้าด้านหนึ่งเป็นอุโมงค์ อีกด้านเป็นถนน พี่ติดต่อใครไม่ได้ โชคดีปรางอ่านไลน์เลยโทร. กลับมาหา แม่เริ่มหงุดหงิดว่าทำไมทุกคนเดินไม่รอกัน ในใจนึกโมโหว่าถ้าไม่มีใครย้อนกลับมารับวันนี้แม่ลุย!
โชคดีที่ทุกคนเดินย้อนกลับมารับ ด้วยความหงุดหงิดพี่ถามพี่สมบูรณ์ว่า “บอกหน่อยได้ไหมว่าจะไปทางไหน แม่จะได้ช่วยหาทาง” พี่สมบูรณ์ตอบคำเดียวว่า “เดินตามมาอย่างเดียวก็พอ” ว่าแล้วเธอก็เดินนำลิ่วต่อไป
ในใจตอนนั้นเริ่มเดือดปุดๆ แต่ก็เดินตามมาจนถึงพระราชวังซึ่งข้างหน้ามีเวทีปราศรัยสลับคนขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจ เมื่อเข้ามาภายในพระราชวังความงดงามของสถานที่ทำให้ใจพี่สงบลง อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ฝนไม่มีท่าทีที่จะหยุดตก พี่นั่งหลบฝนรอลูกๆ ถ่ายรูป
พี่นั่งชมวิวพระที่นั่งจุงวาจองและท้องพระโรงที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์โซซอนเมื่อ 500 ปีก่อน ระหว่างรอพี่เก็บภาพบรรยากาศจนครบทุกมุม หันไปหยิบหนังสือมาอ่านรอเกือบชั่วโมง เงยหน้าขึ้นมาพ่อลูกทุกคนหายไปหมดแล้ว อืม..วันนี้ทุกคนมาแปลกจริงๆ ไม่มีใครเดินมาตามแม่
พี่เปิดแผ่นพับมาอ่านเห็นว่าด้านในมีอาคารชกโจจอน (Seokjojeon) อาคารหลังงามที่สร้างแนวสถาปัตยกรรมตะวันตก มีบริการเปิดให้คนภายนอกเข้าชมตามเวลา พี่คิดว่าทุกคนต้องอยู่ที่อาคารหลังนี้แน่นอน ระหว่างทางพี่เดินผ่านหอระฆังเก่าที่สวยงามมากแต่ถ่ายรูปไม่ได้เพราะหอบของพะรุงพะรัง
เดินเลาะเข้ามาถึงด้านในอาคารก็มองไม่เห็นพ่อลูกสักคน พี่ตัดสินใจไลน์ถามปรางอีกครั้งว่าอยู่แถวไหนแม่มารออยู่ใต้อาคารแล้ว บทสนทนาที่นำความฉงนใจก็เริ่มขึ้น
“แม่รออยู่ตรงนั้นนะ พวกเรา 4 คนจะเข้าไปชมพระราชวัง”
“ทำไมไม่จอง 5 คนค่ะ” พี่ถามกลับทันที
“รอบ 5 คนต้องรอตอนบ่ายสองโมง พ่อเลยจองเลย”
“แปลว่าแม่ไม่ต้องเข้าใข่ไหมคะ” แม่ถาม
“เดี๋ยวปรางให้แม่เข้าแทน..ปรางไม่เข้าแม่”
พี่เห็นลูกเดินผ่านหน้าไป ทุกคนโบกมือเรียกแม่ให้เดินตามมา พี่สมบูรณ์ถามเจ้าหน้าที่หน้าประตูว่าครอบครัวเราจองไว้ 4 คน ถ้าขอเพิ่มอีกคนได้ไหม เจ้าหน้าที่อนุญาต เราเลยเดินเข้าไปข้างในพร้อมกัน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ด้านในไม่อนุญาตพี่เลยรีบเดินออกมาเพราะเจ้าหน้าที่เสียงเข้มมาก
ด้านนอกฝนยังคงตกอยู่ อากาศเย็นมากจนต้องหยิบอุปกรณ์กันหนาวมาใส่ครบชุด ช่วงแรกยังนั่งอ่านหนังสือรอได้ แต่ตอนหลังเริ่มทนอากาศหนาวไม่ไหวกำลังจะเดินไปนั่งรอที่อื่น ตาเหลือบไปเห็นฝรั่งทยอยเดินออกมา พี่คิดว่าอีกสักพักพ่อลูกคงเดินตามมาเพราะรอบภาษาอังกฤษเริ่มตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง
หลังนั่งรอแบบหนาวเหน็บไปจนถึง 14:45 น. พ่อลูกค่อยๆ เดินออกมาแบบชิลล์ๆ คราวนี้แม่น็อตหลุดบอกลูกว่าเดี๋ยวแม่ไปเข้าห้องน้ำก่อนให้ทุกคนไปรอหน้าประตูเลย ตอนนั้นรู้ตัวว่าโมโหมาก คำถามในหัวคือ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่สมบูรณ์จองแค่ 4 ที่ แถมกลับออกมาทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีใครถามแม่เลยสักคนว่าแม่รอนานไหม”
ติดตามตอนต่อวันพรุ่งนี้นะคะ เพราะเรื่องนี้แม่ไม่ยอมให้จบง่ายๆ แน่นอนค่ะ
รัก
พี่ณี
14/4/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
พยากรณ์อากาศคาดว่าฝนจะหยุดตกตอนเที่ยง พี่รีบเตรียมผ้าพันคอผืนหนา หมวกไหมพรม ถุงมือ อาหารว่าง น้ำดื่มใส่ถุงผ้าใบใหญ่ไว้เพราะไม่รู้ว่าอากาศจะเย็นลงกว่าเดิมอีกกี่องศาหลังฝนหยุด ในกรณีเดินขึ้นเขาเหมือนตอนไปญี่ปุ่นถ้าไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยวจะไม่มีคนขายอาหาร พอฝนซาเราเริ่มออกจากที่พักเพื่อไปเที่ยวตามแผนที่วางไว้
แล้ว “ทฤษฎีวันที่สอง” ก็เริ่มทำงาน ...ปรากฏการณ์ของการต้องเดินหน้าห้ามถอยหลังก็เกิดขึ้น เรานั่งรถไฟไปกินไอศกรีมโยเกิร์ตเจ้าดังท่ามกลางสายฝน หลังกินไอศกรีมหมด พี่สมบูรณ์ชวนลูกออกนอกแผน ขอแทรกพระราชวัง 1 แห่งก่อนไปทุ่งหญ้าที่ปัญญ์วางแผนไว้เพราะเส้นทางไปพระราชวังอยู่ไม่ไกลจากร้านไอศกรีมนัก
เราตัดสินใจเดินแทนขึ้นรถไฟเพราะดูจากแผนที่แล้วพระราชวังด็อกชูกุงอยู่ห่างออกไปเพียงสถานีเดียว พี่สมบูรณ์เดินนำหน้าไปก่อนเพราะ Google Map ใช้งานไม่ได้ ต้องเปิดเพียงแผนที่และเดินตามเส้นทางที่ระบุไว้เท่านั้น
ความโกลาหลเริ่มเกิดขึ้นเพราะฝนยังตกอยู่พี่เลยเดินได้ช้าลง ไหนจะหอบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าสัมภาระที่หนักอึ้ง ไหนจะถือร่มชีวิตดูพะรุงพะรังมาก
พ่อลูกเริ่มเดินไกลออกไปเรื่อยๆ ปกติพี่สมบูรณ์จะรั้งท้าย หยุดคอย รอให้พี่เดินตามมาให้ทัน แต่วันนี้คุณพ่อเธอมาแปลกเดินนำลิ่วหายไปตรงหัวถนน ถ้าไม่มีร่มมาบดบังสายตาพี่จะเดินตามทันทุกครั้ง เพราะรู้ว่าตัวเองเดินช้าเลยต้องคอยจ้องหมวกลูกคนไหนไว้สักคน แต่คราวนี้ทั้งฝน ทั้งทางเดินแคบ ถนนลื่น เราเลยคลาดกัน
พี่เดินเลี้ยวมาตามทางไม่เจอใครสักคน มีทางแยกอยู่ตรงหน้าด้านหนึ่งเป็นอุโมงค์ อีกด้านเป็นถนน พี่ติดต่อใครไม่ได้ โชคดีปรางอ่านไลน์เลยโทร. กลับมาหา แม่เริ่มหงุดหงิดว่าทำไมทุกคนเดินไม่รอกัน ในใจนึกโมโหว่าถ้าไม่มีใครย้อนกลับมารับวันนี้แม่ลุย!
โชคดีที่ทุกคนเดินย้อนกลับมารับ ด้วยความหงุดหงิดพี่ถามพี่สมบูรณ์ว่า “บอกหน่อยได้ไหมว่าจะไปทางไหน แม่จะได้ช่วยหาทาง” พี่สมบูรณ์ตอบคำเดียวว่า “เดินตามมาอย่างเดียวก็พอ” ว่าแล้วเธอก็เดินนำลิ่วต่อไป
ในใจตอนนั้นเริ่มเดือดปุดๆ แต่ก็เดินตามมาจนถึงพระราชวังซึ่งข้างหน้ามีเวทีปราศรัยสลับคนขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจ เมื่อเข้ามาภายในพระราชวังความงดงามของสถานที่ทำให้ใจพี่สงบลง อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ฝนไม่มีท่าทีที่จะหยุดตก พี่นั่งหลบฝนรอลูกๆ ถ่ายรูป
พี่นั่งชมวิวพระที่นั่งจุงวาจองและท้องพระโรงที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์โซซอนเมื่อ 500 ปีก่อน ระหว่างรอพี่เก็บภาพบรรยากาศจนครบทุกมุม หันไปหยิบหนังสือมาอ่านรอเกือบชั่วโมง เงยหน้าขึ้นมาพ่อลูกทุกคนหายไปหมดแล้ว อืม..วันนี้ทุกคนมาแปลกจริงๆ ไม่มีใครเดินมาตามแม่
พี่เปิดแผ่นพับมาอ่านเห็นว่าด้านในมีอาคารชกโจจอน (Seokjojeon) อาคารหลังงามที่สร้างแนวสถาปัตยกรรมตะวันตก มีบริการเปิดให้คนภายนอกเข้าชมตามเวลา พี่คิดว่าทุกคนต้องอยู่ที่อาคารหลังนี้แน่นอน ระหว่างทางพี่เดินผ่านหอระฆังเก่าที่สวยงามมากแต่ถ่ายรูปไม่ได้เพราะหอบของพะรุงพะรัง
เดินเลาะเข้ามาถึงด้านในอาคารก็มองไม่เห็นพ่อลูกสักคน พี่ตัดสินใจไลน์ถามปรางอีกครั้งว่าอยู่แถวไหนแม่มารออยู่ใต้อาคารแล้ว บทสนทนาที่นำความฉงนใจก็เริ่มขึ้น
“แม่รออยู่ตรงนั้นนะ พวกเรา 4 คนจะเข้าไปชมพระราชวัง”
“ทำไมไม่จอง 5 คนค่ะ” พี่ถามกลับทันที
“รอบ 5 คนต้องรอตอนบ่ายสองโมง พ่อเลยจองเลย”
“แปลว่าแม่ไม่ต้องเข้าใข่ไหมคะ” แม่ถาม
“เดี๋ยวปรางให้แม่เข้าแทน..ปรางไม่เข้าแม่”
พี่เห็นลูกเดินผ่านหน้าไป ทุกคนโบกมือเรียกแม่ให้เดินตามมา พี่สมบูรณ์ถามเจ้าหน้าที่หน้าประตูว่าครอบครัวเราจองไว้ 4 คน ถ้าขอเพิ่มอีกคนได้ไหม เจ้าหน้าที่อนุญาต เราเลยเดินเข้าไปข้างในพร้อมกัน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ด้านในไม่อนุญาตพี่เลยรีบเดินออกมาเพราะเจ้าหน้าที่เสียงเข้มมาก
ด้านนอกฝนยังคงตกอยู่ อากาศเย็นมากจนต้องหยิบอุปกรณ์กันหนาวมาใส่ครบชุด ช่วงแรกยังนั่งอ่านหนังสือรอได้ แต่ตอนหลังเริ่มทนอากาศหนาวไม่ไหวกำลังจะเดินไปนั่งรอที่อื่น ตาเหลือบไปเห็นฝรั่งทยอยเดินออกมา พี่คิดว่าอีกสักพักพ่อลูกคงเดินตามมาเพราะรอบภาษาอังกฤษเริ่มตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง
หลังนั่งรอแบบหนาวเหน็บไปจนถึง 14:45 น. พ่อลูกค่อยๆ เดินออกมาแบบชิลล์ๆ คราวนี้แม่น็อตหลุดบอกลูกว่าเดี๋ยวแม่ไปเข้าห้องน้ำก่อนให้ทุกคนไปรอหน้าประตูเลย ตอนนั้นรู้ตัวว่าโมโหมาก คำถามในหัวคือ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่สมบูรณ์จองแค่ 4 ที่ แถมกลับออกมาทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีใครถามแม่เลยสักคนว่าแม่รอนานไหม”
ติดตามตอนต่อวันพรุ่งนี้นะคะ เพราะเรื่องนี้แม่ไม่ยอมให้จบง่ายๆ แน่นอนค่ะ
รัก
พี่ณี
14/4/61
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150