Inner Journey
“อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเราทำได้” (ตอนจบ)
แผนท่องเที่ยวในวันที่ 2-3 ของเราเป็นการไปไหว้พระและเที่ยวชมธรรมชาติตามจุดชมวิวอันมีชื่อเสียงของไต้หวันที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกลับด้วยรถขนส่งสาธารณะภายใน 1 วัน
ข้อดีของการเดินทางโดยรถสาธารณะคือการได้เดินชมทุกตรอกซอกซอยอย่างใกล้ชิด การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน นั่งรถเมล์ ต่อเรือช่วยให้พี่ได้เห็นวิถีความเป็นอยู่และการนำเสนอแนวคิดต่างๆ ผ่านป้ายโฆษณา ผ่านการจัดร้าน ผ่านบริการสาธารณะทั้งหมด พี่เห็นความตั้งใจอย่างมากที่จะเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่แสดงศิลปะทั้งดนตรี การแสดงและภาพถ่าย
สิ่งที่ขื่นชมอีกอย่างคือห้องน้ำสถานีรถไฟฟ้าที่สะอาดและบางแห่งดูโอ่โถงมาก บางสถานีมีบริการพิเศษสำหรับครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกเข้าไปใช้บริการได้พร้อมกันทีเดียว บางแห่งมีห้องให้นมบุตรแยกเป็นพิเศษด้วย
ตอนนั่งรถไฟพี่จะเห็นเก้าอี้สีน้ำเงินที่ด้านบนมีป้ายติดไว้เป็นที่นั่งสำหรับเด็ก คนชรา ผู้ทุพลภาพหรือคุณแม่ตั้งครรภ์ติดอยู่ สังเกตได้ว่าเก้าอี้นี้จะว่างเสมอแม้รถจะมีคนแน่นเพียงใด ถ้ามีคนสูงอายุนั่งอยู่ ถ้าคนสูงอายุมากกว่าขึ้นมาเขาจะรีบลุกให้คนที่อาวุโสกว่านั่งเสมอ แม้แต่ในรถเมล์ยังมีบริการเก้าอี้สำหรับผู้สูงวัย พี่ค่อนข้างโชคดีที่นับอายุและหน้าตาแล้วน่าจะเป็นผู้สูงวัย เพราะจะมีเก้าอี้ว่างและมีวัยรุ่นลุกให้พี่นั่งอยู่บ่อยครั้ง
พี่มองว่าแรงขับของการทำดีเพื่อเปลี่ยนโลก แนวคิดเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมน่าจะมาจากธรรมชาติที่เข้าถึงได้ในชั่วลัดนิ้วมือ การคมนาคมที่สะดวกสบายช่วยย่นระยะและย่อโลกให้เล็กลง แม้พี่จะมีโอกาสเที่ยวจริงๆ เพียง 3 วันรวมวันไปและกลับ แต่พี่มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดทั้งทะเลและภูเขาอย่างเต็มที่
ชีวิตที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ทำให้มนุษย์ตัวเล็กลง นี่กระมังที่ทำให้คนไต้หวันมีทัศนคติต่อการอุทิศตน การทำงานเพื่อสาธารณะประโยชน์และจิตอาสา พี่มีโอกาสได้สัมภาษณ์หนุ่มสาวที่ยืนให้คำแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกเล่นเครื่องเล่นไม้ เขาและเธอพูดตรงกันว่า “เราสนุกกับการทำงานที่นี่” พี่ถามว่านี่คืองานอาสาหรือเปล่า พวกเขาบอกว่าเราทำงานในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว
แปลกดีที่การมาไต้หวันครั้งนี้ไม่มีเรื่องวุ่นวายที่เป็นเรื่องส่วนตัวแบบที่พี่เดินทางไปประเทศอื่นๆ มีเรื่องตกใจตอนได้ข่าวว่าม่าม้าหกล้มหัวโนแต่ทุกอย่างปลอดภัยดี สิ่งที่ผิดคาดคืออากาศร้อนกว่าที่เราคิด ฝนตกเพียง 2 ครั้งตอนวันไปและวันที่สามตอนข้ามเรือไปเที่ยวเกาะ ลูกแบกกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อฝน 5 ตัวมาทุกวัน ถ้าวันนั้นฝนไม่ตกเราจะไม่มีโอกาสพิสูจน์ว่ากระเป๋าเป้ใบใหม่ที่แม่ใส่เสื้อฝนมากันน้ำได้ 100% ตามที่คนขายโฆษณา
หลังจากพี่กลับจากไต้หวัน ขณะนั่งรอตัดผมที่ร้านประจำ ตาเหลือบไปเห็นนิตยสารแพรวที่อุทิศหนังสือทั้งเล่มพูดถึง #รักโลกไม่ต้องรอคนเริ่ม พี่รีบกระโดดคว้ามับนั่งอ่านจนหมดเล่มด้วยความดีใจว่าเมืองไทยเรามีการขับเคลื่อนเรื่องรักษ์โลกอย่างจริงจังเช่นกัน
ไม่น่าเชื่อว่าการได้มาท่องเที่ยวไต้หวันเพียง 4 วันเปลี่ยนวิธีคิดและทิ้งเมล็ดพันธุ์บางอย่างให้พี่พยายามมองหาหนทางในการสร้างโลกให้ดีขึ้น นี่คงเป็นบทพิสูจน์ข้อหนึ่งที่ยืนยันว่ากระแสแห่งความดีสามารถส่งต่อถึงกันและกันได้ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนคิดดี ทำดี พูดดี
เรื่องเล่าที่ยิ่งใหญ่จากบุคคลที่ยิ่งใหญ่หรือวีระบุรุษผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก เขาเหล่านั้นมีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือความรักในงานที่ตนทำ การอุทิศตน ความหวังและความชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งเหล่านี้คือสารที่ส่งตรงถึงหัวใจผู้คนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าข้อมูล เพราะผลงานสำคัญกว่าคำพูด
พี่ไม่แปลกใจที่ได้เห็น “What If...We Could” หรือ “อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเราได้ทำ” ผุดพรายขึ้นทุกที่ในไต้หวัน สิ่งนี้ถูกถ่ายทอดถึงผู้มาเยือนได้อย่างคมชัดผ่านแรงบันดาลใจ ผ่านความรู้สึกรับผิดชอบ และผ่านการลงมือทำในทุกหนทาง รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาเยือนไต้หวันในวันที่ลูกๆ เติบโตเป็นวัยรุ่น เป็นความหวังลึกๆ ในหัวใจคนเป็นแม่ว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความดีจะถูกส่งต่อสู่ลูกทั้ง 3 คนเพื่อให้พวกเขากลับมาสร้างโลกให้ดีกว่าเดิมหลังกลับจากทริปสร้างแรงบันดาลใจนี้
รัก
พี่ณี
4/8/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
ข้อดีของการเดินทางโดยรถสาธารณะคือการได้เดินชมทุกตรอกซอกซอยอย่างใกล้ชิด การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน นั่งรถเมล์ ต่อเรือช่วยให้พี่ได้เห็นวิถีความเป็นอยู่และการนำเสนอแนวคิดต่างๆ ผ่านป้ายโฆษณา ผ่านการจัดร้าน ผ่านบริการสาธารณะทั้งหมด พี่เห็นความตั้งใจอย่างมากที่จะเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่แสดงศิลปะทั้งดนตรี การแสดงและภาพถ่าย
สิ่งที่ขื่นชมอีกอย่างคือห้องน้ำสถานีรถไฟฟ้าที่สะอาดและบางแห่งดูโอ่โถงมาก บางสถานีมีบริการพิเศษสำหรับครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกเข้าไปใช้บริการได้พร้อมกันทีเดียว บางแห่งมีห้องให้นมบุตรแยกเป็นพิเศษด้วย
ตอนนั่งรถไฟพี่จะเห็นเก้าอี้สีน้ำเงินที่ด้านบนมีป้ายติดไว้เป็นที่นั่งสำหรับเด็ก คนชรา ผู้ทุพลภาพหรือคุณแม่ตั้งครรภ์ติดอยู่ สังเกตได้ว่าเก้าอี้นี้จะว่างเสมอแม้รถจะมีคนแน่นเพียงใด ถ้ามีคนสูงอายุนั่งอยู่ ถ้าคนสูงอายุมากกว่าขึ้นมาเขาจะรีบลุกให้คนที่อาวุโสกว่านั่งเสมอ แม้แต่ในรถเมล์ยังมีบริการเก้าอี้สำหรับผู้สูงวัย พี่ค่อนข้างโชคดีที่นับอายุและหน้าตาแล้วน่าจะเป็นผู้สูงวัย เพราะจะมีเก้าอี้ว่างและมีวัยรุ่นลุกให้พี่นั่งอยู่บ่อยครั้ง
พี่มองว่าแรงขับของการทำดีเพื่อเปลี่ยนโลก แนวคิดเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมน่าจะมาจากธรรมชาติที่เข้าถึงได้ในชั่วลัดนิ้วมือ การคมนาคมที่สะดวกสบายช่วยย่นระยะและย่อโลกให้เล็กลง แม้พี่จะมีโอกาสเที่ยวจริงๆ เพียง 3 วันรวมวันไปและกลับ แต่พี่มีโอกาสสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดทั้งทะเลและภูเขาอย่างเต็มที่
ชีวิตที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ทำให้มนุษย์ตัวเล็กลง นี่กระมังที่ทำให้คนไต้หวันมีทัศนคติต่อการอุทิศตน การทำงานเพื่อสาธารณะประโยชน์และจิตอาสา พี่มีโอกาสได้สัมภาษณ์หนุ่มสาวที่ยืนให้คำแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกเล่นเครื่องเล่นไม้ เขาและเธอพูดตรงกันว่า “เราสนุกกับการทำงานที่นี่” พี่ถามว่านี่คืองานอาสาหรือเปล่า พวกเขาบอกว่าเราทำงานในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว
แปลกดีที่การมาไต้หวันครั้งนี้ไม่มีเรื่องวุ่นวายที่เป็นเรื่องส่วนตัวแบบที่พี่เดินทางไปประเทศอื่นๆ มีเรื่องตกใจตอนได้ข่าวว่าม่าม้าหกล้มหัวโนแต่ทุกอย่างปลอดภัยดี สิ่งที่ผิดคาดคืออากาศร้อนกว่าที่เราคิด ฝนตกเพียง 2 ครั้งตอนวันไปและวันที่สามตอนข้ามเรือไปเที่ยวเกาะ ลูกแบกกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อฝน 5 ตัวมาทุกวัน ถ้าวันนั้นฝนไม่ตกเราจะไม่มีโอกาสพิสูจน์ว่ากระเป๋าเป้ใบใหม่ที่แม่ใส่เสื้อฝนมากันน้ำได้ 100% ตามที่คนขายโฆษณา
หลังจากพี่กลับจากไต้หวัน ขณะนั่งรอตัดผมที่ร้านประจำ ตาเหลือบไปเห็นนิตยสารแพรวที่อุทิศหนังสือทั้งเล่มพูดถึง #รักโลกไม่ต้องรอคนเริ่ม พี่รีบกระโดดคว้ามับนั่งอ่านจนหมดเล่มด้วยความดีใจว่าเมืองไทยเรามีการขับเคลื่อนเรื่องรักษ์โลกอย่างจริงจังเช่นกัน
ไม่น่าเชื่อว่าการได้มาท่องเที่ยวไต้หวันเพียง 4 วันเปลี่ยนวิธีคิดและทิ้งเมล็ดพันธุ์บางอย่างให้พี่พยายามมองหาหนทางในการสร้างโลกให้ดีขึ้น นี่คงเป็นบทพิสูจน์ข้อหนึ่งที่ยืนยันว่ากระแสแห่งความดีสามารถส่งต่อถึงกันและกันได้ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมของคนคิดดี ทำดี พูดดี
เรื่องเล่าที่ยิ่งใหญ่จากบุคคลที่ยิ่งใหญ่หรือวีระบุรุษผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก เขาเหล่านั้นมีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือความรักในงานที่ตนทำ การอุทิศตน ความหวังและความชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งเหล่านี้คือสารที่ส่งตรงถึงหัวใจผู้คนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าข้อมูล เพราะผลงานสำคัญกว่าคำพูด
พี่ไม่แปลกใจที่ได้เห็น “What If...We Could” หรือ “อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเราได้ทำ” ผุดพรายขึ้นทุกที่ในไต้หวัน สิ่งนี้ถูกถ่ายทอดถึงผู้มาเยือนได้อย่างคมชัดผ่านแรงบันดาลใจ ผ่านความรู้สึกรับผิดชอบ และผ่านการลงมือทำในทุกหนทาง รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาเยือนไต้หวันในวันที่ลูกๆ เติบโตเป็นวัยรุ่น เป็นความหวังลึกๆ ในหัวใจคนเป็นแม่ว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความดีจะถูกส่งต่อสู่ลูกทั้ง 3 คนเพื่อให้พวกเขากลับมาสร้างโลกให้ดีกว่าเดิมหลังกลับจากทริปสร้างแรงบันดาลใจนี้
รัก
พี่ณี
4/8/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150