Inner Journey
“อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเราทำได้” (ตอนที่ 1)
จั่วหัวเรื่องด้วยแคมเปญ “What if, We could” ที่น็อคพี่ลงกลางลานหน้าอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เป็นแคมเปญที่ทำให้พี่กลับมาถามตัวเองว่า “อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าพวกเราได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อโลกใบนี้”
ทริปไต้หวันช่วงสั้นๆ เพียง 4 วันเป็นทริปเล็กๆ ในช่วงปิดเทอมของครอบครัวเรา พี่เคยมาเที่ยวกับทัวร์ตอนลูกยังเล็กมาก แต่ทริปนี้พ่อและลูกตัดสินใจเลือกมาเที่ยวแบบไม่เช่ารถขับ แม้จะเป็นทริปที่สั้นที่สุด แต่ก็เป็นทริปที่เหมาะกับช่วงเวลาที่ลูกโตเป็นวัยรุ่นครบทุกคนที่สุดเช่นกัน
พี่ยุ่งมากหลังกลับจากฮังการีเพราะครู Karl-Heinz เพิ่งกลับไปเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา ครูกับพี่ทำงานติดกันตลอด 7 วันแบบไม่มีวันหยุด ครั้งนี้พี่แทบไม่ได้ช่วยอะไรปรางกับพี่สมบูรณ์เลย จัดเพียงเสื้อผ้าและเสื้อฝนเตรียมไว้อย่างเดียว วางใจนิ่งๆ ว่าไปไหนไปกัน เดี๋ยวเรื่องราวของสถานที่แต่ละแห่งจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง
ในมุมมองนักท่องเที่ยว การมาเที่ยวไม่ได้เป็นเพียงการพักผ่อน ไม่ใช่การให้รางวัลตัวเองแต่เป็นการเปิดมุมมองบางอย่าง พี่อยากเห็นเมืองที่เรามาเยือนลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิมและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทำอะไรเพื่อโลกเช่นกัน การได้มาเที่ยวไต้หวันช่วยตอบโจทย์นี้
ทริปนี้เราเลือกเดินทางโดยรถสาธารณะทั้งทริป ครั้งนี้พี่สมบูรณ์เปลี่ยนวิธีเดินทางจากนั่งรถไฟและเดินหาโรงแรมด้วย Google Map เป็นเรียกรถมาส่งหน้าโรงแรมเลย ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะได้เก็บแรงไว้เที่ยวต่อตอนบ่ายต่อ
เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง กว่าเราจะได้เข้าห้องพักเวลาก็ล่วงเลยไปถึงบ่ายสามโมง ฝนตกหนักจนแผนที่ปรางวางไว้ว่าจะออกไปกินข้าวเที่ยงร้านอร่อยต้องยกเลิกไป แม้ลูกเช็คพยากรณ์อากาศก่อนเดินทางว่าทริปนี้เราคงเจอฝนทุกวัน แต่ดูเหมือนพวกเรายังไม่พร้อมเปียกตั้งแต่วันแรก เราเลยเปลี่ยนแผนมาหาอะไรกินในโรงแรมแทน
พี่ตื่นเต้นกับรูปแบบการขายชาบูภายในโรงแรมที่มีให้เลือกทั้งเช็ทที่สำเร็จรูปกับเซ็ทที่เราเลือกวัตถุดิบเอง ราคาจับต้องได้ไม่ได้แพงจนน่ากลัว เราสองคนพ่อแม่เดินสำรวจโซนขายอาหารทั้งคาวและหวานอยู่หลายรอบเพราะแต่ละโซนมีรูปแบบต่างกัน พี่สมบูรณ์บอกว่าเราจะได้กินชาบูเป็นอาหารเช้าทุกวัน พี่เลยขอเลือกแบบซื้อวัตถุดิบมาปรุงเอง สนุกดีกับการหยิบอาหารที่ชอบใส่ตะกร้า เลือกน้ำซุปและจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เหมือนในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ในมุมของพี่เมื่อเรามีโอกาสเลือกอะไรสักอย่างให้ชีวิต เราอยากเลือกประสบการณ์ที่ทิ้งอะไรบางอย่างให้เราเรียนรู้และจดจำ หลายครั้งที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเลือกช่วยทำให้เราหยุดคิดเรื่องไกลตัวและกลับมาคิดถึงสิ่งใกล้ตัวได้ พี่เลือกน้ำซุปรสเผ็ดที่เห็นพริกสีแดงฉาน ลอยคู่กับใบกระวาน และโป๋ยกัก ทุกคนตื่นเต้นมากเมื่อเห็นเพราะสีดูเผ็ดร้อน แม้พี่จะกินเผ็ดไม่เก่ง แต่พี่อยากมีประสบการณ์ของความเผ็ดแบบไต้หวัน
ร้านอาหารที่นี่ชวนให้พี่คิดว่าแม้เราจะขายชาบูทุกมื้อเรายังสามารถเพิ่มรายละเอียดลงไปในงานและบริการที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องที่แตกต่างไปจากเดิม แม้เราจะเรียกว่า “ชาบู” เหมือนกันแต่กระบวนการแตกต่างกัน ลูกค้ากำลังเลือกบางอย่างที่สะท้อนความเป็นตัวเอง ทั้งสนุกและอร่อยไปกับสิ่งที่ตัวเองเลือก
กลับมาที่เห็นแคมเปญ What if, We Could ของกลุ่มอาสาสมัครที่ออกมาเชื้อเชิญคนทำความดี แม้พี่จะอ่านภาษาจีนไม่ออกสักตัว เห็นเพียงคำว่า Art อยู่ในป้ายโครงการ แต่ภาษากายที่ทุกคนสื่อทำให้พี่เข้าใจได้ว่าพวกเขากำลังสร้างต้นแบบของความดีผ่านเยาวชน
ขณะที่พี่กวาดสายตาไปรอบๆ พี่ได้เห็นวัยรุ่นจิตอาสาหลายคนนั่งอยู่รอบเวทีแสดง พี่เห็นวงโยธวาทิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังซ้อมอย่างขะมักเขม้น พี่เห็นคนหนุ่มสาวนั่งอยู่ในเต้นท์เพื่อชวนเชิญคุณพ่อคุณแม่มาทำกิจกรรมและเล่นเกมส์กับลูกๆ
ในฐานะนักท่องเที่ยวสิ่งเล็กๆ ที่ปรากฏตรงหน้าช่วยเตือนสติเราได้ทุกเรื่อง แม้แต่หลอดกระดาษจากร้านชานมไข่มุกเจ้าดังที่ตั้งอยู่ใต้ National Center and Concert Hall ภายในบริเวณอนุสรณ์สถาน ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างโลกให้น่าอยู่กว่าเดิมเช่นกัน
เรา 5 คนเลือกนั่งเล่นต่อแถวลานกว้างจนค่ำ บรรยากาศงดงามแตกต่างจากช่วงบ่าย ขณะที่ลูกๆ เดินไปหามุมใหม่ๆ ถ่ายรูป พี่ได้เห็นหนุ่มน้อยกวาดลานอนุสรณ์สถานอยู่ตามลำพัง โดยมีเพื่อน 4 คนกำลังปิดกระดาษกาวทับสายไฟบนทางเดินอย่างตั้งใจ แม้บรรยากาศรอบข้างจะพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว พี่กลับรู้สึกเหมือนเห็นภาพสโลโมชั่นของเด็กกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำเรื่องที่แตกต่างอยู่อย่างเงียบๆ
พี่เชื่อว่าการมาเที่ยวไต้หวันในช่วง 4 วันนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เราทั้ง 5 คนในการสร้างโลกให้น่าอยู่กว่าเดิม ติดตาม “อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเราทำได้” ต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
รัก
พี่ณี
27/7/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150
ทริปไต้หวันช่วงสั้นๆ เพียง 4 วันเป็นทริปเล็กๆ ในช่วงปิดเทอมของครอบครัวเรา พี่เคยมาเที่ยวกับทัวร์ตอนลูกยังเล็กมาก แต่ทริปนี้พ่อและลูกตัดสินใจเลือกมาเที่ยวแบบไม่เช่ารถขับ แม้จะเป็นทริปที่สั้นที่สุด แต่ก็เป็นทริปที่เหมาะกับช่วงเวลาที่ลูกโตเป็นวัยรุ่นครบทุกคนที่สุดเช่นกัน
พี่ยุ่งมากหลังกลับจากฮังการีเพราะครู Karl-Heinz เพิ่งกลับไปเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา ครูกับพี่ทำงานติดกันตลอด 7 วันแบบไม่มีวันหยุด ครั้งนี้พี่แทบไม่ได้ช่วยอะไรปรางกับพี่สมบูรณ์เลย จัดเพียงเสื้อผ้าและเสื้อฝนเตรียมไว้อย่างเดียว วางใจนิ่งๆ ว่าไปไหนไปกัน เดี๋ยวเรื่องราวของสถานที่แต่ละแห่งจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง
ในมุมมองนักท่องเที่ยว การมาเที่ยวไม่ได้เป็นเพียงการพักผ่อน ไม่ใช่การให้รางวัลตัวเองแต่เป็นการเปิดมุมมองบางอย่าง พี่อยากเห็นเมืองที่เรามาเยือนลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิมและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทำอะไรเพื่อโลกเช่นกัน การได้มาเที่ยวไต้หวันช่วยตอบโจทย์นี้
ทริปนี้เราเลือกเดินทางโดยรถสาธารณะทั้งทริป ครั้งนี้พี่สมบูรณ์เปลี่ยนวิธีเดินทางจากนั่งรถไฟและเดินหาโรงแรมด้วย Google Map เป็นเรียกรถมาส่งหน้าโรงแรมเลย ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะได้เก็บแรงไว้เที่ยวต่อตอนบ่ายต่อ
เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง กว่าเราจะได้เข้าห้องพักเวลาก็ล่วงเลยไปถึงบ่ายสามโมง ฝนตกหนักจนแผนที่ปรางวางไว้ว่าจะออกไปกินข้าวเที่ยงร้านอร่อยต้องยกเลิกไป แม้ลูกเช็คพยากรณ์อากาศก่อนเดินทางว่าทริปนี้เราคงเจอฝนทุกวัน แต่ดูเหมือนพวกเรายังไม่พร้อมเปียกตั้งแต่วันแรก เราเลยเปลี่ยนแผนมาหาอะไรกินในโรงแรมแทน
พี่ตื่นเต้นกับรูปแบบการขายชาบูภายในโรงแรมที่มีให้เลือกทั้งเช็ทที่สำเร็จรูปกับเซ็ทที่เราเลือกวัตถุดิบเอง ราคาจับต้องได้ไม่ได้แพงจนน่ากลัว เราสองคนพ่อแม่เดินสำรวจโซนขายอาหารทั้งคาวและหวานอยู่หลายรอบเพราะแต่ละโซนมีรูปแบบต่างกัน พี่สมบูรณ์บอกว่าเราจะได้กินชาบูเป็นอาหารเช้าทุกวัน พี่เลยขอเลือกแบบซื้อวัตถุดิบมาปรุงเอง สนุกดีกับการหยิบอาหารที่ชอบใส่ตะกร้า เลือกน้ำซุปและจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เหมือนในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ในมุมของพี่เมื่อเรามีโอกาสเลือกอะไรสักอย่างให้ชีวิต เราอยากเลือกประสบการณ์ที่ทิ้งอะไรบางอย่างให้เราเรียนรู้และจดจำ หลายครั้งที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเลือกช่วยทำให้เราหยุดคิดเรื่องไกลตัวและกลับมาคิดถึงสิ่งใกล้ตัวได้ พี่เลือกน้ำซุปรสเผ็ดที่เห็นพริกสีแดงฉาน ลอยคู่กับใบกระวาน และโป๋ยกัก ทุกคนตื่นเต้นมากเมื่อเห็นเพราะสีดูเผ็ดร้อน แม้พี่จะกินเผ็ดไม่เก่ง แต่พี่อยากมีประสบการณ์ของความเผ็ดแบบไต้หวัน
ร้านอาหารที่นี่ชวนให้พี่คิดว่าแม้เราจะขายชาบูทุกมื้อเรายังสามารถเพิ่มรายละเอียดลงไปในงานและบริการที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องที่แตกต่างไปจากเดิม แม้เราจะเรียกว่า “ชาบู” เหมือนกันแต่กระบวนการแตกต่างกัน ลูกค้ากำลังเลือกบางอย่างที่สะท้อนความเป็นตัวเอง ทั้งสนุกและอร่อยไปกับสิ่งที่ตัวเองเลือก
กลับมาที่เห็นแคมเปญ What if, We Could ของกลุ่มอาสาสมัครที่ออกมาเชื้อเชิญคนทำความดี แม้พี่จะอ่านภาษาจีนไม่ออกสักตัว เห็นเพียงคำว่า Art อยู่ในป้ายโครงการ แต่ภาษากายที่ทุกคนสื่อทำให้พี่เข้าใจได้ว่าพวกเขากำลังสร้างต้นแบบของความดีผ่านเยาวชน
ขณะที่พี่กวาดสายตาไปรอบๆ พี่ได้เห็นวัยรุ่นจิตอาสาหลายคนนั่งอยู่รอบเวทีแสดง พี่เห็นวงโยธวาทิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังซ้อมอย่างขะมักเขม้น พี่เห็นคนหนุ่มสาวนั่งอยู่ในเต้นท์เพื่อชวนเชิญคุณพ่อคุณแม่มาทำกิจกรรมและเล่นเกมส์กับลูกๆ
ในฐานะนักท่องเที่ยวสิ่งเล็กๆ ที่ปรากฏตรงหน้าช่วยเตือนสติเราได้ทุกเรื่อง แม้แต่หลอดกระดาษจากร้านชานมไข่มุกเจ้าดังที่ตั้งอยู่ใต้ National Center and Concert Hall ภายในบริเวณอนุสรณ์สถาน ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างโลกให้น่าอยู่กว่าเดิมเช่นกัน
เรา 5 คนเลือกนั่งเล่นต่อแถวลานกว้างจนค่ำ บรรยากาศงดงามแตกต่างจากช่วงบ่าย ขณะที่ลูกๆ เดินไปหามุมใหม่ๆ ถ่ายรูป พี่ได้เห็นหนุ่มน้อยกวาดลานอนุสรณ์สถานอยู่ตามลำพัง โดยมีเพื่อน 4 คนกำลังปิดกระดาษกาวทับสายไฟบนทางเดินอย่างตั้งใจ แม้บรรยากาศรอบข้างจะพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว พี่กลับรู้สึกเหมือนเห็นภาพสโลโมชั่นของเด็กกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำเรื่องที่แตกต่างอยู่อย่างเงียบๆ
พี่เชื่อว่าการมาเที่ยวไต้หวันในช่วง 4 วันนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เราทั้ง 5 คนในการสร้างโลกให้น่าอยู่กว่าเดิม ติดตาม “อะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเราทำได้” ต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
รัก
พี่ณี
27/7/62
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309150