Inner Journey
ณ จุดเปลี่ยนผ่านแห่งกาลเวลา
หลายครั้งความภาคภูมิใจในชีวิตเกิดจากการได้ย้อนระลึกถึงความหลังเพื่อมองไปยังอนาคต เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า ในฐานะคนไทยที่เติบโตบนพื้นแผ่นดินไทยมา 50 กว่าปี เราอยากเห็นอนาคตประเทศไทยเป็นอย่างไร
ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนซางตาครู้ส คอนแวนต์ ที่เติบโตมาใต้พระบรมโพธิสมภารของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เรารับรู้ได้ถึงพระราชกรณีกิจของพระองค์ท่านผ่านงานที่มาเซอร์และคุณครูประจำชั้นมอบหมายให้พวกเราจัดบอร์ดทั้งในห้องและบอร์ดหน้าโรงเรียนทุกอาทิตย์
เป็นโชคดีที่บ้านพี่รับหนังสือสกุลไทยและขวัญเรือนเป็นประจำทำให้พี่มีช่วงเวลาที่จดจำยามได้รับมอบหมายให้จัดบอร์ดเสมอ หนังสือสกุลไทยถือเป็นหนังสือภาพที่ดีที่สุดที่พสกนิกรชาวไทยสามารถเชื่อมต่อและรับรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้านายทุกพระองค์ได้
สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้น ระหว่างจัดบอร์ดเราได้ประชุมกันในกลุ่มเล็กๆ เพื่อคัดเลือกภาพที่ดีที่สุดและเรื่องราวที่เราอยากนำเสนอมากที่สุด สกุลไทยเป็นหนังสือที่ประมวลภาพของพระราชวงศ์ทุกพระองค์ให้เราคัดเลือกมาจัดบอร์ดอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติทุกครั้ง
ในยามเด็กสิ่งที่พี่เฝ้ารอคืออยากเห็นเจ้านายทุกพระองค์เคลื่อนไหวบนหน้าจอโทรทัศน์ ดังนั้น การได้นั่งดูข่าวในพระราชสำนักตอนสองทุ่มทุกวันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และเป็นช่วงเวลาพิเศษที่เราจะได้รับอนุญาตให้ดูทีวีได้ก่อนขึ้นนอนหลังข่าวในพระราชสำนักจบ
สมัยก่อนทีวีมีเพียง 4 ช่อง ละครยังมีคนยืนพากย์อยู่ข้างๆ วิทยุคืออีกหนึ่งช่องทางที่เราได้รับฟังข่าวสารจากบ้านเมือง จำได้ว่าแม่เปิดวิทยุทุกเช้าและพี่จะได้ยินบทเพลงพระราชนิพนธ์หรือเพลงปลุกใจยามขาติต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชน
กลับมาดูสิ่งที่ศิษย์รุ่นลูกแสดงความรักและความจงรักภักดีผ่านบทเพลง "พระราชาในนิทาน" ทำให้พี่เห็นชัดเจนว่าอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไรถ้านักเรียนทุกคนยังคงยึดมั่นในคุณค่าร่วมและหล่อหลอมหัวใจให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยดนตรีและศิลปะร่วมสมัย
สมัยก่อนที่โรงเรียนยังเป็นตึกไม้ 2 ชั้นทุกวันศุกร์ต้องลงเทียนขัดพื้นให้มันวับ "ประแตน" คือรองเท้าขัดพื้นที่ไม่แน่ใจว่าศิษย์รุ่นหลังยังได้ใช้หรือไม่
วันนี้เรามีอาคารหลังใหม่ที่โอ่โถงสะท้อนภาพของโรงเรียนอายุเกิน 100 ปีได้อย่างสง่างาม. พี่เชื่อเหลือเกินว่า "คุณค่าร่วม" ที่เราถูกหล่อหลอมผ่านบรรยากาศการเรียนรู้จะช่วยให้เรารับมือกับอนาคตได้อย่างมีจุดยืน
ณ จุดเปลี่ยนผ่านแห่งการเวลานี้ โรงเรียนแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์รวมของความรักและความจงรักภักดีที่เราทุกคนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่มีเสื่อมคลาย แม้กาลเวลาจะล่วงเลยและความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะล้ำสมัยเพียงใด
บรรยากาศเหล่านี้หรือไม่ ที่ช่วยหล่อหลอมให้ศิษย์ในอดีตและศิษย์ปัจจุบันทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของภารกิจชาติที่เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน
ขอกราบขอบคุณมาเซอร์ คณาจารย์และนักเรียนโรงเรียนซางตาครู้ส คอนแวนต์ทุกคนที่ส่งบทเพลงนี้มาหล่อเลี้ยงหัวใจและย้ำเตือนศิษย์ทุกรุ่นให้ทำดีเพื่อรับใช้ชาติบ้านเมืองสืบไป
รัก
พี่ณี
ศิษย์เก่า ป.7 และ ม.ศ. 5 รุ่นสุดท้าย
27/10/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-530915
ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนซางตาครู้ส คอนแวนต์ ที่เติบโตมาใต้พระบรมโพธิสมภารของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เรารับรู้ได้ถึงพระราชกรณีกิจของพระองค์ท่านผ่านงานที่มาเซอร์และคุณครูประจำชั้นมอบหมายให้พวกเราจัดบอร์ดทั้งในห้องและบอร์ดหน้าโรงเรียนทุกอาทิตย์
เป็นโชคดีที่บ้านพี่รับหนังสือสกุลไทยและขวัญเรือนเป็นประจำทำให้พี่มีช่วงเวลาที่จดจำยามได้รับมอบหมายให้จัดบอร์ดเสมอ หนังสือสกุลไทยถือเป็นหนังสือภาพที่ดีที่สุดที่พสกนิกรชาวไทยสามารถเชื่อมต่อและรับรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้านายทุกพระองค์ได้
สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้น ระหว่างจัดบอร์ดเราได้ประชุมกันในกลุ่มเล็กๆ เพื่อคัดเลือกภาพที่ดีที่สุดและเรื่องราวที่เราอยากนำเสนอมากที่สุด สกุลไทยเป็นหนังสือที่ประมวลภาพของพระราชวงศ์ทุกพระองค์ให้เราคัดเลือกมาจัดบอร์ดอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติทุกครั้ง
ในยามเด็กสิ่งที่พี่เฝ้ารอคืออยากเห็นเจ้านายทุกพระองค์เคลื่อนไหวบนหน้าจอโทรทัศน์ ดังนั้น การได้นั่งดูข่าวในพระราชสำนักตอนสองทุ่มทุกวันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และเป็นช่วงเวลาพิเศษที่เราจะได้รับอนุญาตให้ดูทีวีได้ก่อนขึ้นนอนหลังข่าวในพระราชสำนักจบ
สมัยก่อนทีวีมีเพียง 4 ช่อง ละครยังมีคนยืนพากย์อยู่ข้างๆ วิทยุคืออีกหนึ่งช่องทางที่เราได้รับฟังข่าวสารจากบ้านเมือง จำได้ว่าแม่เปิดวิทยุทุกเช้าและพี่จะได้ยินบทเพลงพระราชนิพนธ์หรือเพลงปลุกใจยามขาติต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชน
กลับมาดูสิ่งที่ศิษย์รุ่นลูกแสดงความรักและความจงรักภักดีผ่านบทเพลง "พระราชาในนิทาน" ทำให้พี่เห็นชัดเจนว่าอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไรถ้านักเรียนทุกคนยังคงยึดมั่นในคุณค่าร่วมและหล่อหลอมหัวใจให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยดนตรีและศิลปะร่วมสมัย
สมัยก่อนที่โรงเรียนยังเป็นตึกไม้ 2 ชั้นทุกวันศุกร์ต้องลงเทียนขัดพื้นให้มันวับ "ประแตน" คือรองเท้าขัดพื้นที่ไม่แน่ใจว่าศิษย์รุ่นหลังยังได้ใช้หรือไม่
วันนี้เรามีอาคารหลังใหม่ที่โอ่โถงสะท้อนภาพของโรงเรียนอายุเกิน 100 ปีได้อย่างสง่างาม. พี่เชื่อเหลือเกินว่า "คุณค่าร่วม" ที่เราถูกหล่อหลอมผ่านบรรยากาศการเรียนรู้จะช่วยให้เรารับมือกับอนาคตได้อย่างมีจุดยืน
ณ จุดเปลี่ยนผ่านแห่งการเวลานี้ โรงเรียนแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์รวมของความรักและความจงรักภักดีที่เราทุกคนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่มีเสื่อมคลาย แม้กาลเวลาจะล่วงเลยและความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะล้ำสมัยเพียงใด
บรรยากาศเหล่านี้หรือไม่ ที่ช่วยหล่อหลอมให้ศิษย์ในอดีตและศิษย์ปัจจุบันทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของภารกิจชาติที่เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน
ขอกราบขอบคุณมาเซอร์ คณาจารย์และนักเรียนโรงเรียนซางตาครู้ส คอนแวนต์ทุกคนที่ส่งบทเพลงนี้มาหล่อเลี้ยงหัวใจและย้ำเตือนศิษย์ทุกรุ่นให้ทำดีเพื่อรับใช้ชาติบ้านเมืองสืบไป
รัก
พี่ณี
ศิษย์เก่า ป.7 และ ม.ศ. 5 รุ่นสุดท้าย
27/10/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-530915