Biography สัมภาษณ์พิเศษ
ลูกสาวคนโต (ตอนจบ)
แม่: ปรางมองอนาคตตัวเองอย่างไรคะ
ปราง: ปรางคงทำงานหาเงิน เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง ปรางทำได้ทุกงานเลย ไม่ได้คิดเหมือนปัญญ์ที่อยากทำงานเพื่อคนอื่น เพื่อสังคมเหมือนกับวง BTS (นักร้องเกาหลี) ปรางทำงานอะไรก็ได้ที่ได้ช่วยคนเพียงคนเดียวแค่นั้นก็พอ ปรางคิดว่าปรางช่วยเขาได้ ปรางฟังปัญหาของเขาได้
ปราง: แม่ก็รู้ว่าปรางไม่ใช่คนยอคนหรือต่อว่าคนอื่นเวลามีใครมาเล่าอะไรให้ปรางฟัง ถ้าเขาอยากรู้วิธีแก้ปัญหาปรางจะพูดความจริงที่ปรางคิดให้ฟัง อยู่ที่เขาจะรับฟังและเอาไปปรับใช้หรือเปล่า ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร
แม่: ปรางคิดว่าการที่ปรางเป็นนักฟังที่ดีมันช่วยอะไรปรางคะ
ปราง: มันช่วยให้ปรางมองได้หลายมุมมากขึ้น รู้ว่ามีคนอื่นคิดแบบนี้ด้วย
แม่: ตอนเด็กๆ ปรางไม่ชอบเวลาที่แม่พูดว่า “แม่บอกแล้วไง” ปรางจะโกรธมาก
ปราง: จำไม่ได้แล้วนะว่าไม่ชอบประโยคนี้ แต่ตอนนี้ปรางจะไม่ชอบถ้ามีผู้ใหญ่มาพูดว่า “อาบน้ำร้อนมาก่อน” เพราะน้ำร้อนในแต่ละสมัยไม่เหมือนกัน น้ำร้อนในสมัยปรางมีมลพิษมากขึ้น ปรางไม่ชอบผู้ใหญ่ที่คิดแบบ stereotype บอกได้นะว่ามันจะมีปัญหาอะไรแต่ไม่ควรบอกว่าเราต้องแก้ปัญหาเหมือนกัน เพราะมันมี factor หลายอย่างให้พิจารณา
แม่: ถ้าเลือกบริษัทที่ปรางอยากทำงานด้วยหลังเรียนจบแล้ว ปรางอยากทำงานกับบริษัทแบบไหนคะ
ปราง: ปรางคงไม่เลือกทำงานในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับระบบความอาวุโส คนแก่ = ถูกเสมอ เพราะมันจะไม่ไปไหน วนอยู่กับที่ ปรางอยากทำงานกับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกัน
แม่: ปรางคิดว่าการเตรียมตัว 21 ปีแรกสำคัญไหมคะ
ปราง: ปรางคิดว่าสำคัญนะ แต่ไม่ควร fix ว่ามันจะเกิดแบบนั้นแบบนี้ รู้ว่าอะไรจะเกิดล่วงหน้าได้แต่ต้องปรับให้เข้ากับวัยของเด็ก อย่างช่วง 7 ปีสุดท้ายที่เรากำลังเป็นวัยรุ่น เรายังต้องการพ่อแม่ให้อยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือเราจนกว่าจะอายุครบ 21 ปี แต่ถ้าอายุ 21 ไปแล้วก็ไม่ต้องแล้ว เรายืนด้วยตัวเองได้แล้ว
แม่: ตอนนี้ปรางบรรลุนิติภาวะแล้ว ปรางมองตัวเองอย่างไรคะ
ปราง: อืม..มันเหมือนทุกอย่างจบแล้วนะ ปรางรู้ว่าปรางเป็นใคร ปรางชอบอะไร เหมือนทุกอย่างเต็มแล้ว ปรางไม่สามารถรับสิ่งที่แม่สอนอีก 500 เรื่องอัดเข้ามาในหัวปรางได้อีก แม่อาจบอกได้ว่ามีเหวอยู่ข้างหน้าระวังนะ ปรางอยากตกเหวและขึ้นมาด้วยตัวปรางเอง ไม่ต้องดึงปรางไว้
ปราง: ตอนนี้ปรางก็รู้สึกดีที่ไปไหมมาไหนเองไม่ต้องรอพ่อไปส่ง แต่ปรางรู้ว่าครอบครัวเรายังไม่อิสระขนาดนั้น ปรางยังโอเคที่เราไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันเหมือนที่เราเป็นทุกวันนี้ ปรางสนิทกับปัญญ์ที่สุดในบ้าน ปรางเล่าเรื่องของตัวเองให้น้องฟังแต่ก็ไม่ได้เล่าทุกเรื่องนะ
แม่: ถ้าปรางมีโอกาสไปอยู่ข้างนอกได้ ปรางจะไปไหมคะ
ปราง: ถ้าปรางจะไปก็ไม่อยากให้แม่ห้าม
แม่: ปรางมองว่าสถาบันครอบครัวคืออะไรคะ
ปราง: ปรางคิดว่ามันคือ Progress นะ ปรางชอบเห็น progress เพราะมันคือการเติบโตไปข้างหน้า เราไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง เลือกคุณค่าด้วยตัวเอง
แม่: แล้วปรางมองว่าตอนนี้ครอบครัวเรามี progress ไหมคะ
ปราง: มีสิ ตอนนี้ปรางเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในครอบครัวเรา อย่างคนอายุเยอะๆ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ มันทำให้ปรางเรียนรู้ว่าถ้าปรางแก่ตัวลงปรางก็จะรับฟังเด็กๆ แก้ไขและเติบโตไปด้วยกัน
แม่: ขอบคุณปรางมากนะคะ ขอกอดหนูหน่อยค่ะ
ปราง: เราต้องกอดกันด้วยเหรอ (กอด)
แม่: แม่รักหนูนะคะ (กอด)
ปราง: รักแม่ (กอด)
รัก
พี่ณี
9/5/63
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
ปราง: ปรางคงทำงานหาเงิน เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง ปรางทำได้ทุกงานเลย ไม่ได้คิดเหมือนปัญญ์ที่อยากทำงานเพื่อคนอื่น เพื่อสังคมเหมือนกับวง BTS (นักร้องเกาหลี) ปรางทำงานอะไรก็ได้ที่ได้ช่วยคนเพียงคนเดียวแค่นั้นก็พอ ปรางคิดว่าปรางช่วยเขาได้ ปรางฟังปัญหาของเขาได้
ปราง: แม่ก็รู้ว่าปรางไม่ใช่คนยอคนหรือต่อว่าคนอื่นเวลามีใครมาเล่าอะไรให้ปรางฟัง ถ้าเขาอยากรู้วิธีแก้ปัญหาปรางจะพูดความจริงที่ปรางคิดให้ฟัง อยู่ที่เขาจะรับฟังและเอาไปปรับใช้หรือเปล่า ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร
แม่: ปรางคิดว่าการที่ปรางเป็นนักฟังที่ดีมันช่วยอะไรปรางคะ
ปราง: มันช่วยให้ปรางมองได้หลายมุมมากขึ้น รู้ว่ามีคนอื่นคิดแบบนี้ด้วย
แม่: ตอนเด็กๆ ปรางไม่ชอบเวลาที่แม่พูดว่า “แม่บอกแล้วไง” ปรางจะโกรธมาก
ปราง: จำไม่ได้แล้วนะว่าไม่ชอบประโยคนี้ แต่ตอนนี้ปรางจะไม่ชอบถ้ามีผู้ใหญ่มาพูดว่า “อาบน้ำร้อนมาก่อน” เพราะน้ำร้อนในแต่ละสมัยไม่เหมือนกัน น้ำร้อนในสมัยปรางมีมลพิษมากขึ้น ปรางไม่ชอบผู้ใหญ่ที่คิดแบบ stereotype บอกได้นะว่ามันจะมีปัญหาอะไรแต่ไม่ควรบอกว่าเราต้องแก้ปัญหาเหมือนกัน เพราะมันมี factor หลายอย่างให้พิจารณา
แม่: ถ้าเลือกบริษัทที่ปรางอยากทำงานด้วยหลังเรียนจบแล้ว ปรางอยากทำงานกับบริษัทแบบไหนคะ
ปราง: ปรางคงไม่เลือกทำงานในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับระบบความอาวุโส คนแก่ = ถูกเสมอ เพราะมันจะไม่ไปไหน วนอยู่กับที่ ปรางอยากทำงานกับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกัน
แม่: ปรางคิดว่าการเตรียมตัว 21 ปีแรกสำคัญไหมคะ
ปราง: ปรางคิดว่าสำคัญนะ แต่ไม่ควร fix ว่ามันจะเกิดแบบนั้นแบบนี้ รู้ว่าอะไรจะเกิดล่วงหน้าได้แต่ต้องปรับให้เข้ากับวัยของเด็ก อย่างช่วง 7 ปีสุดท้ายที่เรากำลังเป็นวัยรุ่น เรายังต้องการพ่อแม่ให้อยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือเราจนกว่าจะอายุครบ 21 ปี แต่ถ้าอายุ 21 ไปแล้วก็ไม่ต้องแล้ว เรายืนด้วยตัวเองได้แล้ว
แม่: ตอนนี้ปรางบรรลุนิติภาวะแล้ว ปรางมองตัวเองอย่างไรคะ
ปราง: อืม..มันเหมือนทุกอย่างจบแล้วนะ ปรางรู้ว่าปรางเป็นใคร ปรางชอบอะไร เหมือนทุกอย่างเต็มแล้ว ปรางไม่สามารถรับสิ่งที่แม่สอนอีก 500 เรื่องอัดเข้ามาในหัวปรางได้อีก แม่อาจบอกได้ว่ามีเหวอยู่ข้างหน้าระวังนะ ปรางอยากตกเหวและขึ้นมาด้วยตัวปรางเอง ไม่ต้องดึงปรางไว้
ปราง: ตอนนี้ปรางก็รู้สึกดีที่ไปไหมมาไหนเองไม่ต้องรอพ่อไปส่ง แต่ปรางรู้ว่าครอบครัวเรายังไม่อิสระขนาดนั้น ปรางยังโอเคที่เราไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันเหมือนที่เราเป็นทุกวันนี้ ปรางสนิทกับปัญญ์ที่สุดในบ้าน ปรางเล่าเรื่องของตัวเองให้น้องฟังแต่ก็ไม่ได้เล่าทุกเรื่องนะ
แม่: ถ้าปรางมีโอกาสไปอยู่ข้างนอกได้ ปรางจะไปไหมคะ
ปราง: ถ้าปรางจะไปก็ไม่อยากให้แม่ห้าม
แม่: ปรางมองว่าสถาบันครอบครัวคืออะไรคะ
ปราง: ปรางคิดว่ามันคือ Progress นะ ปรางชอบเห็น progress เพราะมันคือการเติบโตไปข้างหน้า เราไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง เลือกคุณค่าด้วยตัวเอง
แม่: แล้วปรางมองว่าตอนนี้ครอบครัวเรามี progress ไหมคะ
ปราง: มีสิ ตอนนี้ปรางเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในครอบครัวเรา อย่างคนอายุเยอะๆ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ มันทำให้ปรางเรียนรู้ว่าถ้าปรางแก่ตัวลงปรางก็จะรับฟังเด็กๆ แก้ไขและเติบโตไปด้วยกัน
แม่: ขอบคุณปรางมากนะคะ ขอกอดหนูหน่อยค่ะ
ปราง: เราต้องกอดกันด้วยเหรอ (กอด)
แม่: แม่รักหนูนะคะ (กอด)
ปราง: รักแม่ (กอด)
รัก
พี่ณี
9/5/63
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150