Biography สัมภาษณ์พิเศษ
ลูกสาวคนโต (ตอนที่ 1)
ลูกสาวคนโตสามารถเป็นได้ทั้ง “ผู้ต่อต้าน” หรือ “ผู้พิทักษ์” กฎระเบียบหรือความเชื่อเดิมของครอบครัว พี่คนโตเป็นผู้นำ เป็นสะพานเชื่อมโลกอดีตกับอนาคต เป็นกำแพงกั้นกลางระหว่างพ่อแม่กับน้องลำดับถัดไป เป็นคนกลางผู้ไกล่เกลี่ย เป็นตอหม้อสะพานให้น้องได้ก้าวข้ามผ่าน
จากบทสรุปภาพสากลของลูกสาวคนโตด้านบน วันนี้เราจะรับฟังมุมมองของพี่คนโตที่เรียนรู้โลกผ่านพลังเจตจำนงไปพร้อมกันค่ะ
แม่: ปีนี้ปรางอายุย่างเข้า 22 เป็นพี่คนโตของบ้านรู้สึกอย่างไรคะ
ปราง: ก็รู้สึกว่าตัวเองยังต้องมีน้องให้ดูแล อายุเราต่างกัน เวลายุ่งๆ ก็ต้องจัดเวลามาอยู่กับน้อง ปรางเป็นลูกคนโตไม่มีใครให้ถามต้องทำด้วยตัวเอง บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าบางเรื่องน้องไม่ทำเอง ตอนเด็กๆ เรื่องแบบนี้ปรางทำเองไปแล้ว ปรางติดต่อเอง คิดเองว่าต้องทำอย่างไรโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องบอก
แม่: น้องสาวและน้องชายแตกต่างกันไหมคะ
ปราง: ปรางคิดว่าไม่เกี่ยวกับเพศสภาพนะแต่เกี่ยวกับนิสัยและบุคลิกของแต่ละคน
แม่: จริงหรือเปล่าที่ลูกสาวคนโตคือนักปฏิวัติของครอบครัว ปรางคิดอย่างไรคะ
ปราง: ปรางคิดว่าคงลุกขึ้นมาปฏิวัติพ่อแม่หรือทุกคนในบ้านไม่ได้เพราะคุณค่าของเราทุกคนต่างกัน ปรางรับผิดชอบไม่ไหว ปรางคิดว่าปรางชอบปฏิวัติตัวเองมากกว่า
แม่: ปรางให้คุณค่ากับเรื่องอะไรคะ
ปราง: ปรางให้คุณค่ากับความเท่าเทียมกัน ไม่ชอบมองคนแบบ Stereotyped ที่บอกว่าผู้หญิงต้องเป็นแบบนี้ ผู้ชายต้องเป็นแบบนี้ อย่างพ่อบอกว่าผู้หญิงต้องตื่นเช้า โอมบอกว่าแม่ต้องทำกับข้าว ปรางมองว่าแบบนี้เป็น Stereotype แบบหัวโบราณเกินไป สำหรับปรางแม่ไม่ต้องทำกับข้าวก็ได้ ซื้อเข้ามากินได้ปรางไม่ซีเรียส นอกจากแม่อยากทำจริงๆ
แม่: ปรางบอกว่าชอบปฏิวัติตัวเองมากกว่า หมายถึงอะไรคะ
ปราง: ก็เป็นในแบบที่ปรางเป็นในวันนี้ ทุกวันนี้ปรางพอใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากขึ้น ตอนเด็กๆ ไม่คิดว่าตัวเองอ้วน คิดว่าตัวเองเหมือนเพื่อนๆ พออยู่ ม.2 ก็ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าตัวเองอ้วน อยากผอม อยากลดน้ำหนักมานานตั้งแต่ตอนนั้น แต่ทำไม่ได้เพราะที่โรงเรียนมีงานเยอะ ต้องเรียนให้จบ ม.6 ก่อน
แม่: ปรางคิดว่าทำไมปรางถึงคิดแบบนี้หรือรู้ว่าตัวเองชอบแบบนี้คะ
ปราง: อันนี้ตอบยากเพราะมีหลาย Facters มาก มันบอกไม่ได้เพราะปรางเกิดเป็นลูกพ่อ ลูกแม่ เกิดในครอบครัวนี้ มีพี่น้องแบบนี้ มีเพื่อนและเรียนโรงเรียนแบบนี้ มันคือปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวปราง
แม่: แล้วประสบการณ์ในโรงเรียนวอลดอร์ฟช่วยหล่อหลอมปรางอย่างไร
ปราง: ปรางคิดว่าโรงเรียนเรา serve ประสบการณ์ มัน Diversity มากอยู่ที่เราว่ามีวินัยในการเรียนหรือเปล่า โรงเรียนเตรียมให้เรามีทักษะหลายอย่าง ปรางคิดว่าการเรียนโรงเรียนแบบเราวินัยเป็นเรื่องสำคัญ
แม่: “วินัย” สำคัญอย่างไรคะ
ปราง: มันทำให้เราไม่ลอยมาลอยไป ต้องรับผิดชอบการบ้านหรืองานที่ครูให้ แต่ถ้าคิดว่าไม่เป็นไร ไม่ส่งการบ้านก็ได้ อันนี้ปรางคิดว่าไม่ใช่แล้ว ออกไปเรียนกระแสหลักดีกว่า อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าตัวเองเก่งหรืออ่อนวิชาอะไร จะได้ไปเสริมในด้านนั้น
แม่: ปรางคิดว่าตัวเองถนัดด้านไหนคะ
ปราง: ปรางอาจจะเด่นเรื่องความฉลาดทางสติปัญญาซึ่งเป็นเรื่องที่คนทั่วไปเขาให้คุณค่ากัน จริงๆ แล้วถ้าไปวัดความฉลาดเรื่องกีฬา ความฉลาดด้านทิศทางหรือความฉลาดด้านอื่นปรางทำได้นะ แต่ไม่เท่าเรื่องนี้
แม่: ปรางคิดว่าความฉลาดด้านสติปัญญาเกิดได้อย่างไรคะ
ปราง: ไม่รู้เหมือนกันจำได้ว่าตอน ป.6 เรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ปรางมาถามแม่แล้วยังไม่รู้เลยว่า “I am” ใช้อย่างไร แต่อยู่ๆ มันก็รู้ขึ้นมา ตอนนี้เวลาปรางเห็นใครเขียน Grammar ภาษาญี่ปุ่นหรือเกาหลีผิด อยากเอามาแก้มาก เหมือนเลขปรางก็ไม่เข้าใจ ปรางไปถามพ่อ ตอนหลังก็เข้าใจเองไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร
แม่: แม่จำได้ว่าปรางชอบภาษาญี่ปุ่น ปรางมีวิธีเรียนอย่างไรคะ
ปราง: น่าจะเกิดจากปรางอยากดูนารูโตะได้โดยไม่ต้องมี subtitle (การ์ตูนญี่ปุ่น) ปรางเลยเริ่มเรียนเองตั้งแต่ ม.2 และไปเรียนพิเศษตอน ม.4-ม.5 หลังจากนั้นก็ทิ้งไปเลยไม่ได้เรียนอีกเลย
แม่: ปรางช่วยเล่าประสบการณ์ตอน Entrance เข้ามหาวิทยาลัยให้ฟังหน่อยสิคะ
ปราง: ปรางไปดูคณะสอบกับเพื่อน เพิ่งรู้ว่าถ้าจะเข้านิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ต้องยื่นคะแนน GAT-PAT ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม ปรางมารู้เอาวันสุดท้ายเรื่องการยื่นคะแนน ปรางมีเวลาแค่ 2 อาทิตย์ก่อนสอบและปรางเลือกภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่สาม ปรางเลยใช้วิธีอ่านหนังสือเองทั้ง 3 วิชาโดยไม่ได้ไปเรียนพิเศษ
แม่: ตอนปรางเข้ามหาวิทยาลัยต้องปรับตัวเยอะไหมคะ
ปราง: ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่นะ ยิ่งตอนนี้ปรางชอบมาก ปรางกับเพื่อนที่คณะเจอกันก็คุยกัน เวลากินข้าวก็แยกย้ายกันไปกินข้าวแล้วกลับมาเจอกันใหม่ ปรางชอบความสัมพันธ์แบบนี้ที่เรามีอิสระต่อกัน ไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา
ติดตามวิธีมองโลกของพี่คนโตได้ต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
รัก
พี่ณี
7/5/63
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
จากบทสรุปภาพสากลของลูกสาวคนโตด้านบน วันนี้เราจะรับฟังมุมมองของพี่คนโตที่เรียนรู้โลกผ่านพลังเจตจำนงไปพร้อมกันค่ะ
แม่: ปีนี้ปรางอายุย่างเข้า 22 เป็นพี่คนโตของบ้านรู้สึกอย่างไรคะ
ปราง: ก็รู้สึกว่าตัวเองยังต้องมีน้องให้ดูแล อายุเราต่างกัน เวลายุ่งๆ ก็ต้องจัดเวลามาอยู่กับน้อง ปรางเป็นลูกคนโตไม่มีใครให้ถามต้องทำด้วยตัวเอง บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าบางเรื่องน้องไม่ทำเอง ตอนเด็กๆ เรื่องแบบนี้ปรางทำเองไปแล้ว ปรางติดต่อเอง คิดเองว่าต้องทำอย่างไรโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องบอก
แม่: น้องสาวและน้องชายแตกต่างกันไหมคะ
ปราง: ปรางคิดว่าไม่เกี่ยวกับเพศสภาพนะแต่เกี่ยวกับนิสัยและบุคลิกของแต่ละคน
แม่: จริงหรือเปล่าที่ลูกสาวคนโตคือนักปฏิวัติของครอบครัว ปรางคิดอย่างไรคะ
ปราง: ปรางคิดว่าคงลุกขึ้นมาปฏิวัติพ่อแม่หรือทุกคนในบ้านไม่ได้เพราะคุณค่าของเราทุกคนต่างกัน ปรางรับผิดชอบไม่ไหว ปรางคิดว่าปรางชอบปฏิวัติตัวเองมากกว่า
แม่: ปรางให้คุณค่ากับเรื่องอะไรคะ
ปราง: ปรางให้คุณค่ากับความเท่าเทียมกัน ไม่ชอบมองคนแบบ Stereotyped ที่บอกว่าผู้หญิงต้องเป็นแบบนี้ ผู้ชายต้องเป็นแบบนี้ อย่างพ่อบอกว่าผู้หญิงต้องตื่นเช้า โอมบอกว่าแม่ต้องทำกับข้าว ปรางมองว่าแบบนี้เป็น Stereotype แบบหัวโบราณเกินไป สำหรับปรางแม่ไม่ต้องทำกับข้าวก็ได้ ซื้อเข้ามากินได้ปรางไม่ซีเรียส นอกจากแม่อยากทำจริงๆ
แม่: ปรางบอกว่าชอบปฏิวัติตัวเองมากกว่า หมายถึงอะไรคะ
ปราง: ก็เป็นในแบบที่ปรางเป็นในวันนี้ ทุกวันนี้ปรางพอใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากขึ้น ตอนเด็กๆ ไม่คิดว่าตัวเองอ้วน คิดว่าตัวเองเหมือนเพื่อนๆ พออยู่ ม.2 ก็ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าตัวเองอ้วน อยากผอม อยากลดน้ำหนักมานานตั้งแต่ตอนนั้น แต่ทำไม่ได้เพราะที่โรงเรียนมีงานเยอะ ต้องเรียนให้จบ ม.6 ก่อน
แม่: ปรางคิดว่าทำไมปรางถึงคิดแบบนี้หรือรู้ว่าตัวเองชอบแบบนี้คะ
ปราง: อันนี้ตอบยากเพราะมีหลาย Facters มาก มันบอกไม่ได้เพราะปรางเกิดเป็นลูกพ่อ ลูกแม่ เกิดในครอบครัวนี้ มีพี่น้องแบบนี้ มีเพื่อนและเรียนโรงเรียนแบบนี้ มันคือปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวปราง
แม่: แล้วประสบการณ์ในโรงเรียนวอลดอร์ฟช่วยหล่อหลอมปรางอย่างไร
ปราง: ปรางคิดว่าโรงเรียนเรา serve ประสบการณ์ มัน Diversity มากอยู่ที่เราว่ามีวินัยในการเรียนหรือเปล่า โรงเรียนเตรียมให้เรามีทักษะหลายอย่าง ปรางคิดว่าการเรียนโรงเรียนแบบเราวินัยเป็นเรื่องสำคัญ
แม่: “วินัย” สำคัญอย่างไรคะ
ปราง: มันทำให้เราไม่ลอยมาลอยไป ต้องรับผิดชอบการบ้านหรืองานที่ครูให้ แต่ถ้าคิดว่าไม่เป็นไร ไม่ส่งการบ้านก็ได้ อันนี้ปรางคิดว่าไม่ใช่แล้ว ออกไปเรียนกระแสหลักดีกว่า อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าตัวเองเก่งหรืออ่อนวิชาอะไร จะได้ไปเสริมในด้านนั้น
แม่: ปรางคิดว่าตัวเองถนัดด้านไหนคะ
ปราง: ปรางอาจจะเด่นเรื่องความฉลาดทางสติปัญญาซึ่งเป็นเรื่องที่คนทั่วไปเขาให้คุณค่ากัน จริงๆ แล้วถ้าไปวัดความฉลาดเรื่องกีฬา ความฉลาดด้านทิศทางหรือความฉลาดด้านอื่นปรางทำได้นะ แต่ไม่เท่าเรื่องนี้
แม่: ปรางคิดว่าความฉลาดด้านสติปัญญาเกิดได้อย่างไรคะ
ปราง: ไม่รู้เหมือนกันจำได้ว่าตอน ป.6 เรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ปรางมาถามแม่แล้วยังไม่รู้เลยว่า “I am” ใช้อย่างไร แต่อยู่ๆ มันก็รู้ขึ้นมา ตอนนี้เวลาปรางเห็นใครเขียน Grammar ภาษาญี่ปุ่นหรือเกาหลีผิด อยากเอามาแก้มาก เหมือนเลขปรางก็ไม่เข้าใจ ปรางไปถามพ่อ ตอนหลังก็เข้าใจเองไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร
แม่: แม่จำได้ว่าปรางชอบภาษาญี่ปุ่น ปรางมีวิธีเรียนอย่างไรคะ
ปราง: น่าจะเกิดจากปรางอยากดูนารูโตะได้โดยไม่ต้องมี subtitle (การ์ตูนญี่ปุ่น) ปรางเลยเริ่มเรียนเองตั้งแต่ ม.2 และไปเรียนพิเศษตอน ม.4-ม.5 หลังจากนั้นก็ทิ้งไปเลยไม่ได้เรียนอีกเลย
แม่: ปรางช่วยเล่าประสบการณ์ตอน Entrance เข้ามหาวิทยาลัยให้ฟังหน่อยสิคะ
ปราง: ปรางไปดูคณะสอบกับเพื่อน เพิ่งรู้ว่าถ้าจะเข้านิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ต้องยื่นคะแนน GAT-PAT ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม ปรางมารู้เอาวันสุดท้ายเรื่องการยื่นคะแนน ปรางมีเวลาแค่ 2 อาทิตย์ก่อนสอบและปรางเลือกภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่สาม ปรางเลยใช้วิธีอ่านหนังสือเองทั้ง 3 วิชาโดยไม่ได้ไปเรียนพิเศษ
แม่: ตอนปรางเข้ามหาวิทยาลัยต้องปรับตัวเยอะไหมคะ
ปราง: ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่นะ ยิ่งตอนนี้ปรางชอบมาก ปรางกับเพื่อนที่คณะเจอกันก็คุยกัน เวลากินข้าวก็แยกย้ายกันไปกินข้าวแล้วกลับมาเจอกันใหม่ ปรางชอบความสัมพันธ์แบบนี้ที่เรามีอิสระต่อกัน ไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา
ติดตามวิธีมองโลกของพี่คนโตได้ต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
รัก
พี่ณี
7/5/63
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150