Biography สัมภาษณ์พิเศษ
ลูกชายคนเล็ก (ตอนจบ)
แม่: เขาบอกว่าลูกชายคนเล็กเหมือนหมอและพยาบาล โตขึ้นจะเป็นคนช่วยดูแลทุกคนในบ้าน
โอม: ไม่รู้สิคิดไม่ออก แต่เดี๋ยวรอพ่อแม่แก่ๆ จะเอาของพ่อแม่ไปทิ้งให้หมด เก็บไว้รกบ้าน
แม่: จะทิ้งทุกอย่างเลยหรือคะ
โอม: ดูก่อน คงทิ้งไม่หมดหรอก อาจเก็บบางชิ้นไว้ แม่บอกแล้วกันว่าจะให้เก็บชิ้นไหน เดี๋ยวแก่ๆ ก็ลืมหมด
แม่: คิดว่าการเรียนโรงเรียนกระแสหลักกับเรียนโรงเรียนวอลดอร์ฟต่างกันอย่างไร
โอม: ถามแปลกโอมเรียนโรงเรียนวอลดอร์ฟมาตลอดไม่เคยเรียนโรงเรียนอื่น จะรู้ไหมว่าโรงเรียนอื่นเรียนอย่างไร
แม่: ถามใหม่ แล้วโรงเรียนวอลดอร์ฟเป็นอย่างไรในความคิดของโอม
โอม: เป็นโรงเรียนที่เรียนตามวัย
แม่: เรียนตามวัยช่วยอะไรคะ
โอม:.ช่วยให้มีจินตนาการ (ตอบหลังเงียบไปนาน)
แม่: แล้วจินตนาการช่วยอะไรคะ
โอม: ก็ช่วยให้คิดสร้างสรรค์ได้ตอนโตขึ้น
แม่: คิดว่าตอนโตจะเอาความคิดสร้างสรรค์มาช่วยโลกอย่างไรคะ
โอม: ตอบไม่ได้ ต้องดูก่อนว่าผู้ใหญ่เคยทำอะไรมา คงเอามาปรับแต่คงไม่ทำเหมือนที่ผู้ใหญ่ทำ ตอนโอมโตโลกคงเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องดูแลโลกให้ดีกว่าเดิม ใครจะโตมาแล้วทำเรื่องเดิมๆ
แม่: โตมาโอมอยากเป็นอะไร
โอม: คงทำงานหาเงิน เรียนบัญชี
แม่: คิดว่าพ่อแม่ควรช่วยลูกอย่างไร
โอม: ดูอยู่ห่างๆ เป็นที่ปรึกษาก็พอ เตือนบ้างก็ดี
แม่: แล้วแม่จะทำให้โอมเชื่อใจแม่ได้อย่างไร
โอม: ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองสิ อะไรที่บอกว่าไม่ทำก็ต้องไม่ทำอย่างที่พูด
แม่: โอมคิดว่าพ่อแม่ควรเลี้ยงวัยรุ่นอย่างไร
โอม: ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบ้าน บางบ้านก็ชอบให้ลูกพูดเพราะๆ ต้องเรียบร้อย บางบ้านก็ปล่อยอิสระ บางบ้านก็เข้มงวดเกินไป วัยรุ่นเปลี่ยนทุกวัน ไม่มีใครเชื่อฟังพ่อแม่หรอก เวลาเราอยู่กันเองเราก็เป็นตัวเองเต็มที่
แม่: บางทีแม่ก็อยากให้โอมพูดเพราะๆ กับแม่บ้าง
โอม: แม่อยากให้โอมพูดเพราะๆ ต่อหน้าแม่แล้วพูดหยาบลับหลังแม่เหรอ บอกก่อนนะว่าโอมไม่ได้เล่าให้แม่ฟังทุกเรื่อง
แม่: แม่ต้องเตือนอย่างไร
โอม: ไม่ต้องเตือนทุกเรื่องหรอก แต่ถ้าโอมไปติดสารเสพติดแม่จะเตือนไหมล่ะ
แม่: เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงแม่เตือนแน่นอน
โอม: งั้นก็รู้แล้วสิว่าต้องเตือนเรื่องอะไร มาถามทำไม
แม่: แม่กำลังคิดเรื่องความไว้วางใจมันดูย้อนแย้งกัน โอมบอกว่าไม่ชอบคนโกหก บางทีแม่ก็อยากเล่าความลับของแม่ให้โอมฟังบ้าง
โอม: เล่าให้เจ้ฟังเถอะ โอมไม่ใช่นักฟังที่ดี ตอนนี้ก็ถูกต่อว่าเรื่องชอบตัดสินคนอื่น โอมไม่รู้ว่าจะฟังแม่พูดได้จบก่อนตัดสินแม่หรือเปล่า
แม่: ทำไมโอมคิดว่าตัวเองชอบตัดสินคนอื่น
โอม: โอมอาจจะคิดแค่มุมของตัวเอง
แม่: แล้วโอมอธิบายอย่างไร เวลามีความขัดแย้งเกิดขึ้น
โอม: โอมไม่ค่อยชอบคนไม่มีเหตุผล บางทีอธิบายแล้วก็ไม่เข้าใจ แยกกันก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยมาคุยกันใหม่
แม่: แล้วโอมแก้ไขตัวเองอย่างไร ขอโทษไหม
โอม: ก็พยายามไม่ตัดสินคน ไม่โกหก อาจไม่ได้ขอโทษทันทีแต่รอให้อารมณ์ดีแล้วค่อยมาคุยกัน โอมไม่ได้หมายถึงการทะเลาะกับแม่นะ เมื่อก่อนโอมไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเอง เดี๋ยวนี้พยายามเล่าสิ่งที่โอมคิดมากขึ้น
แม่: ตอนวอลดอร์ฟครบรอบ 100 ปี โอมเคยบอกว่าอยากส่งลูกเรียนโรงเรียนวอลดอร์ฟตอนโตขึ้น แต่กลัวว่าโรงเรียนจะอยู่ไม่ถึงตอนนั้น ผู้ใหญ่ควรจะทำอย่างไรเพื่อรักษาโรงเรียนแบบนี้ไว้
โอม: ก็ต้องเชื่อใจแนวการศึกษานี้สิ อย่าเลี้ยงลูกให้แก่แดดเกินไป เลี้ยงลูกตามวัย
แม่: โอมบอกว่าบางทีวัยรุ่นก็ต้องแก่แดดบ้าง
โอม: วัยรุ่นห้ามไม่ได้ บางทีปล่อยให้แก่แดดบ้างก็ดีเพราะวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงทุกวัน
แม่: ถ้าวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงทุกวัน แม่จะเข้าใจวัยรุ่นได้อย่างไร
โอม: บอกไปแล้วไงว่าทำตัวเป็นที่ปรึกษาก็พอ เดี๋ยวโตก็คิดได้เอง
แม่: ตอนวัยรุ่นคิดได้เป็นอย่างไรคะ
โอม: ตัดสินผิดถูกได้ด้วยตัวเอง
แม่: โอมพูดเรื่องนี้หลายครั้ง
โอม: ใช่..เหมือนอยู่ดีๆ ตัวเองก็โตขึ้น คิดได้เอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควร คิดว่าต้องมีคนเคยสอนแต่จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนสอน
แม่: โอมคิดว่าวัยรุ่นต้องการต้นแบบไหม
โอม: ต้องการสิ พ่อแม่ รุ่นพี่ก็เป็นต้นแบบของเราได้
แม่: แล้วโอมมีใครเป็นต้นแบบคะ
โอม: ไม่ตอบ ถามเยอะแล้ว...พอแล้ว
แม่: วันนี้ขอบคุณนะคะ เราคุยกันมาชั่วโมงครึ่งแล้ว
โอม: กอด... หอมแก้มขวาแม่ฟอดใหญ่
แม่: เมื่อก่อนเราต้องหอมแก้มกันสองข้างแล้วจุ๊บหน้าผาก
โอม: จำไม่ได้แล้ว...หันแก้มอีกข้างของแม่มาสิ
แม่: ขอบคุณนะคะ เราไม่ได้กอดกันอย่างนี้นานแล้ว (แม่หอมหน้าผากโอม)
โอม: อืม..ไปทำงานเถอะ (กอดแม่แรงๆ)
รัก
พี่ณี
4/5/63
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
โอม: ไม่รู้สิคิดไม่ออก แต่เดี๋ยวรอพ่อแม่แก่ๆ จะเอาของพ่อแม่ไปทิ้งให้หมด เก็บไว้รกบ้าน
แม่: จะทิ้งทุกอย่างเลยหรือคะ
โอม: ดูก่อน คงทิ้งไม่หมดหรอก อาจเก็บบางชิ้นไว้ แม่บอกแล้วกันว่าจะให้เก็บชิ้นไหน เดี๋ยวแก่ๆ ก็ลืมหมด
แม่: คิดว่าการเรียนโรงเรียนกระแสหลักกับเรียนโรงเรียนวอลดอร์ฟต่างกันอย่างไร
โอม: ถามแปลกโอมเรียนโรงเรียนวอลดอร์ฟมาตลอดไม่เคยเรียนโรงเรียนอื่น จะรู้ไหมว่าโรงเรียนอื่นเรียนอย่างไร
แม่: ถามใหม่ แล้วโรงเรียนวอลดอร์ฟเป็นอย่างไรในความคิดของโอม
โอม: เป็นโรงเรียนที่เรียนตามวัย
แม่: เรียนตามวัยช่วยอะไรคะ
โอม:.ช่วยให้มีจินตนาการ (ตอบหลังเงียบไปนาน)
แม่: แล้วจินตนาการช่วยอะไรคะ
โอม: ก็ช่วยให้คิดสร้างสรรค์ได้ตอนโตขึ้น
แม่: คิดว่าตอนโตจะเอาความคิดสร้างสรรค์มาช่วยโลกอย่างไรคะ
โอม: ตอบไม่ได้ ต้องดูก่อนว่าผู้ใหญ่เคยทำอะไรมา คงเอามาปรับแต่คงไม่ทำเหมือนที่ผู้ใหญ่ทำ ตอนโอมโตโลกคงเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องดูแลโลกให้ดีกว่าเดิม ใครจะโตมาแล้วทำเรื่องเดิมๆ
แม่: โตมาโอมอยากเป็นอะไร
โอม: คงทำงานหาเงิน เรียนบัญชี
แม่: คิดว่าพ่อแม่ควรช่วยลูกอย่างไร
โอม: ดูอยู่ห่างๆ เป็นที่ปรึกษาก็พอ เตือนบ้างก็ดี
แม่: แล้วแม่จะทำให้โอมเชื่อใจแม่ได้อย่างไร
โอม: ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองสิ อะไรที่บอกว่าไม่ทำก็ต้องไม่ทำอย่างที่พูด
แม่: โอมคิดว่าพ่อแม่ควรเลี้ยงวัยรุ่นอย่างไร
โอม: ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบ้าน บางบ้านก็ชอบให้ลูกพูดเพราะๆ ต้องเรียบร้อย บางบ้านก็ปล่อยอิสระ บางบ้านก็เข้มงวดเกินไป วัยรุ่นเปลี่ยนทุกวัน ไม่มีใครเชื่อฟังพ่อแม่หรอก เวลาเราอยู่กันเองเราก็เป็นตัวเองเต็มที่
แม่: บางทีแม่ก็อยากให้โอมพูดเพราะๆ กับแม่บ้าง
โอม: แม่อยากให้โอมพูดเพราะๆ ต่อหน้าแม่แล้วพูดหยาบลับหลังแม่เหรอ บอกก่อนนะว่าโอมไม่ได้เล่าให้แม่ฟังทุกเรื่อง
แม่: แม่ต้องเตือนอย่างไร
โอม: ไม่ต้องเตือนทุกเรื่องหรอก แต่ถ้าโอมไปติดสารเสพติดแม่จะเตือนไหมล่ะ
แม่: เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงแม่เตือนแน่นอน
โอม: งั้นก็รู้แล้วสิว่าต้องเตือนเรื่องอะไร มาถามทำไม
แม่: แม่กำลังคิดเรื่องความไว้วางใจมันดูย้อนแย้งกัน โอมบอกว่าไม่ชอบคนโกหก บางทีแม่ก็อยากเล่าความลับของแม่ให้โอมฟังบ้าง
โอม: เล่าให้เจ้ฟังเถอะ โอมไม่ใช่นักฟังที่ดี ตอนนี้ก็ถูกต่อว่าเรื่องชอบตัดสินคนอื่น โอมไม่รู้ว่าจะฟังแม่พูดได้จบก่อนตัดสินแม่หรือเปล่า
แม่: ทำไมโอมคิดว่าตัวเองชอบตัดสินคนอื่น
โอม: โอมอาจจะคิดแค่มุมของตัวเอง
แม่: แล้วโอมอธิบายอย่างไร เวลามีความขัดแย้งเกิดขึ้น
โอม: โอมไม่ค่อยชอบคนไม่มีเหตุผล บางทีอธิบายแล้วก็ไม่เข้าใจ แยกกันก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยมาคุยกันใหม่
แม่: แล้วโอมแก้ไขตัวเองอย่างไร ขอโทษไหม
โอม: ก็พยายามไม่ตัดสินคน ไม่โกหก อาจไม่ได้ขอโทษทันทีแต่รอให้อารมณ์ดีแล้วค่อยมาคุยกัน โอมไม่ได้หมายถึงการทะเลาะกับแม่นะ เมื่อก่อนโอมไม่ค่อยเล่าเรื่องของตัวเอง เดี๋ยวนี้พยายามเล่าสิ่งที่โอมคิดมากขึ้น
แม่: ตอนวอลดอร์ฟครบรอบ 100 ปี โอมเคยบอกว่าอยากส่งลูกเรียนโรงเรียนวอลดอร์ฟตอนโตขึ้น แต่กลัวว่าโรงเรียนจะอยู่ไม่ถึงตอนนั้น ผู้ใหญ่ควรจะทำอย่างไรเพื่อรักษาโรงเรียนแบบนี้ไว้
โอม: ก็ต้องเชื่อใจแนวการศึกษานี้สิ อย่าเลี้ยงลูกให้แก่แดดเกินไป เลี้ยงลูกตามวัย
แม่: โอมบอกว่าบางทีวัยรุ่นก็ต้องแก่แดดบ้าง
โอม: วัยรุ่นห้ามไม่ได้ บางทีปล่อยให้แก่แดดบ้างก็ดีเพราะวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงทุกวัน
แม่: ถ้าวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงทุกวัน แม่จะเข้าใจวัยรุ่นได้อย่างไร
โอม: บอกไปแล้วไงว่าทำตัวเป็นที่ปรึกษาก็พอ เดี๋ยวโตก็คิดได้เอง
แม่: ตอนวัยรุ่นคิดได้เป็นอย่างไรคะ
โอม: ตัดสินผิดถูกได้ด้วยตัวเอง
แม่: โอมพูดเรื่องนี้หลายครั้ง
โอม: ใช่..เหมือนอยู่ดีๆ ตัวเองก็โตขึ้น คิดได้เอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควร คิดว่าต้องมีคนเคยสอนแต่จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนสอน
แม่: โอมคิดว่าวัยรุ่นต้องการต้นแบบไหม
โอม: ต้องการสิ พ่อแม่ รุ่นพี่ก็เป็นต้นแบบของเราได้
แม่: แล้วโอมมีใครเป็นต้นแบบคะ
โอม: ไม่ตอบ ถามเยอะแล้ว...พอแล้ว
แม่: วันนี้ขอบคุณนะคะ เราคุยกันมาชั่วโมงครึ่งแล้ว
โอม: กอด... หอมแก้มขวาแม่ฟอดใหญ่
แม่: เมื่อก่อนเราต้องหอมแก้มกันสองข้างแล้วจุ๊บหน้าผาก
โอม: จำไม่ได้แล้ว...หันแก้มอีกข้างของแม่มาสิ
แม่: ขอบคุณนะคะ เราไม่ได้กอดกันอย่างนี้นานแล้ว (แม่หอมหน้าผากโอม)
โอม: อืม..ไปทำงานเถอะ (กอดแม่แรงๆ)
รัก
พี่ณี
4/5/63
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150