Biography กับลำดับที่ของพี่น้อง (ตอนที่ 23)
พี่ตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกตอน Moon Node ครั้งที่ 2 ตอนอายุ 37 มองย้อนทวนกลับไปไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเดินทางมาไกลขนาดนี้
ในฐานะคนบ้างานทั้งคู่ พี่สมบูรณ์กับพี่ยอมลางาน 3 วันเพื่อหาโรงเรียนให้ลูกเรียน พี่ใช้ปัจจัยการเลือกโรงเรียน 2 แบบคือจะเลือกโรงเรียนใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงาน ตัวเลือกโรงเรียนใกล้บ้านมี 4 แห่ง ใกล้ที่ทำงานแถวสาธรมีโรงเรียนคอนแวนต์เพียงแห่งเดียวเพราะตอนนั้นมีลูกสาว 2 คนคือปรางกับปัญญ์
เราสองคนตัดสินใจเลือกโรงเรียนใกล้บ้านเพราะสงสารลูกที่ต้องมานั่งรอกลับดึกพร้อมพ่อแม่ เราตระเวนสัมภาษณ์ครูใหญ่ทุกโรงเรียนเพื่อฟังแนวคิด กระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ความสัมพันธ์ของผู้ปกครองในโรงเรียน
เราไม่มีภาพของการศึกษาในอุดมคติ แต่เราใช้วิธีสัมผัสบรรยากาศของโรงเรียนแต่ละแห่งว่าอะไรเหมาะกับลูกเรา ในที่สุดเราสองคนตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาวอลดอร์ฟที่แปลกใหม่มากในประเทศไทย ณ ขณะนั้น
ในฐานะคนบ้างานทั้งคู่ พี่สมบูรณ์กับพี่ยอมลางาน 3 วันเพื่อหาโรงเรียนให้ลูกเรียน พี่ใช้ปัจจัยการเลือกโรงเรียน 2 แบบคือจะเลือกโรงเรียนใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงาน ตัวเลือกโรงเรียนใกล้บ้านมี 4 แห่ง ใกล้ที่ทำงานแถวสาธรมีโรงเรียนคอนแวนต์เพียงแห่งเดียวเพราะตอนนั้นมีลูกสาว 2 คนคือปรางกับปัญญ์
เราสองคนตัดสินใจเลือกโรงเรียนใกล้บ้านเพราะสงสารลูกที่ต้องมานั่งรอกลับดึกพร้อมพ่อแม่ เราตระเวนสัมภาษณ์ครูใหญ่ทุกโรงเรียนเพื่อฟังแนวคิด กระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ความสัมพันธ์ของผู้ปกครองในโรงเรียน
เราไม่มีภาพของการศึกษาในอุดมคติ แต่เราใช้วิธีสัมผัสบรรยากาศของโรงเรียนแต่ละแห่งว่าอะไรเหมาะกับลูกเรา ในที่สุดเราสองคนตัดสินใจเลือกแนวทางการศึกษาวอลดอร์ฟที่แปลกใหม่มากในประเทศไทย ณ ขณะนั้น
โรงเรียนเกือบไม่รับปรางเข้าเรียนหลังพี่เวียนกลับไปรอบที่สาม พี่กลับไปถามคำถามเดิมซ้ำๆ หลังอ่านงานวิจัยเรื่องอันตรายของทีวีและคอมพิวเตอร์ที่ป้าอ้วนถ่ายซีรอกซ์ให้อ่าน คำถามของพี่คือ "ทำไมไม่ให้เด็กดูทีวีคะ"
ที่ถามเพราะปรางดูทีวีมาตั้งแต่สี่เดือน แม่งงว่าจะทำตัวอย่างไรถ้าบ้านไม่มีทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมพิวเตอร์ที่ถ้าไม่มีในบ้านจะดูเชยมาก ลองคิดดูนะคะว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้อยู่ในชีวิตประจำวันมากขนาดนี้ แต่งานวิจัยพูดถึงผลกระทบของทีวี และคอมพิวเตอร์ทีส่งผลโดยตรงกับร่างกายที่บอบบางและกระบวนการเรียนรู้ของลูก จนทำให้แม่เริ่มคล้อยตาม ครูบอกตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าที่นี่เราไม่ให้เด็กดูทีวีและเล่นคอมพิวเตอร์ เด็กตั้งแต่ ป. 1 ไม่ใส่ชุดนักเรียน ขอให้คุณแม่งดซื้อและใส่เสื้อลายการ์ตูนให้ลูกนะคะ |
ฟังแล้วทึ่งและนิ่งตะลึงงันกับความใส่ใจในชีวิตลูกเรามากมายขนาดนี้ แม้จะกลัวอยู่ลึกๆ ว่าจะยกทีวีออกจากบ้านอย่างไร คงต้องยกประโยชน์ให้ Moon Node ว่าเราเกิดคำถามที่ไม่เคยถามตัวเองมาก่อนว่า
"การศึกษาที่แท้จริงคืออะไร"
"เราอยากเห็นอนาคตลูกเป็นอย่างไร"
"แท้ที่จริงแล้วเรากลัวอะไร"
"ตกลงอะไรสำคัญกว่ากัน"
พี่รู้เพียงว่าเราจริงจังกับการเลือกโรงเรียนให้ปรางมาก เป็นความมุ่งมั่นที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเอาจริงมากขนาดนี้ เพราะเราสองคนพ่อแม่เรียนในกระแสหลักมาตลอด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแรงกล้าคือความรับผิดชอบที่มีต่ออนาคตลูก
ฉะนั้น ตัวเลือกทางกายภาพของโรงเรียนที่เราไปเวียนดูหลายรอบก็ถูกตัดลงทั้งหมด เราไม่ต้องการสระว่ายน้ำที่เป็นน้ำเกลือในร่ม เราไม่อยากเห็นชื่อลูกถูกแปะไว้บนกระดานว่าสอบเข้าโรงเรียนดังได้ตั้งแต่อนุบาล 3 เราไม่ค่อยสบายใจนักกับวิถีการเรียนรู้แบบอะไรก็ได้ที่ครูใหญ่ตอบง่ายๆ ว่า "หลักสูตรจับฉ่าย"
เราอยากส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนที่คุณครูเชื่อมั่นและรักในสิ่งที่ตนเองสอน แววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงลูกศิษย์ เป็นครูประจำชั้นลูกเราตั้งแต่ ป.1-ม.2 ทุ่มเทและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกเติบโตเป็น "มนุษย์ผู้สร้างสรรค์"
ถ้าบอกว่าชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเลือก ดังนั้น ชะตาชีวิตของทุกคนในบ้านเราก็เปลี่ยนไปนับจากบัดนั้น สิ่งที่เราเลือกเป็นเรื่องที่ต้องการเวลาพิสูจน์ ทุกอย่างเป็นอุดมคติและเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเป้าไปที่อนาคต
"การศึกษาที่แท้จริงคืออะไร"
"เราอยากเห็นอนาคตลูกเป็นอย่างไร"
"แท้ที่จริงแล้วเรากลัวอะไร"
"ตกลงอะไรสำคัญกว่ากัน"
พี่รู้เพียงว่าเราจริงจังกับการเลือกโรงเรียนให้ปรางมาก เป็นความมุ่งมั่นที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเอาจริงมากขนาดนี้ เพราะเราสองคนพ่อแม่เรียนในกระแสหลักมาตลอด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแรงกล้าคือความรับผิดชอบที่มีต่ออนาคตลูก
ฉะนั้น ตัวเลือกทางกายภาพของโรงเรียนที่เราไปเวียนดูหลายรอบก็ถูกตัดลงทั้งหมด เราไม่ต้องการสระว่ายน้ำที่เป็นน้ำเกลือในร่ม เราไม่อยากเห็นชื่อลูกถูกแปะไว้บนกระดานว่าสอบเข้าโรงเรียนดังได้ตั้งแต่อนุบาล 3 เราไม่ค่อยสบายใจนักกับวิถีการเรียนรู้แบบอะไรก็ได้ที่ครูใหญ่ตอบง่ายๆ ว่า "หลักสูตรจับฉ่าย"
เราอยากส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนที่คุณครูเชื่อมั่นและรักในสิ่งที่ตนเองสอน แววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงลูกศิษย์ เป็นครูประจำชั้นลูกเราตั้งแต่ ป.1-ม.2 ทุ่มเทและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกเติบโตเป็น "มนุษย์ผู้สร้างสรรค์"
ถ้าบอกว่าชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเลือก ดังนั้น ชะตาชีวิตของทุกคนในบ้านเราก็เปลี่ยนไปนับจากบัดนั้น สิ่งที่เราเลือกเป็นเรื่องที่ต้องการเวลาพิสูจน์ ทุกอย่างเป็นอุดมคติและเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเป้าไปที่อนาคต
เราสองคนถูกพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ตั้งคำถามแบบไม่ยั้งว่าโรงเรียนนี้สอนอะไร จบไปแล้วจะไปเรียนต่อที่ไหน เรียนแล้วจะทันคนอื่นไหม จบแล้วจะไปทำงานอะไร พี่ทำอย่างเดียวคือลงเรียนทุกวิชาที่โรงเรียนเปิดสอน
สิ่งที่โรงเรียนสอน ณ ขณะนั้นและขณะนี้ขัดแย้งกับความเชื่อของคนในสังคมทั่วไป ไม่มีการสอบแข่งขัน ไม่มีหนังสือเรียน ไม่มีการยืนยันว่าลูกจบแล้วจะสอบติดที่ไหน ไม่มีสมุดพกบันทึกคะแนน มีสิ่งเดียวที่ยืนยันคือ "พวกเขาจะเติบโตเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์"
พี่เชื่อว่าทุกคนคงนึกภาพไม่ออกตอนส่งลูกมาเรียนในโรงเรียนที่ครูบอกเราว่าเป็นโรงเรียนที่เตรียมลูกเราให้เป็น "มนุษย์ผู้สร้างสรรค์" เพราะโรงเรียนในแนววอลดอร์ฟเกิดขึ้นจากความปรารถนาดีของพ่อแม่ที่เป็นคนงานในโรงงานยาสูบที่ไม่อยากเห็นลูกโตมาทำงานในโรงงานเหมือนตนเอง
การศึกษาแนววอลดอร์ฟเกิดในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่วิวัฒน์ของมนุษย์มาถึงทางแยกว่าจะเลือกสิ่งที่พิสูจน์ได้มีผลลัพธ์ที่จับต้องได้หรือเลือกวิธีคิดแนวใหม่ที่อธิบายถึงสัจจะหรือสิ่งที่ดำรงอยู่เสมอได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
การศึกษาของมนุษย์มาถึงทางแยกที่เราจะเลือกแบบเดิมหรือกำหนดอนาคตด้วยสองมือบนความเข้าใจภารกิจและการดำรงอยู่ของชีวิตอย่างแท้จริง
สิ่งที่โรงเรียนสอน ณ ขณะนั้นและขณะนี้ขัดแย้งกับความเชื่อของคนในสังคมทั่วไป ไม่มีการสอบแข่งขัน ไม่มีหนังสือเรียน ไม่มีการยืนยันว่าลูกจบแล้วจะสอบติดที่ไหน ไม่มีสมุดพกบันทึกคะแนน มีสิ่งเดียวที่ยืนยันคือ "พวกเขาจะเติบโตเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์"
พี่เชื่อว่าทุกคนคงนึกภาพไม่ออกตอนส่งลูกมาเรียนในโรงเรียนที่ครูบอกเราว่าเป็นโรงเรียนที่เตรียมลูกเราให้เป็น "มนุษย์ผู้สร้างสรรค์" เพราะโรงเรียนในแนววอลดอร์ฟเกิดขึ้นจากความปรารถนาดีของพ่อแม่ที่เป็นคนงานในโรงงานยาสูบที่ไม่อยากเห็นลูกโตมาทำงานในโรงงานเหมือนตนเอง
การศึกษาแนววอลดอร์ฟเกิดในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่วิวัฒน์ของมนุษย์มาถึงทางแยกว่าจะเลือกสิ่งที่พิสูจน์ได้มีผลลัพธ์ที่จับต้องได้หรือเลือกวิธีคิดแนวใหม่ที่อธิบายถึงสัจจะหรือสิ่งที่ดำรงอยู่เสมอได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
การศึกษาของมนุษย์มาถึงทางแยกที่เราจะเลือกแบบเดิมหรือกำหนดอนาคตด้วยสองมือบนความเข้าใจภารกิจและการดำรงอยู่ของชีวิตอย่างแท้จริง
การเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ลูกปรับตัว เคารพความแตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ ตั้งคำถาม รับผิดชอบต่อสังคมและโลกในอนาคต ดังนั้น จึงไม่มีวิชาใดเหมือนที่พ่อแม่เรียนมาเลย
ความโกลาหลเกิดขึ้นเพราะเราไม่เข้าใจครู ไม่เข้าใจปรัชญาของการศึกษา แม่ทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่ครูบอก และคิดเอาเองว่าหยวนๆ นิดหน่อยแค่นี้จะเป็นอะไรไป
ความดื้อและอัตตาที่ใหญ่โตของแม่คนนี้ถูกทุบจนละเอียดหลังถูกส่งไปเรียนดนตรีบำบัด ชีวิตเริ่มหลงรักการศึกษาที่แสนละเมียดละไมนี้ ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่าแม่คนนี้ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อะไรอีกมากมาย
แรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้แม่ต้องกลายเป็นนักเรียนตลอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้ เกิดจากความไม่รู้ การเรียนรู้ผ่านความผิดพลาด การได้รับโอกาสในการเริ่มต้นใหม่และแรงสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากพี่สมบูรณ์
การเลือกเรื่องยากและเป็นสิ่งที่ขัดต่อความเชื่อของสังคมทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทำให้พี่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า "ทำไม" เราจึงเลือกการศึกษานี้และทำไมเราจึงส่งลูกมาเรียนโรงเรียนนี้
เมื่อเราตอบตัวเองได้ว่า "ทำไม" เราก็จะรู้ว่าเราต้องปฏิบัติตัว "อย่างไร" เพื่อสร้างวิถีของบ้านให้สอดคล้องกับปรัชญา "ความเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์" ของการศึกษาแนวนี้ สุดท้ายเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า "อะไร" ที่ครูบอกนั้นสำคัญกับอนาคตของลูกมากเพียงใด
ความโกลาหลเกิดขึ้นเพราะเราไม่เข้าใจครู ไม่เข้าใจปรัชญาของการศึกษา แม่ทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่ครูบอก และคิดเอาเองว่าหยวนๆ นิดหน่อยแค่นี้จะเป็นอะไรไป
ความดื้อและอัตตาที่ใหญ่โตของแม่คนนี้ถูกทุบจนละเอียดหลังถูกส่งไปเรียนดนตรีบำบัด ชีวิตเริ่มหลงรักการศึกษาที่แสนละเมียดละไมนี้ ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่าแม่คนนี้ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อะไรอีกมากมาย
แรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้แม่ต้องกลายเป็นนักเรียนตลอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้ เกิดจากความไม่รู้ การเรียนรู้ผ่านความผิดพลาด การได้รับโอกาสในการเริ่มต้นใหม่และแรงสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากพี่สมบูรณ์
การเลือกเรื่องยากและเป็นสิ่งที่ขัดต่อความเชื่อของสังคมทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทำให้พี่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า "ทำไม" เราจึงเลือกการศึกษานี้และทำไมเราจึงส่งลูกมาเรียนโรงเรียนนี้
เมื่อเราตอบตัวเองได้ว่า "ทำไม" เราก็จะรู้ว่าเราต้องปฏิบัติตัว "อย่างไร" เพื่อสร้างวิถีของบ้านให้สอดคล้องกับปรัชญา "ความเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์" ของการศึกษาแนวนี้ สุดท้ายเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า "อะไร" ที่ครูบอกนั้นสำคัญกับอนาคตของลูกมากเพียงใด
โรงเรียนแนววอลดอร์ฟมีหลักปรัชญาที่ซ่อนอยู่ในทุกอณูของการเรียนการสอน โรงเรียนไม่ได้มองเด็กเป็นสินค้าที่เข้าสู่สายพานการผลิตที่ทุกคนคิดเหมือนกัน ทำเหมือนกันปรัชญาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคือความเสมอภาค เสรีภาพและภารดรภาพ
เด็กจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรักและเคารพในความเป็นปัจเจก ไม่มีการเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร ใครเก่งกว่าใคร ทุกคนอยู่ร่วมกันในรูปแบบของชุมชนที่เคารพในความหลากหลายแต่ต่างเกื้อกูลและร่วมมือกัน ทุกคนรับผิดชอบกับความคิดของตัวเอง มีอิสระในการเสนอความคิดที่สร้างสรรค์และความเป็นไปได้ใหม่เสมอ
คำว่า "มนุษย์ผู้สร้างสรรค์" ไม่ได้เป็นเพียงคำขวัญหรือนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่เป็นวิถีที่ครูและพ่อแม่ต้องนำมาปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตั้งแต่ลูกเล็กจนลูกโตเป็นวัยรุ่น เป็นวิถีการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนแก่
โรงเรียนมีรูปแบบการสอนที่พ่อแม่มีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันกับครู พ่อแม่ไม่ต้องสอนการบ้านลูก แต่ต้องใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ที่มีชีวิตนี้
ติดตามตอนต่อไปนะคะว่าคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์ ที่ปรากฏในตัวลูกทุกคนมีลักษณะเป็นอย่างไร การไม่ดูทีวี ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเล็กทำให้พวกเขาปรับตัวไม่ได้ ไม่เท่าทันเทคโนโลยี ใช้ชีวิตกับโลกในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้จริงหรือไม่ รอฟังกันนะคะ
รัก
พี่ณี
16/8/60
เด็กจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรักและเคารพในความเป็นปัจเจก ไม่มีการเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร ใครเก่งกว่าใคร ทุกคนอยู่ร่วมกันในรูปแบบของชุมชนที่เคารพในความหลากหลายแต่ต่างเกื้อกูลและร่วมมือกัน ทุกคนรับผิดชอบกับความคิดของตัวเอง มีอิสระในการเสนอความคิดที่สร้างสรรค์และความเป็นไปได้ใหม่เสมอ
คำว่า "มนุษย์ผู้สร้างสรรค์" ไม่ได้เป็นเพียงคำขวัญหรือนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่เป็นวิถีที่ครูและพ่อแม่ต้องนำมาปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตั้งแต่ลูกเล็กจนลูกโตเป็นวัยรุ่น เป็นวิถีการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนแก่
โรงเรียนมีรูปแบบการสอนที่พ่อแม่มีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันกับครู พ่อแม่ไม่ต้องสอนการบ้านลูก แต่ต้องใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ที่มีชีวิตนี้
ติดตามตอนต่อไปนะคะว่าคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์ ที่ปรากฏในตัวลูกทุกคนมีลักษณะเป็นอย่างไร การไม่ดูทีวี ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเล็กทำให้พวกเขาปรับตัวไม่ได้ ไม่เท่าทันเทคโนโลยี ใช้ชีวิตกับโลกในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้จริงหรือไม่ รอฟังกันนะคะ
รัก
พี่ณี
16/8/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด LINE ID : the3worldscreator Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator Tel. 093-2459985, 02-5309150 Fax. 02-530915 |