Biography กับลำดับที่ของพี่น้อง (ตอนที่ 20)
ช่วงอายุ 14-21 ปีของลูกถือเป็นช่วงพิสูจน์รักแท้ของคุณพ่อคุณแม่กันอีกหน นอกจากต้องแตะมือเพื่อส่งไม้ในการดูแลลูก ยังต้องปรับใจเพื่อให้เข้ากับสภาวะอารมณ์และภาษาของวัยรุ่น และปรับ "ชั้นเชิง" ในการครองเรือนกันทั้งคู่
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ลูกลุกขึ้นมาท้าทายทุกความเชื่อที่พ่อแม่บอกว่าดี เวลานี้เป็นช่วงทองที่พ่อแม่ผู้มีภารกิจยุ่งเหยิงทั้งคู่จะได้กลับมานั่งคุยกัน ปรับความเข้าใจให้ตรงกันว่าใครจะรับบทบาทไหน เราจะ update ความคืบหน้าของลูกกันอย่างไร อะไรคือขอบเขตในบ้านที่เรายอมและไม่ยอม
บัดนี้พ่อได้กลายเป็น Hero ในใจลูกไปแล้ว แม่กลายเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งในบ้านที่ลูกจะเรียกหาเมื่อหิว ป่วย หาของไม่เจอ นอกนั้นมีแต่เสียงเรียก "พ่อ พ่อ พ่อ"
พ่อเริ่มปรับตัวเข้ากับลูกได้ดีขึ้นทุกวันจนไม่มีลูกคนไหนมาบ่นแล้วว่าพ่อไม่เห็นเหมือนแม่ ลูกออกท่องโลกกว้างกับพ่อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีแม่รั้งท้าย หลายครั้งที่พ่อต้องบอกลูกให้กลับมาดูแลแม่แทนพ่อ
ตั้งแต่ปรางย่างเข้าสู่วัยรุ่นพี่คิดว่าพี่ตลกขึ้น เมื่อก่อนรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยขี้เล่นเพราะลูก 3 คนมองเราอยู่ เรามีเรื่องต้องใคร่ครวญต้องพิจารณาทุกวัน พี่เริ่มตลก ใจดีและยอมกับเรื่องที่ยอมได้เพราะรั้งไว้ไม่ได้ เวลาของพวกเขามาถึงแล้ว
ครั้งแรกที่ปรางรวบรวมความกล้าขอฟังเพลงเกาหลีแม่บอกว่า "ฟังเลยลูก...จะเต้นเมื่อไหร่ชวนแม่ด้วยนะคะ" สิ่งที่เราตกลงกันคือจะฟังอย่างไรไม่ให้น้องที่ยังไม่ถึง 14 อีกสองคนได้ยิน ปรางมาสารภาพทีหลังว่ากลัวมาก ไม่คิดว่าแม่จะให้ง่ายๆ แบบนี้ ลูกๆ ไปคุยกันว่าไม่เคยคิดเลยว่าแม่มีมุมตลกด้วย!
หลังลูกทุกคนอายุครบ 14 ปีบริบูรณ์ ภาษาในบ้านก็เปลี่ยนไป คำถามประโยคยาวๆ ที่ลูกเคยตอบเจื้อยแจ้วจะลดรูปประโยคลงเหลือแค่คำว่า "เค" จนบางครั้งพี่นึกว่าอยู่เกาหลีเพราะได้ยินแค่ "เค โอ อืม"
อันนี้ไม่นับรวม "ค่ะ ขา ครับผม" ที่ถูกกลืนหายไปในคอ เพราะลูกขอเก็บคำพูดเพราะๆ ไว้คุยกับคนอื่นแทน
ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ลูก 3 คนค่อยๆ เข้าสู่วัยหัวเลี้ยวหัวต่อทีละคน แม่ยังพอมีเวลาได้พักหายใจบ้าง ถ้าใครอ่านบทความแรกๆ จะเห็นว่าลูกจะเริ่มยืนยันความเป็นตัวเองตั้งแต่ 3 ขวบ 9 ขวบ และ 16 ขวบ
ในข่วง 3 ขวบ เราเรียกว่า "ช่วงวายร้าย 3 ขวบ หรือ Terrible 3"
ในข่วง 9 ขวบ เราเรียกว่า "ช่วงข้ามแม่น้ำไม่หวนคืน หรือ Rubicon"
มาถึงช่วง 16 ปี มีชื่อเรียกที่ดูน่ากลัวเล็กน้อย เราเรียกช่วงนี้ว่า "กบฏร้าย หรือ Rebellion"
ช่วงกบฏร้ายเป็นช่วงที่เราควรสนับสนุนให้ลูกได้กบฏอย่างเต็มที่เหมือนตอนเล็กที่เขาตัองได้เล่นซนอย่างเต็มที่ ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติวัยรุ่น ลูกอยากทำอะไรที่เราห้ามทุกเรื่องอยู่แล้ว เพราะสำหรับพวกเขาการได้กบฏเล็กๆ คิอการยืนยันความเป็นตัวเองและแสดงจุดยืนในชีวิตยามเติบโตขึ้น
ในข่วงกบฏย่อมมีเรื่องราวไม่คาดคิด ขาดๆเกินๆ ขำออกบ้าง ขำไม่ออกบ้างอยู่เป็นนิจ ถ้าเป็นเรื่องเล็กแม่จะยอมหยวนเพราะรู้ว่าลูกไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่แม่ยอมไม่ได้เช่นเรื่องสุขภาพและจิตวิญญาณ แม่จะส่งสัญญาณเตือนตั้งแต่เบาไปหาหนัก
ช่วงนี้ฮอร์โมนลูกพลุ่งพล่าน จัดเต็มทั้งสีหน้า ท่าทาง ยียวนกวนฮอร์โมนแม่แบบตัองท่องในใจว่า "นิ่งไว้ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น" ความนิ่ง สงบความพลุ่งพล่านได้อยู่หมัด เพราะเมื่อเรานิ่ง เราจะพบว่าลูกต้องการความหนักแน่นและขอบเขตที่ชัดเจนจากเรา เมื่อค้นลึกลงไปเขายังอยากให้เราดูแลเอาใจใส่เหมือนเดิม
ทักษะการฟังแบบ Deep listening ฟังโดยไม่ด่วนตัดสิน ฟังเพื่อหาสิ่งที่ลูกไม่ได้เล่าออกมาเป็นคำพูดมีความสำคัญมาก พี่ใช้เวลาฟังลูกคุยกันบนโต๊ะกินข้าวทุกวัน เรื่องไหนที่เป็นประเด็นสำคัญพี่จะคุยไปลูกทันที ประเด็นไหนที่รอได้พี่จะเล่าให้พี่สมบูรณ์ฟังและสรุปกันว่าใครจะเป็นคนพูดเรื่องนี้กับลูก
7 ปีของการเป็นวัยรุ่นช่างสั้นนัก เมื่อเลยช่วงนี้ไปก็ไม่เรียกว่าวัยรุ่นแล้ว ลูกต้องการเสาหลัก ต้องการคนสนใจเขา แคร์เขา และยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็น ไม่ใช่ในแบบที่เราอยากให้เขาเป็น
ลูกมีความคิดที่เป็นตัวของตัวเองและอยากให้เรารับฟังเขาในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของบ้านที้ไม่ใข่ลูกน้อยตัวเล็กๆ ที่มีแม่คอยกางปีกปกป้องอยู่ ลูกอยากเติบโตในแบบฉบับของตนเองโดยไม่มีเงาของพ่อแม่
สิ่งที่เราสนับสนุนได้คือเปิดโอกาสให้ลูกได้ทดลองทำในสิ่งที่ไม่เคยลอง ช่วงนี้แม่จัดเต็มเรื่องขนมนมเนยที่เคยห้ามไว้ตอนเล็ก เรายอมพาลูกไปดูหนังด้วยกันโดยมีบางเรื่องที่แม่ต้องนั่งรออยู่หน้าโรงกับโอม
แม้แม่จะเงียบลงหลายเรื่อง แต่มีบทหนึ่งที่แม่ไม่เคยเงียบ บทนั้นคืออะไรติดตามตอนต่อไปค่ะ
รัก
พี่ณี
23/7/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309156
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ลูกลุกขึ้นมาท้าทายทุกความเชื่อที่พ่อแม่บอกว่าดี เวลานี้เป็นช่วงทองที่พ่อแม่ผู้มีภารกิจยุ่งเหยิงทั้งคู่จะได้กลับมานั่งคุยกัน ปรับความเข้าใจให้ตรงกันว่าใครจะรับบทบาทไหน เราจะ update ความคืบหน้าของลูกกันอย่างไร อะไรคือขอบเขตในบ้านที่เรายอมและไม่ยอม
บัดนี้พ่อได้กลายเป็น Hero ในใจลูกไปแล้ว แม่กลายเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งในบ้านที่ลูกจะเรียกหาเมื่อหิว ป่วย หาของไม่เจอ นอกนั้นมีแต่เสียงเรียก "พ่อ พ่อ พ่อ"
พ่อเริ่มปรับตัวเข้ากับลูกได้ดีขึ้นทุกวันจนไม่มีลูกคนไหนมาบ่นแล้วว่าพ่อไม่เห็นเหมือนแม่ ลูกออกท่องโลกกว้างกับพ่อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีแม่รั้งท้าย หลายครั้งที่พ่อต้องบอกลูกให้กลับมาดูแลแม่แทนพ่อ
ตั้งแต่ปรางย่างเข้าสู่วัยรุ่นพี่คิดว่าพี่ตลกขึ้น เมื่อก่อนรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยขี้เล่นเพราะลูก 3 คนมองเราอยู่ เรามีเรื่องต้องใคร่ครวญต้องพิจารณาทุกวัน พี่เริ่มตลก ใจดีและยอมกับเรื่องที่ยอมได้เพราะรั้งไว้ไม่ได้ เวลาของพวกเขามาถึงแล้ว
ครั้งแรกที่ปรางรวบรวมความกล้าขอฟังเพลงเกาหลีแม่บอกว่า "ฟังเลยลูก...จะเต้นเมื่อไหร่ชวนแม่ด้วยนะคะ" สิ่งที่เราตกลงกันคือจะฟังอย่างไรไม่ให้น้องที่ยังไม่ถึง 14 อีกสองคนได้ยิน ปรางมาสารภาพทีหลังว่ากลัวมาก ไม่คิดว่าแม่จะให้ง่ายๆ แบบนี้ ลูกๆ ไปคุยกันว่าไม่เคยคิดเลยว่าแม่มีมุมตลกด้วย!
หลังลูกทุกคนอายุครบ 14 ปีบริบูรณ์ ภาษาในบ้านก็เปลี่ยนไป คำถามประโยคยาวๆ ที่ลูกเคยตอบเจื้อยแจ้วจะลดรูปประโยคลงเหลือแค่คำว่า "เค" จนบางครั้งพี่นึกว่าอยู่เกาหลีเพราะได้ยินแค่ "เค โอ อืม"
อันนี้ไม่นับรวม "ค่ะ ขา ครับผม" ที่ถูกกลืนหายไปในคอ เพราะลูกขอเก็บคำพูดเพราะๆ ไว้คุยกับคนอื่นแทน
ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ลูก 3 คนค่อยๆ เข้าสู่วัยหัวเลี้ยวหัวต่อทีละคน แม่ยังพอมีเวลาได้พักหายใจบ้าง ถ้าใครอ่านบทความแรกๆ จะเห็นว่าลูกจะเริ่มยืนยันความเป็นตัวเองตั้งแต่ 3 ขวบ 9 ขวบ และ 16 ขวบ
ในข่วง 3 ขวบ เราเรียกว่า "ช่วงวายร้าย 3 ขวบ หรือ Terrible 3"
ในข่วง 9 ขวบ เราเรียกว่า "ช่วงข้ามแม่น้ำไม่หวนคืน หรือ Rubicon"
มาถึงช่วง 16 ปี มีชื่อเรียกที่ดูน่ากลัวเล็กน้อย เราเรียกช่วงนี้ว่า "กบฏร้าย หรือ Rebellion"
ช่วงกบฏร้ายเป็นช่วงที่เราควรสนับสนุนให้ลูกได้กบฏอย่างเต็มที่เหมือนตอนเล็กที่เขาตัองได้เล่นซนอย่างเต็มที่ ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติวัยรุ่น ลูกอยากทำอะไรที่เราห้ามทุกเรื่องอยู่แล้ว เพราะสำหรับพวกเขาการได้กบฏเล็กๆ คิอการยืนยันความเป็นตัวเองและแสดงจุดยืนในชีวิตยามเติบโตขึ้น
ในข่วงกบฏย่อมมีเรื่องราวไม่คาดคิด ขาดๆเกินๆ ขำออกบ้าง ขำไม่ออกบ้างอยู่เป็นนิจ ถ้าเป็นเรื่องเล็กแม่จะยอมหยวนเพราะรู้ว่าลูกไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่แม่ยอมไม่ได้เช่นเรื่องสุขภาพและจิตวิญญาณ แม่จะส่งสัญญาณเตือนตั้งแต่เบาไปหาหนัก
ช่วงนี้ฮอร์โมนลูกพลุ่งพล่าน จัดเต็มทั้งสีหน้า ท่าทาง ยียวนกวนฮอร์โมนแม่แบบตัองท่องในใจว่า "นิ่งไว้ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น" ความนิ่ง สงบความพลุ่งพล่านได้อยู่หมัด เพราะเมื่อเรานิ่ง เราจะพบว่าลูกต้องการความหนักแน่นและขอบเขตที่ชัดเจนจากเรา เมื่อค้นลึกลงไปเขายังอยากให้เราดูแลเอาใจใส่เหมือนเดิม
ทักษะการฟังแบบ Deep listening ฟังโดยไม่ด่วนตัดสิน ฟังเพื่อหาสิ่งที่ลูกไม่ได้เล่าออกมาเป็นคำพูดมีความสำคัญมาก พี่ใช้เวลาฟังลูกคุยกันบนโต๊ะกินข้าวทุกวัน เรื่องไหนที่เป็นประเด็นสำคัญพี่จะคุยไปลูกทันที ประเด็นไหนที่รอได้พี่จะเล่าให้พี่สมบูรณ์ฟังและสรุปกันว่าใครจะเป็นคนพูดเรื่องนี้กับลูก
7 ปีของการเป็นวัยรุ่นช่างสั้นนัก เมื่อเลยช่วงนี้ไปก็ไม่เรียกว่าวัยรุ่นแล้ว ลูกต้องการเสาหลัก ต้องการคนสนใจเขา แคร์เขา และยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็น ไม่ใช่ในแบบที่เราอยากให้เขาเป็น
ลูกมีความคิดที่เป็นตัวของตัวเองและอยากให้เรารับฟังเขาในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของบ้านที้ไม่ใข่ลูกน้อยตัวเล็กๆ ที่มีแม่คอยกางปีกปกป้องอยู่ ลูกอยากเติบโตในแบบฉบับของตนเองโดยไม่มีเงาของพ่อแม่
สิ่งที่เราสนับสนุนได้คือเปิดโอกาสให้ลูกได้ทดลองทำในสิ่งที่ไม่เคยลอง ช่วงนี้แม่จัดเต็มเรื่องขนมนมเนยที่เคยห้ามไว้ตอนเล็ก เรายอมพาลูกไปดูหนังด้วยกันโดยมีบางเรื่องที่แม่ต้องนั่งรออยู่หน้าโรงกับโอม
แม้แม่จะเงียบลงหลายเรื่อง แต่มีบทหนึ่งที่แม่ไม่เคยเงียบ บทนั้นคืออะไรติดตามตอนต่อไปค่ะ
รัก
พี่ณี
23/7/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309156