Biography กับลำดับที่ของพี่น้อง (ตอนที่่ 3)
ตอนที่พี่เลี้ยงอาวุโสลาออกเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่พี่ส่งน้องปรางเข้าโรงเรียนวอลดอร์ฟ ตอนนั้นพี่อายุ 37 ปีพอดี ในภาษา Biography ครูเรียกช่วงนี้ว่าช่วง Moon Node ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตส่งโจทย์ยากที่สุดมาให้เพื่อให้เราตอบคำถามตัวเองว่า "ฉันคือใคร" และ "ภารกิจบนโลกของฉันคืออะไร"
วันที่กลับมาสะท้อนย้อนมองตัวเอง พี่พบว่าสิ่งที่ตัวเองเผชิญอยู่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของลูก ปัญหาเรื่องที่บ้าน ปัญหาเรื่องที่ทำงานในช่วงที่ตัวเองอายุ 35-42 ปี คือช่วงที่ชีวิตต้องเผชิญกับคลื่นยักษ์สองลูกที่ถาโถมถล่มชีวิตอย่างไม่ทันตั้งตัว คลื่นลูกแรกเรียกว่า Midlife Crisis คลื่นลูกที่สองที่เป็น After shock คือช่วง Crisis of Value
ถือเป็นโชคดีของตัวเองที่ช่วงเวลาที่คลื่นยักษ์ทั้งสองลูกถาโถมเป็นช่วงที่ส่งปรางไปโรงเรียนพอดี ปัญหาการเรียนของปรางทำให้แม่ถูกส่งตัวไปเรียนวิชาดนตรีบำบัดทันที เมื่อครูพบว่าชีวิตแม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับชีวิตปราง เพราะจังหวะชีวิตในบ้านแปรปรวนมาก แม่กำลังอยู่ในช่วงชีวิตผกผัน ไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน เราเพิ่งมีแม่บ้านใหม่ทุกอย่างต้องนับหนึ่งใหม่หมด
ยิ่งมาเรียน Biography เรื่องลำดับที่ของลูกคนโตที่เรียนรู้ผ่านการกระทำหรือ Will ลูกจะซึมซับทุกสิ่งผ่านการกระทำของพ่อแม่และสภาพแวดล้อม ข้อดีของลูกคนโตคือเธอเกิดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
ป้าอ้วนซึ่งเป็นครูประจำชั้นห้องแสงตะวันเชิญพี่ไปพบ บอกพี่ว่าปรางมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ปรางไม่เหยียบทราย ไม่เล่นโคลน ไม่เล่นทุกอย่างที่เด็กอนุบาลวอลดอร์ฟเล่นกัน
ที่สำคัญคือปรางชอบไปนั่งเงียบ ๆ อยู่มุมห้องเวลาเพื่อนทั้งห้องเล่น ป้าอ้วนบอกว่าปรางขาดจินตนาการของวัยเด็กมาก ป้าอ้วนอยากรู้ว่าพี่เลี้ยงลูกมาอย่างไร
ยิ่งเรียนพี่ยิ่งพบว่าพัฒนาการปรางหยุดชะงักตั้งแต่เราให้ลูกนอนดูทีวีตั้งแต่แบเบาะ เปิดเพลงเสียงดัง พาไปเที่ยวห้างตั้งแต่ยังเล็ก โจทย์ของปรางยากมากเพราะปัญหาทุกอย่างเข้าไปอยู่ในเนื้อตัวของปราง ปัญหานี้ส่งผลให้ปรางเป็นเด็กที่เงียบมากทั้งที่ลูกคนโตทุกคนมีแนวโน้มที่จะเข้าสังคมเก่งและเป็นเด็ก Extrovert
วันที่กลับมาสะท้อนย้อนมองตัวเอง พี่พบว่าสิ่งที่ตัวเองเผชิญอยู่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของลูก ปัญหาเรื่องที่บ้าน ปัญหาเรื่องที่ทำงานในช่วงที่ตัวเองอายุ 35-42 ปี คือช่วงที่ชีวิตต้องเผชิญกับคลื่นยักษ์สองลูกที่ถาโถมถล่มชีวิตอย่างไม่ทันตั้งตัว คลื่นลูกแรกเรียกว่า Midlife Crisis คลื่นลูกที่สองที่เป็น After shock คือช่วง Crisis of Value
ถือเป็นโชคดีของตัวเองที่ช่วงเวลาที่คลื่นยักษ์ทั้งสองลูกถาโถมเป็นช่วงที่ส่งปรางไปโรงเรียนพอดี ปัญหาการเรียนของปรางทำให้แม่ถูกส่งตัวไปเรียนวิชาดนตรีบำบัดทันที เมื่อครูพบว่าชีวิตแม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับชีวิตปราง เพราะจังหวะชีวิตในบ้านแปรปรวนมาก แม่กำลังอยู่ในช่วงชีวิตผกผัน ไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน เราเพิ่งมีแม่บ้านใหม่ทุกอย่างต้องนับหนึ่งใหม่หมด
ยิ่งมาเรียน Biography เรื่องลำดับที่ของลูกคนโตที่เรียนรู้ผ่านการกระทำหรือ Will ลูกจะซึมซับทุกสิ่งผ่านการกระทำของพ่อแม่และสภาพแวดล้อม ข้อดีของลูกคนโตคือเธอเกิดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
ป้าอ้วนซึ่งเป็นครูประจำชั้นห้องแสงตะวันเชิญพี่ไปพบ บอกพี่ว่าปรางมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ปรางไม่เหยียบทราย ไม่เล่นโคลน ไม่เล่นทุกอย่างที่เด็กอนุบาลวอลดอร์ฟเล่นกัน
ที่สำคัญคือปรางชอบไปนั่งเงียบ ๆ อยู่มุมห้องเวลาเพื่อนทั้งห้องเล่น ป้าอ้วนบอกว่าปรางขาดจินตนาการของวัยเด็กมาก ป้าอ้วนอยากรู้ว่าพี่เลี้ยงลูกมาอย่างไร
ยิ่งเรียนพี่ยิ่งพบว่าพัฒนาการปรางหยุดชะงักตั้งแต่เราให้ลูกนอนดูทีวีตั้งแต่แบเบาะ เปิดเพลงเสียงดัง พาไปเที่ยวห้างตั้งแต่ยังเล็ก โจทย์ของปรางยากมากเพราะปัญหาทุกอย่างเข้าไปอยู่ในเนื้อตัวของปราง ปัญหานี้ส่งผลให้ปรางเป็นเด็กที่เงียบมากทั้งที่ลูกคนโตทุกคนมีแนวโน้มที่จะเข้าสังคมเก่งและเป็นเด็ก Extrovert
ตอนปราง 4 เดือนเริ่มพี่เริ่มสังเกตุเห็นว่าเวลาปรางมองพ่อแม่
ปรางจะทำตาหยี พี่ยังหลงมองไปว่าลูกเราน่ารักดีทำตาหยีเป็นตั้งแต่เล็ก พี่เพิ่งมารู้ตอนปรางโตว่านี่คืออาการของโรคตาขี้เกียจ (Lazy eyes) หมอบอกว่าอาการตาขี้เกียจอาจเกิดขึ้นได้จากการที่ลูกนั่งเก้าอี้โยกเยกกินข้าวหน้าจอโทรทัศน์ตั้งแต่แบเบาะจนโต การโยกขึ้นโยกลงทำให้กล้ามเนื้อตาปรางอ่อนแรง เพราะวิถีการมองผิดแผกจากเด็กเล็กทั่วไป คุณหมอแนะนำให้ปรางใส่แว่นเพื่อพยุงกล้ามเนื้อตา ปรางยังคงมีปัญหาเรื่องสายตามาจนถึงทุกวันนี้ หลังปัญหาเรื่องตาก็มาถึงปัญหาเรื่องหู ปรางเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่เล็ก แม่พาปรางไปหาหมอทุกคนที่ใครบอกว่ารักษาภูมิแพ้เก่งที่สุด ยิ่งพาไปปรางยิ่งต้องกินยาแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนหูอักเสบมีปัญหา ยาแก้อักเสบที่หมอจ่ายครั้งสุดท้ายคือยาแก้อักเสบของผู้ใหญ่ หมอให้กิน 1 เดือนเต็มเพราะอาการเข้าขั้นรุนแรง คุณป้าอุษาแนะนำให้พี่พาปรางไปหาหมอเพื่อทดสอบการได้ยินแถวสี่พระยา หมอพบว่าหูข้างซ้ายปรางผิดปกติ การรับฟังทั้งสองข้างไม่เท่ากัน เหมือนคนหูดับเรียกแล้วไม่ได้ยิน เราสองคนพ่อแม่เครียดมาก พี่สมบูรณ์บอกว่าเราคงต้องกินยาหมอไปตลอดชีวิตเพราะกลัวลูกไม่ได้ยิน |
ตอนนั้นพี่รู้สึกว่าตัวเองทำไมเป็นแม่ที่แย่อะไรเช่นนี้ ทำไมเราต้องพึงพาคนอื่นตลอดเวลา ทำไมเรามีลูกแต่เราตัดใจเพื่อลูกไม่ได้สักเรื่อง วันนั้นหลังหาหมอเสร็จ พี่ตัดสินใจเก็บยาน้ำสองขวดใหญ่ที่หมอบอกให้ปรางกินตลอดชีวิตทิ้ง
นี่คือผลลัพธ์ราคาแพงที่พี่ต้องจ่ายเพราะเลี้ยงลูกผิด เราไม่รู้เลยว่ายิ่งลูกเล็กมาเท่าไหร่ยิ่งต้องปกป้องลูกจากสภาพแวดล้อมภายนอกมากเท่านั้น แสง.. สี.. เสียง.. สื่อ..กระทบเนื้อตัวลูกทั้งหมด การเร่งพัฒนาการโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพี่ การเชื่อพี่เลี้ยงโดยไม่รับฟังสิ่งที่แม่พร่ำสอนส่งผลกระทบจนพี่นิ่งเฉยไม่ได้
พี่เริ่มกลับมาศึกษาวิชาพ่อแม่ในแนวมนุษยปรัชญาทั้งหมด เพราะละอายใจที่เลี้ยงลูกผิดมาตลอด บนความมืดมนพี่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเพราะปรางให้ความร่วมมือกับพี่ในการแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง เราสองคนแม่ลูกมานั่งสวดมนต์ด้วยกัน พี่อ่านเจอว่าหิน Agate ที่มีโพรงคริสตัลอยู่ข้างในรักษาอาการหูหนวกได้
นี่คือผลลัพธ์ราคาแพงที่พี่ต้องจ่ายเพราะเลี้ยงลูกผิด เราไม่รู้เลยว่ายิ่งลูกเล็กมาเท่าไหร่ยิ่งต้องปกป้องลูกจากสภาพแวดล้อมภายนอกมากเท่านั้น แสง.. สี.. เสียง.. สื่อ..กระทบเนื้อตัวลูกทั้งหมด การเร่งพัฒนาการโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพี่ การเชื่อพี่เลี้ยงโดยไม่รับฟังสิ่งที่แม่พร่ำสอนส่งผลกระทบจนพี่นิ่งเฉยไม่ได้
พี่เริ่มกลับมาศึกษาวิชาพ่อแม่ในแนวมนุษยปรัชญาทั้งหมด เพราะละอายใจที่เลี้ยงลูกผิดมาตลอด บนความมืดมนพี่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเพราะปรางให้ความร่วมมือกับพี่ในการแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง เราสองคนแม่ลูกมานั่งสวดมนต์ด้วยกัน พี่อ่านเจอว่าหิน Agate ที่มีโพรงคริสตัลอยู่ข้างในรักษาอาการหูหนวกได้
พี่รีบให้พี่สมบูรณ์ไปหาซื้อ โชคดีที่เราได้หิน Agate มา 1 คู่ที่คล้ายรูปหูมากมาประคบหูปราง พี่นวดหูให้ปรางและเล่นจ๊ะเอ๋กันทุกวันเพื่อลองเช็คว่าปรางได้ยินเสียงแม่หรือเปล่า พี่ปรับทุกเรื่องที่โรงเรียนบอกว่าดีเพื่อให้จังหวะของโรงเรียนกับที่บ้านเข้ากัน ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็เริ่มทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
เราทิ้งของเล่นพลาสติด ทิ้งเก้าอี้โยกเยกและ Walker หัดเดินออกจากบ้าน เพราะพี่เรียนรู้ว่า Walker เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่จะขัดขวางการเดินของลูกคนเล็ก ตอนนั้นพี่เพิ่งคลอดน้องโอมได้ไม่นาน พี่กลับมากุมชะตาชีวิตตัวเองใหม่ เรียนรู้ที่จะเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูกทั้ง 3 คน กลับมารื้อบ้านทำบ่อทรายให้ลูกเล่น เสาร์ อาทิตย์พาลูกไปเที่ยวรถไฟ อ่านนิทาน ร้องเพลงกล่อมลูกนอนทุกวัน สั่งทำที่ปีนสูง 2.5 เมตรให้ปรางเล่น พี่หลงรักวิชาที่โรงเรียนสอนมากขึ้นเรื่อย ๆ เฝ้ารอเวลาว่าโรงเรียนจะเปิดสอนวิชาใหม่เมื่อไหร่ บางหลักสูตรเรียนนานมากจนพี่ต้องลางานแบบไม่รับเงินเดือนเพราะเริ่มสนุกกับการเรียนและอยากหาหนทางเลี้ยงลูกด้วยตัวเองอีกครั้ง ตอนฟังวิทยากรต่างประเทศมาบรรยาย ครูท่านหนึ่งบอกว่าแม่ต้องเป็นทั้งครูและหมอให้ลูก ๆ ด้วยเพราะโรงเรียนเราดูแลเด็ก ๆ ตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย ความคิดเรื่องเป็นหมอแว๊บเข้าในหัวเพราะลูกแต่ละคนเติบโตขึ้นทุกวัน |
ในฐานะตัวเองเป็นพี่คนโตเหมือนปราง พี่เพิ่งรู้ว่าตำแหน่งพี่คนโตสามารถเป็นได้ทั้ง "ผู้ต่อต้าน" หรือ "ผู้พิทักษ์" กฏระเบียบหรือความเชิ่อเดิมของครอบครัว พี่คนโตเป็นผู้นำ เป็นสะพานเชื่อมโลกอดีตกับอนาคต เป็นกำแพงกั้นกลางระหว่างพ่อแม่กับน้องลำดับถัดไป เป็นคนกลางผู้ไกล่เกลี่ย เป็นตอหม้อสะพานให้น้องได้ก้าวข้ามผ่าน
กลับมาดูตัวเองก็พบว่า พี่ต่อต้านความเชื่อของแม่ทุกเรื่อง โดนแม่ตีตลอดเพราะน้องวิ่งหนีไปแล้ว ตอนเล็กๆ เราสองคนทะเลาะกันทุกวันแต่โตขึ้นแล้วเรารักกันมาก พี่ดีใจที่น้องมีครอบครัวที่ดี มีอาชีพการงานที่มั่นคง ดูแลตัวเองและพ่อแม่ได้
ความคิดเรื่องการดูแลลูกตามธรรมชาติเริ่มส่งสัญญาณแรงขึ้นเรื่อย ๆ พี่กลับไปถามแม่ว่าเลี้ยงพี่มาอย่างไรตอนพี่ป่วย แม่เล่าให้ฟังยาวเหยียดว่าใช้ยาอะไรดูแลตอนพี่ออกหัด ออกอีสุกอีใส เป็นลมพิษ แม่บอกว่าตอนเล็ก ๆ พี่ขี้โรคมากแม่ต้องพาไปกวาดคอกับยายปรั่งประจำ
เส้นทางชีวิตและภารกิจบนโลกของแม่อย่างพี่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังเรียนวิชาหลายหลักสูตรจบลง ติดตามตอนต่อไปนะคะว่าน้องปัญญ์ สาวน้อยมหัศจรรย์ ลูกสาวคนที่สองของบ้านและน้องโอมลูกชายคนเล็กของบ้านเปลี่ยนแปลงชีวิตแม่แบบพลิกฝ่ามือได้อย่างไร ติดตามตอนไปค่ะ
รัก
พี่ณี
22/4/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309156
กลับมาดูตัวเองก็พบว่า พี่ต่อต้านความเชื่อของแม่ทุกเรื่อง โดนแม่ตีตลอดเพราะน้องวิ่งหนีไปแล้ว ตอนเล็กๆ เราสองคนทะเลาะกันทุกวันแต่โตขึ้นแล้วเรารักกันมาก พี่ดีใจที่น้องมีครอบครัวที่ดี มีอาชีพการงานที่มั่นคง ดูแลตัวเองและพ่อแม่ได้
ความคิดเรื่องการดูแลลูกตามธรรมชาติเริ่มส่งสัญญาณแรงขึ้นเรื่อย ๆ พี่กลับไปถามแม่ว่าเลี้ยงพี่มาอย่างไรตอนพี่ป่วย แม่เล่าให้ฟังยาวเหยียดว่าใช้ยาอะไรดูแลตอนพี่ออกหัด ออกอีสุกอีใส เป็นลมพิษ แม่บอกว่าตอนเล็ก ๆ พี่ขี้โรคมากแม่ต้องพาไปกวาดคอกับยายปรั่งประจำ
เส้นทางชีวิตและภารกิจบนโลกของแม่อย่างพี่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังเรียนวิชาหลายหลักสูตรจบลง ติดตามตอนต่อไปนะคะว่าน้องปัญญ์ สาวน้อยมหัศจรรย์ ลูกสาวคนที่สองของบ้านและน้องโอมลูกชายคนเล็กของบ้านเปลี่ยนแปลงชีวิตแม่แบบพลิกฝ่ามือได้อย่างไร ติดตามตอนไปค่ะ
รัก
พี่ณี
22/4/60
บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด
LINE ID : the3worldscreator
Facebook : www.facebook.com/the3worldscreator
Tel. 093-2459985, 02-5309150
Fax. 02-5309156